iLaw ขอ ปชช. ปักหมุด 24-25 กุมภา ร่วมกดดัน ‘แก้ รธน.’ วาระ 2-3 อย่าปล่อยเข้าทาง-แฉกลโกง คสช.

‘ไอลอว์’ แฉกลโกง คสช. ขอ ปชช. ปักหมุด 24-25 กุมภา ร่วมกดดัน ‘แก้ รธน.’ วาระ 2-3 อย่าปล่อยเข้าทาง

สืบเนื่องจากกรณี สภาผู้แทนราษฎร เปิดอภิปรายทั่วไปเพื่อลงมติไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคลระหว่างวันที่ 16-19 กุมภาพันธ์ โดย กลุ่มม็อบเฟสต์ (Mob Fest) ได้นัดหมายชุมนุม MOB FEST #2 ตอน “7 ปีแห่งความล้มเหลว” คู่ขนานการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ที่หน้ารัฐสภา วันที่ 19 กุมภาพันธ์ ในเวลา 17.00 น. โดยจะมีการอภิปราย 10 ประเด็นเร่งด่วนโดยประชาชน ด้วยนั้น

เวลา 21.04 น. วันที่ 19 กุมภาพันธ์ นายณัชปกร นามเมือง หรือ ฐา ตัวแทนโครงการอินเทอร์เน็ตเพื่อกฎหมายประชาชน หรือ iLaw อภิปรายนอกสภา ในประเด็น “กลโกง คสช.ในเกมแก้รัฐธรรมนูญ”

นายณัชปกรกล่าวว่า ตนจะอภิปรายไม่ไว้วางใจ ระบอบ คสช. ใน 3 ประเด็น คือ

1.ทำไมต้องแก้รัฐธรรมนูญ
2.คสช.วางกลเกมการแก้ไขรัฐธรรมนูญอย่างไร
3.เราจะควรทำอย่างไรต่อดี

ในเรื่องของโควิด สะท้อนความล้มเหลวจากการบริหารงาน ของรัฐบาล คสช. ล่าสุด อนุทินบอกว่า ตั้งแต่ได้ยินคำว่าโควิด นึกออกคำเดียวคือคำว่าวัคซีน ถามว่าถ้าคิดถึงแต่วัคซีน ทำไมได้ช้ากว่าคนอื่น หรือมัวแต่นั่งนึก

“คนอยากออม ออมไม่ได้ เพราะไม่มีเงิน รัฐจะหากินกับคำว่ากตัญญูอีกนานไหม ยิ่งไปกว่านั้น ภาพสองตายายที่ไปนั่งรอคิว เพื่อขอเราชนะ ซึ่งไม่รู้ใครชนะ เห็นแต่แพ้เต็มไปหมด สะท้อนว่าภายใต้รัฐธรรมนูญ และ รัฐบาล มีแต่การสงเคราะห์ ไม่เห็นศักดิ์ศรีความเป็นคน” นายณัชปกรกล่าว

นายณัชปกรกล่าวต่อว่า ด้าน ธรรมาภิบาล เช่น ตั๋วช้าง ถามตำรวจ ท่านรับได้จริงๆ หรือ ที่มีคนที่โตกว่าท่าน ทั้งที่ท่านทำหน้าที่อยู่ตรงนั้น โล่และกระบองไม่ควรหันหาประชาชน แต่ควรเอามากันประชาชน ที่ต่อสู้เพื่อท่าน รถฉีดน้ำ ก็ไม่ควรฉีดใส่ประชาชน ควรเอาไปฉีดทรราชในสภา

ปกติการอภิปรายไม่ไว้วางใจ จะนำไปสู่ 2 อย่างคือ 1.ไม่ยุบสภา ก็ 2.ต้องไปสู้คดีทางกระบวนการยุติธรรม แต่ภายใต้ คสช.เราคาดหวังไม่ได้เลยว่า กระบวนการตรวจสอบจะเกิดขึ้นจริง สมมติว่า หากมีการลงมติอภิปรายไม่ไว้วางใจ ถอดถอน พล.อ.ประยุทธ์ แต่ภายใต้เงื่อนไข ส.ว.250 คน ก็จะโหวตนายกประยุทธ์ขึ้นมาอีก

“ถัดมา เราพอจะหวังพึ่งองค์กรอิสระได้บ้าง แต่ผมยืนยันได้ว่า ปัจจุบันอิสระจริง อิสระจากประชาชน จะเห็นจากกรณีบ้านหลวงของ พล.อ.ประยุทธ์ มีผลประโยชน์ทับซ้อนชัดเจน แต่ประชาชนไม่สามารถทำอะไรได้ ที่เห็นคุณสิระ เจนจาคะ ห้อย พล.อ.ประวิตร นั้น ผิด ต้องไปห้อย พล.อ.ประยุทธ์ 5-6 คดี รอดตลอด คือการบริหารล้มเหลว ไร้ธรรมาภิบาล” นายณัชปกรกล่าว

นายณัชปกรกล่าวว่า ข้อเรียกร้องของประชาชนตั้งแต่ปีที่แล้ว คือต้องการแก้ไขให้รัฐธรรมนูญมาจากประชาชน แต่ก็คว่ำร่างไปแล้ว แต่ข้อส้นของประชาชนยังมีได้เข้าไปบ้าง ตอนนี้กระแสแก้ไขรัฐธรรมนูญลดลง 24-25 ก.พ. จะมีการลงมติวาระ 2 ของรัฐธรรมนูญ ซึ่งสำคัญมาก หากผ่านวาระสอง แล้วจะแก้ไขปรับปรุงอีก จะไม่สามารถทำได้ ถ้าเราปล่อยให้วาระ 2-3 เดินตามเจตจำนงของ คสช.เราจะแพ้ 24-25 ก.พ.จึงเป็นนัดหมายที่สำคัญของประชาชน กับการการแก้ไขรัฐธรรมนูญ

ประเด็นแรก คือ

1.มาตรา 256 ในการแก้ไข ใช้เสียง 3 ใน 5 และการเพิ่มหมวด ให้มี ส.ส.ร. มาจากการเลือกตั้ง

“ดูเผินๆ การแก้ไขรัฐธรรมนูญน่าจะดูแก้ง่ายขึ้น แต่การใช้เสียง 3 ใน 5 ตามสภาพรัฐสภาตอนนี้ คสช. ออกแบบระบบเลือกตั้ง ทำให้กลุ่มอิทธิพลในท้องถิ่นได้เปรียบกับระบบเลือกตั้งแบบนี้ พรรคที่มีพลังดูด ได้เปรียบเต็มๆ” นายณัชปกรกล่าว

2.มีการกำหนดว่า ห้ามแก้ไขหมวด 1 และ 2 ซึ่งหากย้อนดูในประวัติศาสตร์ ไม่เคยมีการเขียนไว้เป็นการเฉพาะ

“มีแต่ยุคนี้ที่ผิดแผก และตอบคำถามไม่ได้ ทำไมไม่ใช้เหตุผลในการคุยกัน ว่าประชาชนออกมาเรียกร้องต้องการแก้ไขอะไร และโน้มน้าวเสียงส่วนใหญ่ได้หรือไม่ ซึ่งถ้าได้ ก็ต้องยอมรับ” นายณัชปกรกล่าว และว่ส

2-3 วันก่อน ที่ญัตติของสภา นำโดย ส.ว. และ ส.ส. พรรคพลังประชารัฐ ร่วมกัน ยื่นศาลรัฐธรรมนูญ ให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิฉัย ในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ คือหนึ่งกลโกง ว่าเขาพร้อม ขัดขวางการแก้ไขรัฐธรรมนูญได้ทุกเมื่อ 24-25 ก.พ.นี้ จึงเป็นหมุดหมายสำคัญ ท่านต้องส่งเสียงตั้งแต่วันนี้ ถ้าไม่ส่งเสียงไปยังศาลรัฐธรรมนูญ ร่างก็จะคว่ำทันที

“สุดท้าย หลังจากนี้ เราคงต้องออกมาอีกเรื่อยๆ และต้องสื่อสารกับประชาชนว่า การแก้ไขรัฐธรรมนูญสำคัญมาก ปล่อยแล้วจะเข้าทาง คสช.” นายณัชปกรกล่าว

จากนั้น มวลชนร่วมกันตะโกน
“ถ้าขวางแก้รัฐธรรมนูญ มึงเจอกู”