อนาคตสดใส! “มัลลิกา” โวดัชนีเชื่อมั่นผู้บริโภคไทยดีกว่าที่อื่น ยัน “จุรินทร์” ลุยฐานรากฟื้นได้เร็ว

วันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2564 นางมัลลิกา บุญมีตระกูล มหาสุข ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า จากการอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรีเรื่องภาพรวมเศรษฐกิจที่ผ่านมายังมีข้อเท็จจริงด้านดัชนีความเชื่อมั่นที่ทุกภาคส่วนควรได้ทราบ คือ จากการที่นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ร่วมขับเคลื่อนนโยบายเศรษฐกิจโดยเฉพาะการดูแลเศรษฐกิจฐานรากและภาคเกษตรกรอย่างต่อเนื่องนั้น นายจุรินทร์ ในฐานะรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ให้สำนักงานนโยบายยุทธศาสตร์การค้า กระทรวงพาณิชย์ ตรวจสอบสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคอย่างสม่ำเสมอซึ่งล่าสุดคือเดือนมกราคม 2564

และจากรายงานความเชื่อมั่นผู้บริโภคของสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า กระทรวงพาณิชย์ ระบุว่าความเชื่อมั่นผู้บริโภคของไทยในปี 2563 ไม่ได้ต่ำกว่าประเทศอื่น แต่ในทางตรงกันข้าม ความเชื่อมั่นผู้บริโภคของไทยกลับฟื้นตัวได้เร็วและมีแนวโน้มที่ปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง ต่างจากหลายประเทศที่ความเชื่อมั่นยังผันผวนและมีแนวโน้มลดลง ทั้งนี้ทุกประเทศส่วนใหญ่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ทำให้ความเชื่อมั่นลดลงและส่วนมากจะลดลงต่ำที่สุดในช่วงเดือน มี.ค.- มิ.ย 2563 เช่น สหภาพยุโรป ต่ำสุดในเดือน มี.ค. 2563 สหรัฐฯ ญี่ปุ่น ไทย และอังกฤษ ลดลงต่ำสุดในเดือน เม.ย. 2563 ขณะที่อินโดนีเซียและจีนต่ำสุดในเดือน พ.ค. และ มิ.ย. 2563

นางมัลลิกา กล่าวว่า สำหรับประเทศไทย ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคฟื้นตัวได้เร็วและกลับเข้าสู่ระดับที่สูงกว่าก่อนเกิดโควิดได้ ในขณะที่ประเทศอื่นส่วนใหญ่ฟื้นตัวช้าและยังไม่สามารถกลับเข้าสู่ระดับความเชื่อมั่นก่อนโควิดได้ อย่างไรก็ตาม ด้วยความสามารถในการรับมือและบริหารจัดการของรัฐบาลไทยที่ได้ผลและมีประสิทธิภาพ ส่งผลให้ความเชื่อมั่นผู้บริโภคปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่องและค่อนข้างรวดเร็วโดยเฉพาะดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคในอนาคต (3 เดือนข้างหน้า) เริ่มกลับเข้าสู่ช่วงเชื่อมั่น คือสูงกว่าระดับ 50 มาตั้งแต่เดือนกันยายนปี 2563 และมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่อง เช่นเดียวกับดัชนีความเชื่อมั่นผู้ประกอบการที่จัดทำโดยธนาคารแห่งประเทศไทย ที่ปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่องตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2563 เป็นต้นมาเช่นกัน

ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ระบุว่า การฟื้นตัวของความเชื่อมั่นผู้บริโภคอย่างรวดเร็วนั้นสะท้อนว่าประชาชนเชื่อมั่นต่อเศรษฐกิจไทยและการบริหารงานของรัฐบาลโดยผ่านมาตรการต่าง ๆ ที่มุ่งเป้าช่วยเหลือกลุ่มอาชีพและประชาชนที่หลากหลายและทั่วถึง โดยปัจจัยสาคัญที่ทำให้ผู้บริโภคมีความเชื่อมั่นเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องนั้น คาดว่ามาจากพื้นฐานโครงสร้างเศรษฐกิจไทยที่ยังแข็งแรงมีภูมิคุ้มกันที่สามารถลดทอนผลกระทบจากภายนอกได้ดี รวมทั้งการบริหารจัดการดูแลของภาครัฐในทุกมิติ ทั้งการดูแลค่าครองชีพประชาชน จากกระทรวงพาณิชย์ การช่วยเหลือผู้ประกอบการ ทั้งรายใหญ่ รายกลาง และรายย่อย ผ่านมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในด้านต่างๆของภาครัฐหลายกระทรวงที่ทยอยออกมาอย่างต่อเนื่อง ทั้งโครงการคนละครึ่ง โครงการเที่ยวด้วยกัน โครงการช้อปดีมีคืน การดูแลประชาชนทุกกลุ่มอาชีพ และโดยเฉพาะกระทรวงเกษตรและสหกรณ์กับกระทรวงพาณิชย์ที่ช่วยกันดูแลเกษตรกรในโครงการประกันรายได้เกษตรกรกว่า 7.69 ล้านครัวเรือน ได้แก้ไขปัญหาอย่างจริงจังทำให้ราคาสินค้าเกษตรสำคัญปรับตัวดีขึ้นส่งผลให้เกษตรกรมีรายได้เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เกษตรกรมีความเชื่อมั่นที่ดีขึ้นตามลำดับ ซึ่งมาตรการเหล่านี้ได้รับความนิยมการตอบรับที่ดีจากกลุ่มเป้าหมายเป็นอย่างดี

” แนวโน้มดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคของปี 2564 คาดว่าจะมีปัจจัยสนับสนุนมาจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐในด้านต่าง ๆ ทั้งมาตรการด้านการเกษตร เช่น การประกันรายได้เกษตรกร การขยายเวลาการชำระหนี้เงินกู้ การช่วยพัฒนาผลผลิต และการพัฒนาคุณภาพชีวิตเกษตรกร เป็นต้น ส่วนมาตรการกระตุ้นการบริโภค เช่น โครงการคนละครึ่ง โครงการเที่ยวด้วยกัน โครงการช้อปดีมีคืน เราชนะ ม.33เรารักกัน มาตรการด้านอสังหาริมทรัพย์ต่างๆและโครงการเพิ่มความเข้มแข็งของเศรษฐกิจฐานราก เป็นต้น รวมทั้งแนวทางการบริหารของรัฐบาลและกระทรวงพาณิชย์ที่เน้นมาตรการช่วยเหลือทุกกลุ่ม มาตรการกระตุ้นการใช้จ่ายของผู้ที่มีกำลังซื้อในหลากหลายรูปแบบจะช่วยเป็นแรงส่งให้เศรษฐกิจใน ปี 2564 ขยายตัวได้ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง จะช่วยกระตุ้นอุปสงค์ภายในประเทศและส่งผลให้ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคและธุรกิจปรับตัวในทิศทางที่ดีขึ้นและกลับมาเป็นปกติเท่าสถานการณ์ก่อนวิกฤติได้ในไม่ช้า ” ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าว