อาทิตย์ 21ก.พ.64 พลโทภราดร พัฒนถาบุตร เลขานุการคณะกรรมการกิจการพิเศษพรรคเพื่อไทยอดีตเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ(สมช.) กล่าวถึงการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลสืบทอดอำนาจที่เพิ่งจบลง ทำให้สังคมได้รับรู้ว่ากระบวนการแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการตำรวจมีความไม่เป็นธรรมสูง ส่งผลให้การปฏิบัติหน้าที่เหินห่างประชาชน การจัดการสวัสดิการของกองทัพมีขบวนการเอาทรัพย์สินของกองทัพไปหาผลประโยชน์ให้แก่ผู้มีอำนาจ แต่ทหารชั้นผู้น้อยกลับได้รับสวัสดิการที่แย่ สะท้อนถึงปัญหาเชิงโครงสร้างของหน่วยงานทหารตำรวจที่จะต้องมีการปฏิรูปโดยเร่งด่วน สองหน่วยงานหลักที่มีหน้าที่ปกป้องสถาบันหลักและคุ้มครองประชาชน เพื่อให้บ้านเมืองนี้ได้รับความเชื่อมั่นว่ามีการปกครองที่เป็นธรรม แต่เจ้าตัวกลับไม่ได้รับการดูแลที่เป็นธรรมเสียเอง ความเป็นธรรมจากรัฐบาลนี้จึงเลิกหวังกันได้เลย

การอภิปรายฯครั้งนี้ฝ่ายค้านมีข้อมูลดีชี้ให้เห็นชัดถึง ความไร้ความรู้ความสามารถในการบริหารราชการ ความไร้จริยธรรมคุณธรรม การมีพฤติการณ์ส่อไปในทางทุจริต ของนายกรัฐมนตรีและบรรดารัฐมนตรีที่ถูกอภิปรายฯ เปลือยตัวตนว่ารัฐบาลนี้ไม่เหลือสาระรูปที่จะไปเป็นภูมิคุ้มกันให้กับใครได้อีกแล้ว ลำพังตัวเองก็ยังเอาตัวไม่รอด แม้มือในสภาฯจะไม่สามารถล้มคว่ำรัฐบาลได้ แต่แน่แท้คือประชาชนได้ฟังแล้วเห็นความไม่ชอบธรรม เสื่อมศรัทธา สร้างกระแสบีบให้เกิดการเปลี่ยนแปลงรัฐบาลได้แน่ ซึ่งขณะนี้คณะราษฎรและภาคประชาชนกลุ่มต่างๆได้เริ่มรับไม้นำสู่การชุมนุมใหญ่และย่อยอย่างกระจายตัว เพื่อขับไล่นายกรัฐมนตรีสืบทอดอำนาจให้ลาออกจากตำแหน่งไป

สำหรับพรรคเพื่อไทยยังคงจะจัดกิจกรรมต่อเนื่อง”เติมเต็มหลังการอภิปราย”เพื่อเผยพฤติการณ์ความชั่วร้ายของรัฐบาลสืบทอดอำนาจให้ปรากฎต่อสายตาประชาชนเป็นที่ประจักษ์ชัดเพิ่มเติมอีก นับแต่นี้ไปเหตุการทรยศหักหลังกันเองของพรรคร่วมรัฐบาลและพลังร่วมขับไล่รัฐบาลของกลุ่มราษฎรต่างๆ สองปัจจัยนี้จะมาผนึกกันขย่มรัฐบาล ส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงใหญ่ทางการเมืองตามมาในเร็ววันนี้