“พณ.” เฮ  ส่งออกม.ค.บวก 0.35% ลั่นทั้งปีโต 4% แน่ ชี้ฉีดวัคซีน ตัวแปรหลักฟื้นศก.ทั่วโลก

ที่กระทรวงพาณิชย์ นายภูสิต รัตนกุล เสรีเริงฤทธิ์ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า(สนค.) เปิดเผยว่า การส่งออกของไทยเดือนมกราคม 2564 มีมูลค่า 19,707 ล้านเหรียญสหรัฐ ขยายตัว 0.35% เป็นบวกต่อเนื่องเป็นเดือนที่สอง และเมื่อหักสินค้าเกี่ยวเนื่องกับน้ำมัน ทองคำ และอาวุธยุทธปัจจัย การส่งออกขยายตัวสูงถึง 7.57% สะท้อนการเติบโตจากภาคเศรษฐกิจจริง ทั้งนี้เป็น ผลจากปัจจัยบวก คือ 1. เศรษฐกิจโลกและประเทศคู่ค้าเริ่มฟื้นตัว สะท้อนจากการจัดซื้อสินค้าเพื่อการผลิตขยายตัวต่อเนื่อง จิตวิทยาจากรัฐบาลสหรัฐประกาศใช้เงินกระตุ้นเศรษฐกิจ 1.9 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ ที่จะส่งผลดีต่อเศรษฐกิจทั่วโลก 2.ความตกลงเปิดเสรีการค้ากรอบอาร์เซ็ป ที่จะเริ่มใช้ในปี 2564 ส่งผลต่อการส่งออกและนำเข้าระหว่างกันเพิ่มขึ้น 3. แนวโน้มราคาน้ำดิบโลกสูงขึ้น สอดคล้องหลังโควิดคลี่คลาย ฟื้นกิจกรรมและการเดินทางอีกครั้ง 4. ประเทศทั่วโลก รวมถึงไทยเริ่มการฉีดวัคซีนต้านไวรัสทำให้ฟื้นกิจกรรมและการเดินทางมากกว่าปีก่อน

อย่างไรก็ตาม ปัจจัยลบที่มีผลต่อส่งออก คือ โควิดระบาดรอบสใหม่ยังมีต่อเนื่อง และไวรัสกลายพันธุ์สร้างความวิตกใหม่ต่อการเดินทางและจัดกิจกรรม รวมถึงปัญหาขนส่งและขาดแคลนตู้คอนเทนเนอร์ยังสูง และทิศทางเงินบาทแข็งค่า ทำให้ราคาสินค้าไทยสูงกว่าประเทศคู่แข่ง

นายภูสิต กล่าวว่า ทั้งนี้ เดือนมกราคม สินค้าที่ขยายตัวได้ดี ได้แก่ 1. สินค้าอาหาร โดยเฉพาะผักและผลไม้ ผลิตภัณฑ์มันสำปะหลัง น้ำมันปาล์ม อาหารสัตว์เลี้ยง สุกรสดแช่เย็นแช่แข็ง และสิ่งปรุงรสอาหาร 2. สินค้าที่เกี่ยวข้องกับการทำงานที่บ้าน และเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้าน 3.สินค้าเกี่ยวกับการป้องกันการติดเชื้อและลดการแพร่ระบาด เช่น เครื่องมือแพทย์และอุปกรณ์ ผลิตภัณฑ์เภสัชภัณฑ์ และถุงมือยาง และ 4.กลุ่มสินค้าอุตสาหกรรมสำคัญเริ่มกลับมาฟื้นตัว เช่น รถยนต์ เครื่องคอมพิวเตอร์ แผงวงจรไฟฟ้า เหล็กกล้าและผลิตภัณฑ์ เคมีภัณฑ์ และเม็ดพลาสติก ซึ่งเป็นสัญญาณที่ดีต่อภาคการผลิตและการส่งออกของไทยในระยะถัดไป

นายภูสิตกล่าวว่า ด้านตลาดส่งออกขยายตัวต่อเนื่อง คือ สหรัฐ ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ ออสเตรเลีย จีน ฮ่องกง ไต้หวัน และตะวันออกกลาง ขณะที่ตลาด CLMV พลิกกลับมาเป็นบวกในรอบ 10 เดือน แสดงถึงการค้าชายแดนที่เริ่มกลับมาเป็นปกติ

นายภูสิต กล่าวต่อว่า โดยภาพรวมปี 2564 การส่งออกมีทิศทางขาขึ้น และคาดขยายตัวได้ 4% โดยเฉลี่ยครึ่งปีแรก 2564 ขยายตัว 4-5% และ ครึ่งปีหลัง2564 ขยายตัว 3-4% โดยเฉลี่ยต้องมีมูลค่า 20,093 ล้านเหรียญสหรัฐ

“เฉลี่ยส่งออกต่อเดือนปีนี้น่าจะเป็นบวก ขึ้นกับปัจจัยการฉีดวัคซีนได้ทั่วถึงมากสุด ทำให้เกิดการเดินทางเจรจาการค้าและจัดงานแสดงสินค้าที่หลายประเทศเริ่มแล้ว อีกทั้งปีก่อนฐานต่ำ โดยเฉพาะไตรมาส 2 ปีก่อน ที่ส่งออกเจอผลกระทบหนักจากโควิดระบาดรอบแรก ช่วงเดียวกันปีนี้ จึงมีโอกาสขยายตัวได้ 2 หลัก “ นายภูษิต กล่าว