ขอบคุณข้อมูลจาก | ข่าวสดออนไลน์ |
---|---|
เผยแพร่ |
วันที่ 4 มีนาคม 2564 บีบีซี รายงานกระแสวิพากษ์วิจารณ์กว้างขวางใน ประเทศสเปน ภายหลังสื่อเสนอข่าวว่า เจ้าหญิงเอลีนา พระชันษา 57 ปี และ เจ้าหญิงคริสตินา พระชันษา 55 ปี พระเชษฐภคินีใน สมเด็จพระราชาธิบดีเฟลิเปที่ 6 แห่งสเปน ทรงได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ในสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (ยูเออี)
ขณะเสด็จเยี่ยม สมเด็จพระราชาธิบดีฆวน การ์โลสที่ 1 พระบิดา ซึ่งเสด็จออกนอกประเทศไปประทับในยูเออีตั้งแต่ปี 2563 หลังจากพระองค์ถูกโยงว่าอาจมีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีคอร์รัปชั่นอื้อฉาว ส่งผลให้หลายฝ่ายไม่พอใจเนื่องจากเจ้าหญิงเอลีนาและเจ้าหญิงคริสตินาทรงไม่ได้อยู่ในกลุ่มบุคคลมีความเสี่ยงสูงที่จำเป็นต้องฉีดวัคซีนโควิด
ด้านเจ้าหญิงเอลีนาทรงชี้แจงผ่านแถลงการณ์ว่า พระองค์และพระขนิษฐารับการฉีดวัคซีนเพื่อขอใบรับรองทางการแพทย์ซึ่งจะอนุญาตให้พระองค์เดินทางไปเยี่ยมพระบิดาได้บ่อยครั้ง
อย่างไรก็ตาม นางไอรีน มอนเตโร รัฐมนตรีกระทรวงความเท่าเทียมของสเปน กล่าวตำหนิเจ้าหญิงเอลีนาและเจ้าหญิงคริสตินา “การฉีดวัคซีนของเจ้าหญิงเป็นข่าวที่ก่อให้เกิดความเสื่อมเสียต่อสถาบันกษัตริย์ สำหรับประชาชนแล้วเรื่องนี้ถือเป็นการได้รับสิทธิพิเศษและการมีอภิสิทธิ์” นางมอนเตโรระบุ ขณะที่นางโยลันดา ดิแอซ รัฐมนตรีกระทรวงแรงงานของสเปน กล่าวว่ากระเด็นดังกล่าวเป็นเรื่องที่ไม่น่าพอใจอย่างยิ่ง
แหล่งข่าวราชวังสเปนปฏิเสธที่จะแสดงความคิดเห็นต่อข่าวที่รอยเตอร์รายงานว่าเจ้าหญิงเอลีนาและเจ้าหญิงคริสตินาทรงไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของราชวงศ์สเปนอย่างเป็นทางการ แต่ระบุว่ากษัตริย์เฟลิเปพร้อมด้วยสมเด็จพระราชินีเลตีเซีย พระมเหสี และพระธิดาทั้งสามพระองค์ จะได้รับการฉีดวัคซีนโควิด-19 ตามกำหนดเวลา
ทั้งนี้ สเปนดำเนินการฉีดวัคซีนไปแล้วราว 4 ล้านโดสแก่บุคลากรทางการแพทย์ในแผนกเสี่ยงและผู้สูงวัยที่มีอายุเกิน 80 ปี