อมรัตน์ เข้ารับทราบข้อหา ประยุทธ์ ฟ้องหมิ่น 3 กรณี งงอภิปรายยังโดน ยัน รบ.-นายกฯ ต้องวิจารณ์ได้

อมรัตน์ ก้าวไกล เข้ารับทราบข้อหา ประยุทธ์ ฟ้องหมิ่น 3 กรณี งงหนักอภิปรายยังโดน ยันรัฐบาล-นายกฯ ต้องวิจารณ์ได้ ชี้ผ่านมา 7 ปีไม่มีอะไรดีขึ้น

เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 27 มีนาคม ที่ สน.นางเลิ้ง นางอมรัตน์ โชคปมิตต์กุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล เข้าพบ พ.ต.ท.อธิชย์ ดอนนันชัย รอง ผกก.(สอบสวน) สน.นางเลิ้ง เพื่อรับทราบข้อกล่าวหาดูหมิ่นเจ้าพนักงาน และข้อกล่าวหาหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา กรณีวิจารณ์การทำงานของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี

นางอมรัตน์ กล่าวว่า วานนี้ (26 มี.ค.64) ได้รับแจ้งจากทนายความว่าได้รับหมายเรียกรับทราบข้อกล่าวหาฐาน ดูหมิ่นเจ้าพนักงาน หรือหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา ซึ่งมี นายอภิวัฒน์ ขันทอง กรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นผู้ฟ้อง

ตอนนี้ยังไม่ทราบว่าเป็นการกระทำผิดจากการโพสต์ข้อความทางโซเชียลมีเดีย หรือการอภิปรายไม่ไว้วางใจในวันที่ 16 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ซึ่งตนได้ตั้งข้อสังเกตไว้ว่านายกรัฐมนตรีไม่เสียภาษี และรับเงินเกิน 3,000 บาท แต่ก็ไม่มีความกังวลใดๆ เพราะทนายแจ้งว่าเป็นโทษปรับ และจะต่อสู้คดีในชั้นศาลจนถึงที่สุด

นางอมรัตน์ กล่าวอีกว่า มองว่าเป็นการกระทำตามขอบเขตกฎหมายที่ ส.ส.พึงกระทำได้ ในการวิพากษ์วิจารณ์การทำงานของรัฐบาลและนายกรัฐมนตรีตามปกติ เช่นเดียวกับประชาชนทั่วไป เพราะเห็นว่าการทำงานตลอด 7 ปีที่ผ่านมาไม่ได้มีอะไรดี ทุกสิ่งที่ตนนำเสนอไปไม่ว่าช่องทางใดก็ทำไปด้วยความระมัดระวัง ใครจะแจ้งความก็เป็นสิทธิ์ แต่อยู่ที่พนักงานสอบสวนและอัยการจะพิจารณาพยานหลักฐาน

ด้าน พ.ต.ท.อธิชย์ กล่าวว่า กรณีนี้นางอมรัตน์ ได้ทวิตข้อความผ่านทวิตเตอร์ส่วนตัว ซึ่งเป็นหลักฐานประกอบการออกหมายเรียกมารับทราบข้อกล่าวหาในวันนี้ โดยรายละเอียดอยู่ระหว่างการสอบปากคำ

หลังจากที่ นางอมรัตน์ โชคปมิตต์กุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล เข้าพบ พนักงานสอบสวนเพื่อรับข้อกล่าวหาเสร็จสิ้น โดยใช้เวลาประมาณ 30 นาที ได้ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวว่า นางอมรัตน์ ระบุว่า ในคดีนี้ตนเองถูกแจ้งความดำเนินคดี 3 กรณี คือ การโพสต์ข้อความผ่านทวิตเตอร์ตำหนิ วิพากษ์วิจารณ์นายกรัฐมนตรี 2 ครั้ง เมื่อวันที่ 11 สิงหาคม 2563 และวันที่ 12 กันยายน

อีกกรณีเป็นการวิพากษ์วิจารณ์นายกรัฐมนตรีระหว่างการอภิปรายไม่ไว้วางใจเมื่อวันที่ 16 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ซึ่งให้ข้อสังเกตว่าโดยปกติการวิพากษ์วิจารณ์ขณะอภิปรายไม่ไว้วางใจจะไม่สามารถนำมาฟ้องร้องดำเนินคดีกันได้ แต่นายกรัฐมนตรีกลับให้ตัวแทนมาแจ้งความดำเนินคดีตนเอง

หลังเข้ารับทราบข้อกล่าวหาก็ได้ให้การปฏิเสธ เพราะถือเป็นการกระทำตามขอบเขตกฎหมายที่ ส.ส.พึงกระทำได้ ในการวิพากษ์วิจารณ์การทำงานของรัฐบาลและนายกรัฐมนตรีตามปกติ เช่นเดียวกับประชาชนทั่วไป