วันที่ 26 กุมภาพันธ์ ผู้สื่อข่าวรายงานว่ากระแสการเมืองกลับมาร้อนแรงอีกครั้งภายหลังพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี จำเป็นต้องปรับคณะรัฐมนตรีผลพวงจากศาลอาญาพิพากษาจำคุกนายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รมว.ดีอีเอส นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รมว.ศึกษาธิการ และ นายถาวร เสนเนียม รมช.คมนาคม ต้องหลุดจากความเป็นรัฐมนตรี ตามมาตรา 160(7) ของรัฐธรรมนูญ นั้น ล่าสุด พล.อ.ประยุทธ์ ให้สัมภาษณ์วันที่ 25 กุมภาพันธ์ ถึงการปรับครม.ว่า เป็นเรื่องของพรรคพปชร.ที่จะเสนอขึ้นมา ทราบดีอยู่แล้วว่าต้องมีการปรับครม.ใน 3 ตำแหน่งที่ว่า วันนี้ยังไม่ถึงขั้นนั้น แต่ช่วงนี้อยู่ในขั้นตอนที่จะเสนอผู้รักษาการกระทรวงต่างๆ ในตำแหน่งที่ว่าง โดยจะนำเข้าครม.ภายในสัปดาห์หน้า และจากนั้นพรรคร่วมรัฐบาลจะหารือกันว่าจะทำอย่างไรกับตำแหน่งที่ขาดหายนี้ โดยแต่ละพรรคร่วมรัฐบาลจะเสนอขึ้นมาที่มีปัญ เพื่อให้นายกฯ ตัดสินใจอีกครั้งว่าจะเอาใครที่ไหนอย่างไร เป็นเรื่องการเมือง เอาขั้นตอนไปก่อน เพราะไม่ใช่ทำได้เลยวันนี้พรุ่งนี้ ยืนยันว่าจะพิจารณาเองอีกครั้ง

เมื่อถามว่า ได้มีการวางไทม์ไลน์ให้พรรคร่วมหารือและเสนอชื่อมาเมื่อใด พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ทุกคนรู้อยู่แล้ว ให้ทุกคนไปหารือ โดยพรรคพปชร.ในฐานะพรรคนำไปหารือพรรคร่วม แสวงหาความร่วมมือกัน ไปคุยกันด้วยหลักการและเหตุผล จากนั้นได้ข้อสรุปเป็นอย่างไรก็เสนอมาให้คัดเลือกตามสัดส่วนที่มีอยู่ เมื่อถามว่า จะมีการเปลี่ยนแปลงสัดส่วนหรือโควต้าพรรคร่วมหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ยังไม่พูดถึงตรงนี้ เมื่อถามว่าคาดว่าการปรับครม.จะแล้วเสร็จภายในเดือนมีนาคมหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ต้องเร็วเพราะการปฏิบัติงานต้องมีผู้รับผิดชอบโดยตรง ดังนั้นจะทำให้ดีและเร็วที่สุด อย่างไรก็ตามยืนยันว่าการปรับครม.ไม่มีแรงกดดัน ใครจะกดดัน ทุกอย่างอยู่ที่ตน

มีกระแสข่าวภายในพรรคพลังประชารัฐ  มีความเคลื่อนไหวจากกลุ่ม พปชร.ภาคใต้ ที่มี ส.ส.ในสังกัด 13 คน ซึ่งกลุ่มสมาชิกด้ามขวานใต้ ได้เรียกร้องหาความชอบธรรมให้กับส.ส.ใต้ทั้ง 13 คน หลังตำแหน่งใน ครม.ว่างลง แหล่งข่าวจาก ส.ส.ใต้ พปชร.ระบุว่า การปรับ ครม.เที่ยวนี้มีกระแสว่า ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จะขึ้นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ขณะที่ นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงแรงงาน จะขึ้นเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ จึงทำให้ตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงแรงงาน และรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ว่างลง ส่งผลให้ทางกลุ่มมองว่าส.ส.พปชร.ใต้มีถึง 13 คน น่าจะให้ตำแหน่ง รมช.กับ ส.ส.พปชร.ใต้บ้าง โดยทางกลุ่มมองว่า การเรียกร้องความชอบธรรมให้กับ ส.ส.ทั้ง 13 คน เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจให้กับ ส.ส.ใต้ในการปฎิบัติหน้าที่ รวมถึงการทำงานในพื้นที่ภาคใต้ในการขับเคลื่อนนโยบายของรัฐบาลให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น

แหล่งข่าวจาก ส.ส.ใต้ พปชร.ระบุว่า ” ใครก็ได้ เพราะ ส.ส.ทั้ง 13 คนของใต้ มีความรู้ความสามารถ เป็น ดร. หลายคนและเหมาะสมที่จะทำงาน เชื่อมั่นว่า บุคคลเหล่านี้สามารถสานต่อนโยบายของรัฐบาลได้อย่างมีประสิทธิภาพ มองว่าในภาคใต้หากมีรัฐมนตรีว่าการหรือรัฐมนตรีช่วยเข้าร่วม ครม. จะทำให้คนในภาคใต้รู้สึกเหมือนว่ารัฐบาลไม่ได้ทอดทิ้งคนภาคใต้แต่อย่างใด เพราะมีตัวแทน ส.ส.เข้าไปร่วมใน ครม “