“ญี่ปุ่น” จ่อยุติให้เงินช่วยเหลือพม่า แต่หวังเจรจา หวั่นหนีซบจีน

วันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2564 สำนักข่าว รอยเตอร์ รายงานว่า ญี่ปุ่นกำลังอยู่ในขั้นตอนของการสรุปแผนการที่จะยุติความช่วยเหลือด้านการพัฒนาแก่พม่า โดยอาซาฮี ชิมบุง หนังสือพิมพ์ระดับชาติของญี่ปุ่น รายงาน เมื่อวันพฤหัสบดี (25ก.พ.64) ว่า เนื่องจากพันธมิตรชาติตะวันตกของเมียนมา มีมาตรการคว่ำบาตรและขู่ว่าจะดำเนินการเพิ่มเติมเกี่ยวกับการรัฐประหารของกองทัพทหาร

อาซาฮี ชิมบุง ได้อ้างถึงแหล่งที่มาของรัฐบาลหลายแห่ง ที่ระบุว่า รัฐบาลญี่ปุ่นจะไม่เรียกการตัดเงินช่วยเหลือด้านพัฒนาการ ว่าเป็นการ “คว่ำบาตร” และจะพยายามโน้มน้าวให้รัฐบาลทหาร บรรลุแนวทางแก้ไขปัญหาประชาธิปไตยผ่านการเจรจา ทั้งนี้ เกียวโดนิวส์ สื่อใหญ่ไม่แสวงหาผลกำไรของญี่ปุ่น ก็รายงานไปในทางเดียวกัน โดยอ้างแหล่งข่าวของรัฐบาล

เมื่อมีการสอบถามไปยัง คัตสึโนบุ คาโตะ หัวหน้าเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ได้ออกมาเปิดเผยว่า “ไม่มีความจริงสำหรับรายงานนี้ แต่ก็เปิดโอกาสให้มีการเปลี่ยนแปลงนโยบาย โดยในด้านที่เกี่ยวกับความช่วยเหลือทางเศรษฐกิจสำหรับเมียนมา เราจะติดตามสถานการณ์อย่างรอบคอบโดยปราศจากอคติและพิจารณา (ทางเลือกต่างๆ)”

ญี่ปุ่นมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับเมียนมาเป็นเวลานาน ได้พยายามไม่แสดงท่าทีแข็งกร้าวต่อรัฐบาลทหาร แม้การรัฐประหารที่ผ่านมา ได้รับการคว่ำบาตรและการประณามจากสหรัฐอเมริกาและชาติอื่น ๆ

ที่ผ่านมา ญี่ปุ่นเป็นผู้บริจาครายใหญ่ให้กับเมียนมา และ บริษัทใหญ่หลายบริษัทของญี่ปุ่นได้รุกหน้าในการขยายธุรกิจที่เมียนมาอย่างมากในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา เนื่องจากญี่ปุ่นมองว่าเมียนมาเป็นตลาดสุดท้ายๆ ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ที่สำคัญที่ยังคงเปิดโอกาสในการลงทุนใหม่ ๆ ซึ่งญี่ปุ่นกังวลว่า หากใช้มาตรการลงโทษที่รุนแรง อาจเป็นการผลักดันเมียนมาให้มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับจีนยิ่งขึ้น หากความสัมพันธ์ระหว่างญี่ปุ่นและเมียนมาอ่อนแอลง

ทั้งนี้ ในวันพฤหัสบดี (25ก.พ.64) กลุ่มสิทธิมนุษยชนต่าง ๆ รวมถึงกลุ่ม ฮิวแมนไรท์วอทช์ และ จัสติส ฟอร์ เมียนมา มีการส่งจดหมายร่วมถึง โมเทกิ โทชิมิทสึ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของญี่ปุ่น โดยมีเนื้อหาเพื่อเรียกร้องให้ญี่ปุ่นกดดันให้ผู้นำคณะรัฐประหารฟื้นฟูรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งตามระบอบประชาธิปไตยและเคารพสิทธิมนุษยชน