‘อนุชา’ ปัดสั่ง ‘กรมประชาฯ’ ตีข่าวโจมตีฝั่งตรงข้าม ย้ำเป็นกลาง ป้องไก่อู ไม่ได้ช่วยหาเสียง

วันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2564 เมื่อเวลา 12.35 น. ที่รัฐสภา ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มี นายศุภชัย โพธิ์สุ รองประธานสภาคนที่ 2 ทำหน้าที่ประธานสภา เพื่อพิจารณาญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคล ต่อเป็นวันที่ 4 นายอนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ซึ่งกำกับดูแลกรมประชาสัมพันธ์ ชี้แจงหลังถูกนายณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ ส.ส.กทม. พรรคก้าวไกล พาดพิงในการอภิปรายไม่ไว้วางใจ กรณีกรมประชาสัมพันธ์ ผลิตรายการที่สร้างความแตกแยกของสังคม และโจมตีฝ่ายการเมือง ว่า

กรมประชาสัมพันธ์เป็นสื่อของรัฐ ในการชี้แจงข้อมูลหรือนำเสนอนโยบายรัฐบาล ข้อมูลข่าวสาร ข้อเท็จจริงต่างๆ ต่อประชาชนให้ได้รู้ว่าอะไรที่เป็นประโยชน์ หรือไม่เป็นประโยชน์ต่อสังคม  ทั้งนี้ ยืนยันว่ากรมประชาสัมพันธ์ ทำหน้าที่อย่างเป็นกลาง ในการนำเสนอข้อมูลสู่ประชาชน โดยไม่ใส่สีตีข่าว ส่วนกรณีของรายการที่ผลิตและออกอากาศนั้น ยอมรับว่าไม่สามารถควบคุมความคิดเห็นของผู้สื่อข่าวได้ โดยตนและพล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด อธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ ไม่สามารถสั่งผู้สื่อข่าวได้ เพราะผู้สื่อข่าวมีจรรยาบรรณเป็นของตนเอง

“รายการที่ผู้อภิปรายนำมากล่าวถึงนั้น ไม่ได้สร้างความเสียหายแก่ผู้ใด เพราะไม่มีผู้ใดฟ้องร้องจากการนำเสนอข่าว ดังนั้น มั่นใจได้ว่ากรมประชาสัมพันธ์ในฐานะสื่อของรัฐ ทำหน้าที่อย่างเป็นกลาง และตอบสนองให้ประชาชนได้รับข้อมูลข่าวสารที่เป็นประโยชน์” นายอนุชา กล่าว

รัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ กล่าวอีกว่า ส่วนกรณีที่มีพาดพิงว่า พล.ท.สรรเสริญได้ส่งข้อความผ่านทางไลน์ สั่งการให้สื่อ ของกรมประชาสัมพันธ์ช่วยพรรคการเมืองหาเสียงด้วยนั้น ตนได้สอบถาม พล.ท.สรรเสริญแล้ว ซึ่งพล.ท.สรรเสริญยอมรับว่าได้ส่งรูป และข้อความผ่านทางไลน์จริง มีรูปประมาณ 10 -20 แผ่น แต่หลังจากเผยแพร่ไปแล้ว 28 นาที พล.ท.สรรเสริญได้เห็นว่า ในภาพเหล่านั้นมีหัวข้อที่ระบุชื่อพรรคการเมือง คือพรรคพลังประชารัฐ จึงได้ลบออก แล้วสั่งการไม่ให้ดำเนินการใดๆ นี่คือความผิดพลาด ไม่ใช่ความตั้งใจ หรือมีเจตนา และพรรคพลังประชารัฐไม่เคยติดต่อ ไม่เคยพูดคุยหรือพึ่งพาอาศัย อธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ ในเรื่องของพรรคเลยแม้แต่ครั้งเดียว  ขณะที่พรรคพลังประชารัฐ มีนโยบายปกป้องสถาบันชาติ ศาสน์ กษัตริย์ และปกป้องประชาชนด้วยชีวิตเฉกเช่นเดียวกับท่าน