“ธนาธร” เปิดใจ 1 ปี ยุบพรรคอนาคตใหม่ รู้สึกสงบ-ไม่โกรธ ชื่มชม “ก้าวไกล” ทำได้ดี-ยืนอย่างสง่างาม

วันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2564 นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ แกนนำคณะก้าวหน้าและอดีตหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ได้ออกมาแสดงความรู้สึกเนื่องในวันนี้ที่ครบรอบ 1 ปี การยุบพรรคอนาคตใหม่ว่า

ครบรอบ 1 ปียุบพรรคอนาคตใหม่ – ความในใจจากวันนั้นถึงวันนี้

.
ผมไม่เคยเล่าให้ใครฟังมากนัก – แม้แต่คนใกล้ชิด – ถึงความรู้สึกส่วนตัวจากกรณีถูกยุบพรรค เหตุผลหนึ่งคือในฐานะผู้นำ ผมรู้สึกว่าผมจะแสดงความอ่อนแอให้คนอื่นเห็นไม่ได้ กลัวว่าทั้งทีมงาน ในส่วนกลางและในจังหวัดต่างๆ, ผู้สนับสนุน และเพื่อน ส.ส. จะหมดกำลังใจ
.
วันนั้น ผมมีความเป็นห่วงมากเป็นพิเศษ ว่าการผลักดันวาระประชาธิปไตยผ่านระบบรัฐสภาจะอ่อนแอลง ผมเป็นห่วงเพื่อน ส.ส. อนาคตใหม่ที่ย้ายไปพรรคก้าวไกลว่าพวกเขาจะยืนได้หรือไม่ท่ามกลางกระแสการเมืองที่โหดเหี้ยมต่อฝ่ายประชาธิปไตย
.
ในระยะยาวหากพรรคใหม่ไม่สามารถยืนหยัดได้ แปลว่าพวกเราแพ้ย่อยยับ
.
เราตั้งพรรคอนาคตใหม่ขึ้นมา เพื่อหวังใช้ช่องทางรัฐสภา หาทางออกให้กับประเทศ เมื่อเราถูกตัดสิทธิ์ทางการเมือง ผมก็กลัวว่าพรรคก้าวไกลจะไม่หนักแน่นพอที่จะยืนยันในวาระสำคัญๆ ของชาติ กลัวว่าแรงเสียดทานจากสังคม แรงกดดันจากอำนาจเผด็จการ จะทำลายอุดมการณ์อนาคตใหม่ กลัวว่าพวกเขาจะทิ้งอุดมการณ์ไประหว่างทาง
.
หนึ่งปีที่ผ่านมา ถึงแม้ว่าจะมีทีมงานและเพื่อน ส.ส. กลุ่มหนึ่ง ตัดสินใจไม่เดินทางไปกับพรรคก้าวไกลต่อ ซึ่งผมเข้าใจได้ ไม่ว่าจะเป็นเพราะปัญหาความขัดแย้งทางความคิดและการปฏิบัติการภายในพรรค, แรงกดดันทางสังคมที่รุนแรง หรือผลประโยชน์ที่หอมหวาน
.
แต่ ส.ส. ส่วนใหญ่ที่เหลือยังหนักแน่นกับอุดมการณ์อนาคตใหม่ และได้แสดงให้สังคมเห็นถึงความหนักแน่นนี้ อย่างต่อเนื่องสม่ำเสมอตลอดหนึ่งปีที่ผ่านมา
.
วันนี้ ผมไม่มีบทบาททางการเมืองในระบบแล้ว แต่ผมไม่เคยเสียใจเลยที่เป็นส่วนสำคัญในการสร้างพรรคอนาคตใหม่ขึ้นมา เราทุกคนล้วนเป็นอิฐก่อนต่อไปของการสร้างสังคมประชาธิปไตยที่เท่าเทียมเสมอภาค ผมก็เป็นเพียงอิฐอีกก้อนให้คนที่เดินข้างหลังก้าวต่อไปถึงจุดหมาย
.
วันครบหนึ่งปีของการยุบพรรคอนาคตใหม่ ตรงพอดีกับการจบลงของการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล การทำงานของพรรคก้าวไกลที่ผ่านมา โดยเฉพาะการอภิปรายไม่ไว้วางใจรอบนี้ ทำให้ผมหมดห่วง ผมเฝ้าติดตามการอภิปรายไม่ไว้วางใจของพวกเขาอย่างชื่นชม
.
พวกเขาทำได้ดีมาก
.
พรรคก้าวไกลแสดงให้เห็นแล้วว่าพวกเขามีวิสัยทัศน์ กล้าหาญและหนักแน่น ไม่แพ้อนาคตใหม่เลย วันนี้จึงเป็นวันที่ผมรู้สึกผ่อนคลาย ไม่ต้องแบกอะไรไว้บนหลังมากมายเหมือนก่อน พวกเขามั่นคง แข็งแกร่ง และเดินต่อไปได้อย่างสง่างาม
.
ผมสบายใจและมั่นใจว่าอย่างน้อยในสภา ก็ยังมีพรรคการเมืองที่พร้อมจะยืนอย่างมั่นคงในหลักการประชาธิปไตย กล้าหาญพอที่จะยืนบนผลประโยชน์ของประชาชน เพื่ออนาคตของประเทศ
.
หมดหน้าที่ของผมในสภาแล้ว พวกเขาถือคบไฟ วิ่งไปต่ออย่างมั่นคง
.
ผมต้องกล่าวเป็นพิเศษถึงคุณพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล เขาเป็นคนที่ถูกกดดันและถูกคาดหวังมากในช่วง 1 ปีที่ผ่านมา โบราณกล่าวไว้ว่า หนทางพิสูจน์ม้า กาลเวลาพิสูจน์คน พิธาพิสูจน์ให้ทุกคนเห็นแล้วว่า เขากล้าหาญพอที่จะเผชิญหน้ากับปัญหาใจกลางการเมืองไทยอย่างมีวุฒิภาวะ เขามีความเป็นผู้นำและมีไหวพริบ ไม่เพียงแค่จะนำพรรคก้าวไกล แต่จะนำประเทศไทยในอนาคต
.
วันนี้ ผมเผชิญหน้ากับวันครบรอบ 1 ปีการยุบพรรคอนาคตใหม่อย่างสงบ ไม่มีความรู้สึกโกรธหรือเคียดแค้นที่ถูกกระทำอย่างไม่เป็นธรรม เพราะรู้ว่าพวกเขาทำไม่สำเร็จ พวกเขายุบอุดมการณ์ไม่ได้ ผมไม่มีความรู้สึกรุ่มร้อน เป็นห่วงการเมืองในสภาเหมือนเดิม เพราะก้าวไกลได้ยืนอย่างสง่าผ่าเผยให้สังคมเห็นแล้ว
.
ต่อจากนี้ไป ผมจะยังทำงานการเมืองต่อไปเช่นเดิม และขอยืนเคียงข้างพรรคก้าวไกล ในวันที่เขาต้องการคำปรึกษาหรือกำลังใจ ผมขอยืนข้างหลังพวกเขาร่วมกับประชาชน ในวันที่พวกเขาต้องการการสนับสนุน และจะยืนข้างหน้าพวกเขา เมื่อพวกเขาเผชิญภัยอันตราย
.
ขอให้ทุกคนเดินหน้าอย่างกล้าหาญ ประชาชนจะปกป้องคุณเอง
.
ห่วงสุดท้ายที่ยังติดในใจ คือความเป็นห่วงต่อเพื่อนกรรมการบริหารพรรคอนาคตใหม่ ขอบคุณที่ตัดสินใจเดินร่วมทางกันวันนั้น แม้เป็นเวลาสั้นๆ แต่ก็เป็นเกียรติที่ได้ร่วมงานกับทุกคน และขอโทษที่ทุกคนต้องคดีความไปด้วย สิ่งนี้ยังเป็นห่วง ที่ยังติดในใจผมถึงทุกวันนี้
.
ในวาระครบรอบ 1 ปียุบพรรคอนาคตใหม่นี้ ผมขอขอบคุณผู้ร่วมจดจัดตั้งพรรค, สมาชิกพรรค, ผู้สนับสนุน และผู้ออกเสียงลงคะแนนให้พรรคอนาคตใหม่ทุกคนอีกครั้ง ขอบคุณทุกการโอบกอด ขอบคุณทุกการจับไม้จับมือ ขอบคุณน้ำทุกขวด ขนมทุกชิ้น ดอกไม้ทุกดอก ผ้าขาวม้าทุกผืน รูปวาดทุกใบ และกำลังใจทุกดวง ที่ทุกคนมอบให้ระหว่างทาง มันเป็นการเดินทางที่วิเศษ และผมจะจดจำมันตลอดไป
.
ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ
21 กุมภาพันธ์ 2564