วันที่ 3 มีนาคม 2564 เมื่อเวลา 09.30 น.ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ให้สัมภาษณ์ถึงกระแสข่าวความวุ่นวายในพรรค พปชร. ในช่วงที่จะมีการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า จบแล้ว เพราะพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรค พปชร. จะเป็นผู้พิจารณา เมื่อถามว่า รัฐมนตรีทั้งหมดของพรรค พปชร. ที่ยังทำหน้าที่อยู่ขณะนี้จะยังได้ดำรงตำแหน่งต่อไปใช่หรือไม่ นายอนุชากล่าวว่า ไม่รู้ เพราะเป็นเรื่องของหัวหน้าพรรคตัดสินใจ กรรมมการบริหารพรรค (กก.บห.) ทุกคนมีมติเป็นเอกฉันท์ ที่จะให้หัวหน้าพรรคเป็นผู้เสนอรายชื่อบุคคลที่จะดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีแทนตำแหน่งที่ว่างลง

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า จะเสนอรายชื่อให้แทนตำแหน่งที่ว่างลงอย่างเดียวหรือจะปรับเปลี่ยนตำแหน่งอื่นด้วย นายอนุชากล่าวว่า ขึ้นอยู่กับหัวหน้าพรรค พปชร. พิจารณา และดำเนินการ ซึ่งท่านคงต้องปรึกษากับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม

เมื่อถามว่า กก.บห. บางคนอยากให้พิจารณาบุคคลแบ่งตามโควต้าพื้นที่ภาค นายอนุชากล่าวว่า ไม่มีการเสนอแบบนั้นมา ไม่มีใครพูดอะไรเยอะแยะ เพราะได้มอบอำนาจให้หัวหน้าพรรค พปชร. ตัดสินใจแล้ว เมื่อถามย้ำว่า เท่าที่ดูภาพรวมคิดว่าจะมีรัฐมนตรีที่ถูกปรับออกหรือไม่ นายอนุชากล่าวว่า คิดว่าไม่มี เพราะตอนนี้มี 2 ตำแหน่งที่ว่างอยู่ ไม่มีอย่างอื่น อย่างไรก็ตาม ตนเชื่อว่าเรื่องนี้ไม่น่าห่วงอะไร เพราะทั้งหัวหน้าพรรคและนายกฯ คงได้ปรึกษาหารือกัน เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อรัฐบาลและพรรค พปชร. รวมถึงสามารถทำงานให้กับประชาชน และประเทศชาติ โดยเชื่อว่าสถานการณ์ภายในพรรค คงจะมีมติเป็นเอกฉันท์ เพราะได้มอบอำนาจให้หัวหน้าพรรคไปแล้ว

เมื่อถามถึงกรณีที่ลูกพรรค พปชร. เข้าชื่อถึง พล.อ.ประวิตร เพื่อมอบอำนาจให้ พล.อ.ประวิตร พิจารณาคนที่จะมาดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีเองจากคนภายในพรรค ไม่ถือเป็นการกดดันใช่หรือไม่ นายอนุชากล่าวว่า ไม่มีอะไรที่กดดัน และไม่มีอะไรที่เป็นประเด็นให้ต้องไปตอบ

เมื่อถามถึงกรณีที่ พล.อ.ประวิตรจะลงพื้นที่หาเสียงและจะขึ้นปราศรัยใหญ่ช่วยการเลือกตั้งซ่อม เขต 3 จังหวัดนครศรีธรรมราช นายอนุชากล่าวว่า ต้องขอดูกำหนดการอีกครั้ง ว่า พล.อ.ประวิตรจะขึ้นปราศรัยหรือไม่ ซึ่งขณะนี้ยังไม่มีความแน่นอนเท่าไหร่ โดยพรรคพปชร. อยากจะได้ ส.ส. ในพื้นที่นี้ เพราะผู้สมัครของเราเคยลงสมัครรับเลือกตั้งครั้งที่แล้ว แล้วได้คะแนนไม่ห่างจากผู้ชนะ เท่าที่ตนลงพื้นที่หาเสียงในครั้งนี้ ก็เห็นว่าประชาชนให้การตอบรับเป็นอย่างดี เพราะชื่นชอบในนโยบายของรัฐบาลซึ่งเป็นสิ่งที่พรรค พปชร. ได้มีส่วนร่วม โดยเฉพาะนโยบายคนละครึ่ง นโยบายเราชนะ และคนจังหวัดนครศรีธรรมราชรักนายกฯ

เมื่อถามว่า ในฐานะที่เป็นเลขาธิการพรรค พปชร. รู้สึกหนักใจที่การแข่งขันครั้งนี้เป็นการต่อสู้กันเองระหว่างพรรคร่วมรัฐบาล นายอนุชากล่าวว่า เป็นเรื่องปกติ เมื่อต้องมาเจอกับคนที่ทำงานด้วยกัน แล้วต้องมาเจอการแข่งขันกันก็ต้องลำบากใจ แต่ในทางการเมืองเราก็จำเป็นต้องเสนอทางเลือกของเราไปสู่ประชาชนให้ตัดสินใจ ตนเชื่อว่าจะไม่มีความบาดหมางที่จะส่งผลกระทบตามมา เท่าที่ได้พบเจอและพูดคุยกันก็ยังเป็นเหมือนเดิม ไม่ได้นำเรื่องพวกนี้มาเป็นประเด็นทางการเมือง

เมื่อถามว่า หากถูกผลักดันไปดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) พร้อมรับตำแหน่งนี้หรือไม่ นายอนุชากล่าวว่า แล้วแต่ผู้ใหญ่ ไม่ว่าตนจะไปทำงานที่ไหนก็ตั้งใจทำงานอยู่แล้ว ไปอยู่ตรงไหนก็ได้

ก่อนหน้านี้ เมื่อเวลา 09.30 น. ที่ตึกภักดีบดินทร์ ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม เป็นประธานพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือโครงการบูรณาการเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตกลุ่มเปราะบางรายครัวเรือน ระหว่าง 12 กระทรวง 1 หน่วยงาน โดยเมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า การปรับคณะรัฐมนตรี(ครม.)ครั้งนี้ จะเป็นคนในทั้งหมดใช่หรือไม่ ซึ่งพล.อ.ประยุทธ์ไม่ได้ตอบคำถามดังกล่าวเพียงแต่หันมามองหน้านิ่ง

ขณะที่ นายอิทธิพล คุณปลื้ม รมว.วัฒนธรรม และกรรมการบริหารพรรคพลังประชารัฐ กล่าวถึงมติที่ประชุมกรรมการบริหารพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) มอบอำนาจเด็ดขาดให้กับ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีในฐานะหัวหน้าพรรค พปชร.ว่า ไม่ได้ห้ามคนนอก แต่ต้องเป็นคนในพรรคพลังประชารัฐ

สำหรับการปรับเปลี่ยนเบื้องต้นก็จะมีเฉพาะตำแหน่งที่ว่างลง ส่วนจะเกลี่ยหรือจะปรับเปลี่ยนอย่างไรขึ้นอยู่กับหัวหน้าพรรค และนายกรัฐมนตรี และผู้ที่จะมาเป็นไม่ได้จำกัดว่าต้องเป็นกรรมการบริหารพรรค ตรงนี้ถือเป็นหลักการและผลก็ยังไม่รู้ว่าพล.อ.ประวิตร จะเลือกใค