#SaveAmanda : ปลด “อแมนด้า” พ้นทูตสุขภาพจิต ลดความขัดแย้ง

วันที่ 2 มีนาคม 2564 กรมสุขภาพจิตยุติการมอบหมาย นางสาวอแมนด้า ชาลิสา ออบดัม มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2020 เป็นทูตด้านสุขภาพจิต ตามที่กรมสุขภาพจิตและกองประกวดมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ได้เคยมีการตกลงความร่วมมือด้านการประชาสัมพันธ์และส่งเสริมภาพลักษณ์งานด้านสุขภาพจิตของกระทรวงสาธารณสุขนั้น รวมไปถึงสนับสนุนการดำเนินงานด้านสุขภาพจิตของกองประกวดมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์

ซึ่งก่อนหน้านี้ทางกรมสุขภาพจิตมีข้อตกลงกับกองประกวดในการมอบหมายให้เจ้าของตำแหน่งมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2020 ดำเนินภารกิจเป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ของกรมสุขภาพจิตหรือทูตด้านสุขภาพจิต เพื่อปฏิบัติหน้าที่ช่วยสร้างความตระหนักถึงปัญหาด้านสุขภาพจิตในประเทศไทย

แพทย์หญิงพรรณพิมล วิปุลากร อธิบดีกรมสุขภาพจิต กล่าวว่า ทางกรมสุขภาพจิตได้รับทราบถึงข้อกังวลของประชาชนต่อการมอบหมายภารกิจด้านสุขภาพจิตแก่ นางสาวอแมนด้า ชาลิสา ออบดัม เจ้าของตำแหน่งมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2020 ในช่วงที่ผ่านมา ซึ่งการมอบหมายภารกิจทูตด้านสุขภาพจิตที่ได้นั้นไม่ได้เป็นการมอบหมายอภิสิทธิพิเศษแต่อย่างใด เป็นเพียงหน้าที่และภารกิจการช่วยเหลืองานด้านสุขภาพจิตเท่านั้น

ซึ่งมีหน้าที่ได้แก่ 1.ส่งเสริมภาพลักษณ์การทำงานด้านสุขภาพจิต 2.ประชาสัมพันธ์ และเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารเพื่อช่วยให้คนไทยมีสุขภาพจิตที่ดี 3.ปฏิบัติงานจิตอาสากรมสุขภาพจิต และ 4.ขยายเครือข่ายจิตอาสาเพื่อสร้างกระแสการเป็นผู้รับฟังที่ดี เช่นเดียวกับความร่วมมือของกรมสุขภาพจิตกับกองประกวดมิสไทยแลนด์เวิล์ดในช่วงปี 2563 ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นการมอบหมายภารกิจทูตด้านสุขภาพจิตเช่นเดียวกัน

กรมสุขภาพจิตมีเป้าหมายในการสร้างความสุขให้แก่ประชาชนและรับฟังความคิดเห็นของประชาชนมาโดยตลอด แต่อย่างไรก็ดี กรมสุขภาพจิตรับทราบถึงความกังวลใจของประชาชนในขณะนี้ และกรมสุขภาพจิตไม่สามารถดำเนินภารกิจที่อาจจะก่อให้เกิดความขัดแย้งและสร้างความไม่สบายใจแก่ประชาชนในสังคมได้

ทั้งนี้กรมสุขภาพจิตได้มีการปรึกษาหารือกับกองประกวดมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์และรับทราบร่วมกันถึงความกังวลใจของประชาชน ทางกรมสุขภาพจิตจึงขอยุติบทบาทภารกิจทูตด้านสุขภาพจิตดังกล่าวตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป

ถ้อยแถลงจากสุขภาพจิตมีขึ้น หลังจากวานนี้ (1 มีนาคม 2564) นายนริศโรจน์ เฟื่องระบิล อดีตเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงบัวโนสไอเรส ประเทศอาร์เจนตินา ได้โพสต์ข้อความลงในเฟซบุ๊กว่า การจะประกาศแต่งตั้งใครให้เป็น “ทูตกิตติมศักดิ์” ในตำแหน่งสาขาด้านใดด้านหนึ่ง บุคคลนั้นจะต้องมีประวัติและพฤติกรรมที่ เคลียร์ สมเป็นตัวแทนประเทศจริงๆ

แต่ถ้าไปเอาคนที่ประวัติและพฤติกรรมไม่เคลียร์มาเป็น “ทูตกิตติมศักดิ์” แล้ว ดันมีคนไปขุดคุ้ยเจอเรื่องราวการแสดงออกทั้งวาจาและคำพูดของบุคคลนั้นๆ ซึ่งไม่เหมาะสมกับการเป็น บุคคลสาธารณะ (public figure) เพราะบุคคลนั้นๆขาดการไตร่ตรอง ไม่มองให้รอบด้าน ไม่เป็นกลาง หรือใช้ fake news นำไปเผยแพร่ขยายความเพื่อประจานประเทศตัวเอง ก็ย่อมก่อให้เกิดปัญหาขัดแย้งทางสังคมตามมาอย่างช่วยไม่ได้ !

แบบนี้ไม่เหมาะสมด้วยประการทั้งปวง ทำให้คนที่ทั้งเห็นด้วยและไม่เห็นด้วยทะเลาะกันวุ่นวายจน “เสียสุขภาพจิต” กันไปหมด นี่เป็นข้อพิสูจน์ได้อย่างดีว่าตำแหน่งกิตติมศักดิ์ที่งุบงิบยัดเยียดแต่งตั้งกันเพื่อหวังผลประดับ profile ของบุคคลนั้นๆ fail ไม่สง่างามและไม่เหมาะสมอย่างยิ่ง

นายนริศโรจน์ โพสต์ข้อความอีกว่า โพสต์นี้ นางงามคนหนึ่งเคยโพสต์ไว้โดยมีตราสัญลักษณ์ 3 ขีด เมื่อตอนม็อบโดนฉีดน้ำ โดยใช้ข้อมูลที่บิดเบือนหลายอย่าง เรียกร้องให้ต่างชาติมาช่วยม็อบ 3 นิ้วที่ได้กระทำการหลายอย่างที่ผิดกฏหมายและดูหมิ่นสถาบัน ดังปรากฏหลักฐานเชิงประจักษ์ในตอนนี้มากมาย ถึงแม้ต่อมาเธอจะลบไป แต่สิ่งที่เธอโพสท์มันสำเร็จแล้ว และมีคนแคปไว้ทัน และแล้วหน่วยงานหนึ่งก็มอบตำแหน่ง “ทูตกิตติมศักดิ์ที่เกี่ยวกับสุขภาพจิต” ให้เธอ ! ถามความรู้สึกเพื่อนๆหน่อยครับว่า รับได้มั้ย? นายนริศโรจน์ ได้เขียนในคอมเม้นท์ว่า ประโยคเด็ดของนางคือ ”not to mention the power behind the curtain that sustains it“ นางหมายถึงใคร !!!!????

ทั้งนี้ นายนริศโรจน์ ยังได้โพสต์ข้อความอีกว่า มี ตร.ตายไป 1 นาย มีการทำลายทรัพย์สินราชการ
มีการจุดไฟทำลายพระบรมฉายาลักษณ์ ทูตสุขภาพจิตอยู่ไหน? และ อยากเห็นทูตสุขภาพจิตโพสท์ให้กำลังใจแก่ตำรวจที่ตายและเจ็บจากความรุนแรงของม็อบ จะได้เห็นมั้ย? เพื่อความเป็นกลางไง !

และอีกหลายข้อความสำหรับกรณีดังกล่าว เช่น ถ้าสังคมมันโหดร้ายและรันทดมาก ผู้คนโดนทำร้ายอย่างอยุติธรรมมาตลอด 6 ปี อย่างที่ Amanda บอก คงไม่มีเวทีการประกวด MUT คงไม่มีระบบ infrastructure รถไฟฟ้า ถนนหนทางเพิ่มขยายมากขึ้น คนที่ป่วยโควิดคงจะมากพอๆกับอินเดีย บราซิล ที่คนตายเป็นแสน แต่ทำไมเราไม่รู้สึกเหมือน Amanda เลย แถมกลับรู้สึกอยู่สบาย มองเห็นอนาคตเมืองไทยเจริญเติบโตทุกวัน Amanda เธออยู่ในโลกคู่ขนานอีกดวงใช่มั้ย !?

อย่างไรก็ตาม ภายหลังถูกปลดจากทูตสุขภาพจิต ได้เกิดกระแสโลกโซเชียลออกมาให้กำลังใจกันพร้อมติด #SaveAmanda เพื่อให้กำลังใจแก่สาวงาม พร้อมทั้งวิพากษ์วิจารณ์ถึงการตัดสินใจของกรมสุขภาพจิตในครั้งนี้ อาทิ

– มีคนเคยบอกว่าการ Call-out มีสิ่งที่ต้องแลก และนี่คือสิ่งที่อะแมนด้าต้องแลก คือ การโดนปลดจากตำแหน่งทูตสุขภาพจิต เพียงแค่เธอไม่สนับสนุนความรุนแรง ยืนอยู่ฝั่งประชาธิปไตย และเชื่อมั่นในความเท่าเทียมของมนุษย์

– บอก ณ ตรงนี้เลยนะคะ นางงามคนไหนอยากจะพัฒนาสังคมจริงๆ ไม่ต้องไปเสียเวลาร่วมมือกับภาครัฐค่ะ ไม่มีประโยชน์ ไม่มีทางพัฒนาสังคมแน่นอน เค้าแค่อยากได้ตุ๊กตามาประดับชั้นวางของเฉยๆ ถ่ายรูปร่วมกัน 1 แชะ จบแยกย้าย ยังไงก็เป็นกำลังใจให้อะแมนด้าจ้า

– ผลจากการ call out ยืนข้างประชาชนเสมอมา นี่คือสิ่งที่น้องได้รับค่ะ…รู้สึกแย่มาก การที่ผู้หญิงคนนึงตั้งใจวางแผนทำโครงการ Mental Health มานาน แต่โดนปลด เพราะเขาเคยวิจารณ์การทำงานของรัฐบาล (โดยใช้ถ้อยคำสุภาพและมีเหตุผลตลอด) เพราะแบบนี้ไงบุคคลสาธารณะส่วนใหญ่ถึงไม่กล้าที่จะเปล่งเสียงออกมา…แต่ด้าทำในสิ่งที่ถูกต้องแล้ว เป็นกำลังใจให้น้องต่อไปค่ะ

– อะแมนด้าไม่ผิดอะไรเลย

โดยมีผู้เข้ามาร่วมติดแฮชแท็กดังกล่าวอย่างต่อเนื่องทั้งในเฟซบุ๊ก อินสตาแกรม และทวิตเตอร์