‘วิษณุ’ รับ หากศาลรธน.ชี้ รัฐสภาไม่มีอำนาจ ที่พิจารณามาเท่ากับเป็นศูนย์

วันที่ 3 มีนาคม 2564 เมื่อเวลา 09.15 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) พิจารณาความเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) ว่า เห็นด้วยกับกกต. ที่ส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความ ซึ่งกกต. สามารถสงสัยและส่งไปได้ และเชื่อว่าเรื่องนี้ จะมีการพิจารณาได้เร็ว ซึ่งจะได้เป็นบรรทัดฐาน ถือว่าดี ความจริงเรื่องนี้จะว่าชัดมันก็ชัดอยู่แล้ว แต่เพื่อไม่ให้เกิดปัญหา เพราะไปเกี่ยวพันกับเรื่องของการที่จะเลื่อนคนขึ้นมาแทนในการเลือกตั้งซ่อม ถ้าหากจะเลื่อนเลยแล้วมีเรื่องขึ้นมาในภายหลังมันก็จะยุ่ง กกต. มีอำนาจอยู่แล้วเรื่องจะได้จบไป น่าจะหมดปัญหาที่สงสัยกัน ซึ่งที่ผ่านมาเราก็มีตัวอย่างจากหลายๆ เคส

ผู้สื่อข่าวถามว่า จนถึงขณะนี้มีการส่งรายชื่อรัฐมนตรีใหม่มาให้ตรวจสอบหรือยัง นายวิษณุ กล่าวว่า ตนไม่ทราบเป็นเรื่องของนายกรัฐมนตรีและเลขาธิการคณะรัฐมนตรี แต่เข้าใจว่ายังไม่มีใครส่งมา

เมื่อถามว่า ขั้นตอนการตรวจสอบจะต้องใช้เวลานานหรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า หากน้อยคนก็ไม่นาน แต่ถ้ามากคนก็จะนานหน่อย และถ้าหากเป็นรัฐมนตรีที่เคยตรวจสอบแล้วก็ไม่น่าจะมีปัญหา มันไม่เหมือนกับการตั้งคณะรัฐมนตรีใหม่ทั้งชุด ที่อาจจะวุ่นวายหน่อย เนื่องจากจะต้องดูเรื่องของสัมปทาน หุ้นสื่อ ซึ่งหากคนที่เข้ามาใหม่เป็นส.ส. อยู่แล้วปัญหาเหล่านี้ก็จะหมดไป

ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีที่ผลของศาลรัฐธรรมนูญอาจจะ มีออกมาก่อนการพิจารณาวาระ 2 วาระ 3 แล้วเสร็จ จะมีปัญหาได้หรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า ก็อยู่ที่ว่าผลนั้นออกมาเป็นอย่างไร ซึ่งขณะนี้ประธานสภาก็รออยู่ ทางสำนักเลขาธิการ คณะรัฐมนตรีก็ได้มีหนังสือสอบถามไปนานแล้วว่า เมื่อรัฐธรรมนูญผ่านวาระ 2 จะเข้าวาระ 3 ซึ่งต้องทิ้งไว้ อย่างน้อย 15 วัน ทางสภาคิดว่า จะเปิดสภาสมัยประชุมวิสามัญได้เมื่อไหร่ จะได้มาขอออกพระราชกฤษฎีกา เพราะรัฐบาลจะต้องเป็นผู้ดำเนินการเพื่อทูลเกล้าถวายฯ และคิดว่าจะเปิดกี่วัน เพราะเราไม่รู้ว่า เปิดแล้วจะมีภารกิจทำอะไรบ้าง เพราะเท่าที่รู้ก็คือเปิดเพื่อโหวตรัฐธรรมนูญวาระ 3 แต่ได้ยินพูดๆ กันว่า ไม่พอ จำเป็นต้องให้ความเห็นชอบ ร่างพ.ร.บ.ว่าด้วยการออกเสียงประชามติ และ มีบางคนก็บอกว่าไหนๆ ก็เปิดแล้ว ประมวลกฎหมายยาเสพติดก็เสร็จแล้ว และต้องเข้าที่ประชุมร่วมด้วย ดังนั้นเมื่อการเปิดครั้งนี้เป็นการเปิดเพื่อประชุมร่วมอยู่แล้วก็ควรจะ นำเรื่องนี้เข้าพิจารณาด้วยเลย โดยอาจจะพิจารณาทั้งสามเรื่อง 3 วาระไปเลย ซึ่งได้ถามไปแล้วว่ามีหรือไม่ จริงหรือไม่ จะได้รู้ว่าเปิดแล้วจะต้องปิดเร็วหรือไม่ เพราะเวลาทูลเกล้าฯ จะต้องมีทั้งฉบับเปิดหนึ่งฉบับ และฉบับปิดอีกหนึ่งฉบับ แต่ทางสภายังไม่ได้ตอบคำถามดังกล่าวมา คงอยากจะรอฟังคำพิพากษาของศาลรัฐธรรมนูญก่อน

ผู้สื่อข่าวถามว่า ผลการพิพากษาของศาลรัฐธรรมนูญจะมีผลเกี่ยวข้องกับการพิจารณาวาระ 3 หรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า “ปกติจะไม่เกี่ยวกัน แต่อาจจะเกี่ยวกันได้ถ้าศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งอะไรที่เกี่ยวข้องกัน เช่น ถ้าศาลสั่งว่าทำได้ก็ไม่มีปัญหา หรือถ้าศาลสั่งว่าทำไม่ได้ ถ้าอย่างนั้นก็ไม่ต้องประชุมในวาระ 3 แล้ว”

เมื่อถามย้ำว่าดังนั้นที่ประชุมแก้ไขรัฐธรรมนูญกันมาทั้งหมดก็เป็นศูนย์ใช่หรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า “ใช่ สิ่งที่ทำไปแล้วก็ถือว่าใช้ไม่ได้ แต่ความจริงมันก็ใช้ได้เพียงแต่ว่ามันจะทำต่อไปไม่ได้”

เมื่อถามว่า แสดงว่าเท่ากับไม่ได้มีการแก้ไขใดๆ เลย ใช่หรือไม่ นายวิษณุ พยักหน้า แต่ไม่ได้กล่าวอะไร

ผู้สื่อข่าวถามว่า ทางรัฐบาลยังคงมีแนวทางที่อยากให้แก้ไขรัฐธรรมนูญอยู่ใช่หรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า ถ้าออกมาในรูปนั้นก็สามารถแก้ไขเป็นรายมาตราได้ ปัญหาต่อไปก็คือจะแก้มาตราไหน เมื่อถามว่า ยืนยันว่าหมวด1 หมวด 2 ไม่แตะต้องใช่หรือไม่ นายวิษณุกล่าวว่า วันนี้ยังจะต้องยืนยันอีกหรือ