ขอโทษด้วยเงินเท่านั้น! รร.โดนฟ้องกลับ เหตุไล่นักเรียนออกเพียงเพราะ ‘ย้อมผม’

วันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2564 เว็บไซต์ SoraNews24 นำเสนอข่าวว่า เมื่อปี 2015 (พ.ศ.2558) โรงเรียนแห่งหนึ่งในญี่ปุ่นได้ไล่นักเรียนคนหนึ่งออก เนื่องจากนักเรียนคนดังกล่าวย้อมสีผม และถูกโรงเรียนไล่กลับบ้าน เมื่อนักเรียนไม่ยอมมาเรียน โรงเรียนก็นำชื่อนักเรียนออกจากระบบทันที ส่งผลให้นักเรียนคนดังกล่าวดำเนินการฟ้องร้องเทศบาลโอซาก้า ซึ่งเป็นหน่วยงานที่กำกับโรงเรียนดังกล่าว คดีใช้เวลายาวนานหลายปี จนกระทั่งคดีนี้ ได้รับการพิพากษาแล้วในวันอังคาร (18 ก.พ.64) ที่ผ่านมา

การแต่งกายของโรงเรียนควรจะช่วยลดความซับซ้อนในชีวิตให้กับนักเรียน โรงเรียนจึงมักจะออกกฎระเบียบที่เชื่อว่า จะช่วยลดขั้นตอนในชีวิตและทำให้นักเรียนจดจ่อกับการเรียนภายใต้กฎระเบียบที่โรงเรียนตั้งขึ้น อย่างไรก็ตามปัญหาอาจเกิดขึ้นได้หากโรงเรียนจริงจังกับการให้นักเรียนทุกคนมีสีผมเหมือนกัน เช่น ให้นักเรียนทุกคนมีผมสีดำ เพราะมันเป็นไปไม่ได้

แม้ว่าคนญี่ปุ่นส่วนใหญ่จะมีผมสีดำตามธรรมชาติ แต่ผมของคนญี่ปุ่นบางคนกลับเป็นสีน้ำตาลเข้มแทน สิ่งนี้อาจนำไปสู่สถานการณ์ที่โรงเรียนบอกนักเรียนที่มีผมสีน้ำตาลว่า นักเรียนต้องย้อมผมเป็นสีดำ ซึ่งมักมีสาเหตุมาจากการที่โรงเรียนไม่เชื่อว่าสีผมตามธรรมชาติของนักเรียนเหล่านี้เป็นสีน้ำตาลและโรงเรียนมักจะหาทางบีบบังคับให้นักเรียนต้องย้อมผมดำ

ในปี 2015 โรงเรียนมัธยมประจำจังหวัดไคฟุคัง ในเมืองฮาบิกิโนะ จังหวัดโอซาก้า มีเด็กสาวคนหนึ่งถูกกล่าวเตือนซ้ำ ๆ ว่าเธอต้องย้อมผมสีน้ำตาลเป็นสีดำ เด็กสาวยืนยันว่าสีน้ำตาลเป็นสีผมตามธรรมชาติของเธอ แต่โรงเรียนอ้างว่าครู 3 คนในโรงเรียนตรวจสอบรากผมของเด็กสาวแล้ว และพบว่ารากผมเป็นสีดำ ซึ่งโรงเรียนใช้เป็นหลักฐานยืนยันว่าเด็กสาวทำสีผม

ต่อมา โรงเรียนได้แจ้งว่า ถ้าเด็กสาวไม่ย้อมผมกลับเป็นสีดำ (ตามความคิดของโรงเรียน) เด็กสาวจะถูกกีดกันจากโรงเรียน เด็กสาวรู้สึกกดดันและเป็นทุกข์อย่างมาก จนเลิกเข้าชั้นเรียนและโรงเรียนนำชื่อของเธอออกจากระบบรายชื่อในโรงเรียน แต่แทนที่เด็กสาวจะเจรจากับผู้บริหารของโรงเรียน เด็กสาวคนดังกล่าว ตัดสินใจดำเนินการในชั้นศาลแทน ในปี 2560 เด็กสาวได้ฟ้องเรียกค่าเสียหายเป็นเงิน 2.2 ล้านเยน (ราว 650,000 บาท) โดยมีคู่กรณีเป็นเทศบาลโอซาก้า ซึ่งเป็นหน่วยงานที่กำกับดูแลโรงเรียนดังกล่าว

เมื่อวันอังคาร (16 ก.พ.64) ที่ผ่านมาศาลแขวงโอซาก้าได้เปิดคำพิพากษาแล้ว โดยพบว่าทั้งสองฝ่ายถูกตักเตือนทั้งคู่ แต่โรงเรียนมีความผิด และส่งผลให้เด็กสาว ซึ่งขณะนี้มีอายุ 21 ปีชนะคดี

ประธานผู้พิพากษา โนริโกะ โยโกตะ เห็นด้วยกับ การบังคับใช้กฎระเบียบของโรงเรียนในการกำหนดและบังคับใช้กฎที่เกี่ยวข้องกับการทำสีผมโดยกล่าวว่า “กฎดังกล่าวได้รับการกำหนดขึ้นว่ามีจุดประสงค์ทางการศึกษาที่สมเหตุสมผลและถูกต้องตามกฎหมาย ดังนั้นการรักษาระเบียบวินัยของนักเรียนจึงอยู่ในดุลยพินิจของโรงเรียน” แต่กระนั้น ศาลยังตัดสินด้วยว่าการกระทำของฝ่ายปกครองนั้นถือว่าเกินความเหมาะสม เพราะฝ่ายปกครองของโรงเรียนลบชื่อเด็กสาวออกจากระบบ ซึ่งเป็นสิ่งที่ยอมรับไม่ได้และได้ให้เทศบาลโอซาก้าชดใช้ค่าเสียหาย 330,000 เยน (ราว 1 แสนบาท) แก่หญิงสาวคนดังกล่าว

อย่างไรก็ตาม คำตัดสินดังกล่าว อาจทำให้บางองค์กรในญี่ปุ่นไม่พอใจ เช่น คณะกรรมการการศึกษาโตเกียว ที่มีนโยบายต่อต้านการกดดันให้นักเรียนที่มีผมสีอื่นตามธรรมชาติย้อมผมเป็นสีดำ เนื่องจากการชดใช้หรือลงโทษการกระทำที่เกินกว่าเหตุนั้น แทบไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องสีผมโดยตรง