‘ธนเดช’ จี้กองทัพแจง ‘กองข้าวปริศนา’ ชายแดนไทย-พม่า ซัดอย่าดีแต่ขู่สื่อกระทบความสัมพันธ์

ชี้ให้ชัด! ‘เรืออากาศโทธนเดช’ จี้กองทัพแจง ‘กองข้าวปริศนา’ ชายแดนไทย-พม่า ส่งไปไหน อย่าดีแต่ขู่กระทบความสัมพันธ์ ย้ำ ส่งข้าวให้กองทัพพม่าเท่ากับผลักไทยร่วมหนุนก่ออาชญากรรมต่อมนุษยชาติ

วันที่ 22 มีนาคม 2564 เรืออากาศโทธนเดช เพ็งสุข อดีตผู้สมัคร ส.ส.พรรคอนาคตใหม่ (อนค.) เขตลาดพร้าว กล่าวถึงกรณีกองข้าว ปริศนา 700 กระสอบ เสบียงต่างๆรวมถึงยุทธปัจจัยอื่นๆ เช่น น้ำมันวางกองอยู่ที่ท่าเรือแม่สามแลบ ริมแม่น้ำสาละวิน อ.สบเมย จ.แม่ฮ่องสอน โดยมีเสียงวิจารณ์ว่ากองเสบียงและยุทธปัจจัยเหล่านี้คือสิ่งที่ทางการไทยเตรียมส่งให้กองทัพพม่าใช่หรือไม่นั้น

สิ่งที่กองทัพควรทำคือชี้แจงให้ละเอียดว่า สิ่งเหล่านี้ไปกองอยู่ตรงนั้นได้อย่างไร ไม่ใช่พอชี้แจงไม่ได้ก็ให้โฆษกกองทัพบกออกมาขู่สื่อให้นำเสนอข่าวสารด้วยความระมัดระวัง โดยอ้างว่าต้องไม่กระทบเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ และไม่เป็นการก้าวล่วงกิจการภายในของประเทศอื่น

“เรื่องนี้กองทัพต่างหากที่ควรสื่อสารด้วยความระมัดระวังและไปคุยกันให้ดีก่อนว่าข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร ไม่ใช่คนหนึ่งบอกว่าเป็นสินค้าที่ทางกองทัพพม่าฝากซื้อ เราแค่ส่งไปให้ ผมก็เพิ่งรู้ว่ากองทัพไทยมีงานเสริมเป็นบริการส่งอาหารแบบแกล็บฟู้ดหรือฟู้ดแพนด้าด้วย แต่พอไปถามอีกคนก็บอกว่าเป็นเรื่องการค้าขายชายแดนปกติที่ศุลกากรเป็นผู้ดูแล สุดท้ายข้าวปริศนากองนี้ก็เลยยังไม่รู้ว่าเป็นของใคร จะส่งไปไหน กลายเป็นกองทัพยอมรับว่าชายแดนไทยใครอยากเอาอะไรไปวาง อยากขนเข้าขนออกอย่างไรโดยกองทัพไม่ต้องรู้ก็ได้ ตกลงว่ากองทัพจะดูแลชายแดนกันแบบนี้หรือครับ”

เรืออากาศโทธนเดช กล่าวต่อไปว่า สิ่งที่กองทัพควรทำคือการตรวจสอบให้ชัดเจนเพื่อให้สามารถชี้แจงต่อสังคมได้ว่าสินค้ากองนี้ใครเป็นเจ้าของและจะส่งไปไหน มีการดำเนินการอย่างถูกต้องหรือไม่ อย่างไรก็ตาม ก็มีข้อสังเกตจากคุณภาสกร จำลองราช สื่อมวลชนที่เกาะติดสถานการณ์ชายแดนมานาน

ตั้งข้อสังเกตว่า ข้ออ้างที่บอกว่าเป็นสินค้าที่ค้าขายกันดูจะไม่สมเหตุสมผลนักเพราะทางการไทยสั่งห้ามเรือแล่นในแม่น้ำสาละวินมาตั้งแต่การแพร่ระบาดของโควิดปีก่อนแล้ว กระทั่งกลุ่มคนเรือแม่สามแลบเคยร้องเรียนหลายรอบเพราะเดือดร้อนกันหนักแค่สัญจรในฝั่งเดียวกันก็ยังไม่ได้รับการผ่อนปรนใดๆแล้วอยู่ดีๆจะมีพ่อค้าแม่ค้าขนข้าวกองมหึมาไปขายใครได้อย่างไร

“กองทัพควรมีคำตอบที่ชัดเจนกว่านี้ในเรื่องนี้ ไม่ใช่ดีแต่ขู่สื่อเมื่อชี้แจงไม่ได้ หรือถ้าเป็นเรื่องการฝากซื้อสินค้าตามปกติจริงก็อยากถามว่าการดำเนินการลักษณะนี้มีการจัดทำบัญชีหรือไม่ ส่งมอบกันอย่างไร ซื้อขายกันในราคาเท่าไหร่ ถ้ามีส่วนต่างจากการดำเนินการส่วนต่างอยู่ที่ใคร แต่ถ้าไม่มีรายละเอียดก็คงเป็นคำถามต่อไปว่าแล้วต่อไปหากจะเป็นการดำเนินการกันเองเพื่อค้าขายสิ่งผิดกฎหมายข้ามแดนก็ทำได้ใช่หรือไม่ เพราะเป็นการดำเนินการที่ไร้หลักฐานราชการรองรับ”

นอกจากนี้ ในส่วนความสัมพันธ์ระหว่างประเทศก็อยากเตือนว่าการส่งมอบเสบียงและยุทธปัจจัยหรือการเป็นธุระดำเนินการแทนในสถานการณ์แบบนี้ต่างหากที่จะเป็นการสุ่มเสี่ยงกระทบความสัมพันธ์ที่มีความอ่อนไหวและมีความซับซ้อนสูง ซึ่งบริเวณนั้นเป็นเขตอิทธิพลของกองกำลังกลุ่ม KNU การดำเนินการใดๆจึงยิ่งต้องระวังเพราะอาจนำไปสู่กรณีพิพาทและอาจทำให้ประชาชนบริเวณนั้นได้รับผลกระทบ

“อีกประการที่สำคัญที่สุดคือ กองทัพและรัฐบาลไทยต้องพึงตระหนักว่าไม่ควรการกระทำใดๆที่เป็นการสนับสนุนการละเมิดสิทธิมนุษยชนหรือการกระทำที่เป็นอาชญากรรมโดยรัฐ ขณะนี้เป็นที่รับรู้กันดีว่ากองทัพพม่าที่ยึดอำนาจมานั้นกำลังเข่นฆ่าประชาชนทุกวัน มีผู้เสียชีวิตไปแล้วไม่ต่ำกว่า 200 ศพ นี่จึงไม่ใช่เรื่องกิจการภายในอีกแล้ว แต่เป็นสิ่งที่ทั่วโลกกำลังกังวลและประชาคมอาเซียนกำลังชิงบทบาทนำในการแก้ปัญหาด้วยการสร้างประชาธิปไตยในพม่าอย่างสันติ ไม่ใช่ชิงแสดงบทบาทถดถอยด้วยการสนับสนุนการกระทำที่เป็นอาชญากรรมต่อมนุษยชาติ” เรืออากาศโทธนเดช กล่าว