ญาติวีรชนพฤษภา35 หวั่น สัญญาณความรุนแรงยกระดับหลังสลายชุมนุม 28 ก.พ.ขออย่าซ้ำรอยอดีต

ญาติวีรชนพฤษภา 35 หวั่น สัญญาณความรุนแรงยกระดับหลังสลายชุมนุม 28 ก.พ.ขออย่าซ้ำรอยอดีต
เมื่อวันที่ 3 มีนาคม นายอดุลย์ เขียวบริบูรณ์ ประธานคณะกรรมการญาติวีรชนพฤษภา 35 กล่าวถึงเหตุการณ์เจ้าหน้าที่ตำรวจสลายการชุมนุมของกลุ่มเยาวชนปลดแอกและแนวร่วมในนาม REDEM (Restart Democracy) ที่บริเวณหน้ากรมทหารราบที่ 1 มหาดเล็กรักษาพระองค์ฯ (ร.1 พัน 1 รอ.) เมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ว่า ขอประณามความรุนแรงทุกรูปแบบไม่ว่าจะเกิดจากฝ่ายใดก็ตาม เนื่องจากไม่อยากให้เกิดความสูญเสีย เพราะในอดีตตนเองเคยเจ็บปวดมาแล้วในเหตุการณ์พฤษภาปี 2535 อย่างไรก็ตามเหตุแห่งความรุนแรงดังกล่าวมาจากความขัดแย้งทางความคิดที่สะสมมาหลายปี ตั้งแต่การชุมนุมของเสื้อเหลือง-เสื้อแดง เมื่อพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ในฐานะหัวหน้าคสช.เข้ามายึดอำนาจเมื่อ 22 พ.ค.2557 ให้สัญญาอีกว่าไม่นานบ้านเมืองจะกลับสู่ความสงบ แต่พล.อ.ประยุทธ์ มุสา ไม่ทำตามสัญญา ความขัดแย้งจึงร้าวลึกกว่าเดิม มีนักศึกษาเยาวชนออกมาชุมนุมอีกมากมาย

นายอดุลย์ กล่าวว่า เหตุการณ์สลายการชุมนุมของกลุ่มเยาวชนนักศึกษาเป็นการส่งสัญญาณว่า ความรุนแรงจะยกระดับขึ้นเรื่อยๆ เลือดคนไทยจะอาบแผ่นดิน มีแต่สะสมเงื่อนไขความเกลียดชัง สร้างความแตกแยกในหมู่ประชาชน เยาวชนคนรุ่นใหม่ออกมาเรียกร้องทางการเมืองแทนที่จะใช้กระบวนการพูดคุยทำความเข้าใจหาทางออก กลับมองว่า เป็นศัตรูฝ่ายตรงข้าม ใช้กลไกรัฐทำลาย ข่มขู่คุกคาม ยัดเยียดความอยุติธรรม เป็นตราบาปอย่างใหญ่หลวง และยังทำลายระบบรัฐสภา และกลไกตรวจสอบของพรรคฝ่ายค้าน ซึ่งเปิดโปงการทุจริตคอร์รัปชั่น แต่รัฐบาลก็ไม่มีคำตอบที่สร้างความกระจ่างให้ประชาชน หนักกว่านั้นยังปล่อยให้มีการซื้อตัว ส.ส.งูเห่ามาโหวตสนับสนุนรัฐมนตรีที่ถูกอภิปราย แม้กระทั่งการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ที่ประชาชนคาดหวังว่าจะเป็นทางออกของวิกฤติประเทศ ก็เชื่อรัฐบาลจะเล่นละครตบตาหาเทคนิคล้มกระดานเหมือนทุกครั้งที่ผ่านมา

“แม้พล.อ.ประยุทธ์ จะชนะเสียงในสภาผู้แทนราษฎร แต่ความชอบธรรมไม่เหลือแล้ว เพราะความขัดแย้งและความเกลียดชังกำลังทวีความรุนแรงจนน่าเป็นห่วงว่าจะเกิดความรุนแรงมากขึ้น นอกจากพล.อ.ประยุทธ์ ไม่แก้ไขความขัดแย้ง แต่กลับอาศัยความขัดแย้งสร้างอาณาจักรแห่งความกลัวเพื่อรักษาอำนาจของตนเอง โดยไร้ความรับผิดชอบต่อบ้านเมือง ดังนั้น พล.อ.ประยุทธ์ ในฐานะนายกรัฐมนตรี ต้องหาทางระงับยับยั้งไม่ให้เกิดความรุนแรงขึ้นอีกไม่เช่นนั้นจะแบกความรับผิดชอบไม่ไหว และยังคงเรียกร้องให้พล.อ.ประยุทธ์ ลงจากตำแหน่ง ก่อนที่ประเทศจะเสียหายเกินเยียวยา” นายอดุลย์ กล่าว