‘ราษฎร’ : เลื่อนฟังคำสั่ง 31 ผู้ชุมนุม คดีชุมนุม 19 กันยา-สถานทูตเยอรมนี / ศาลไม่ให้ประกัน 4 นักเคลื่อนไหวครั้งที่ 2

วันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2564 นับเป็นอีกวันที่มีความเคลื่อนไหวในการดำเนินคดีกับผู้ชุมนุมคนรุ่นใหม่จากการชุมนุมใหญ่ครั้งสำคัญในปี 2563 โดยเฉพาะวันนี้ ที่ตำรวจนัดส่งอัยการฟังคำสั่งฟ้อง 31 แนวร่วมผู้ชุมนุมราษฎรในความผิด มาตรา 112 และมาตรา 116 จากการชุมนุมสำคัญ 2 กรณีคือ

1.กรณีชุมนุม “19 กันยาทวงอำนาจคืนราษฎร” เมื่อวันที่ 19-20 กันยายน 2563 รวม 18 คน นัดส่งตัวที่ สำนักงานอัยการสูงสุด ถนนรัชดาภิเษก ในช่วงเช้า ดังนี้

1.น.ส.ปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล หรือ “รุ้ง” โฆกกลุ่มราษฎร
2.นายภาณุพงศ์ จาดนอก หรือ “ไมค์ ระยอง”
3.นายจตุภัทร์ บุญภัทรรักษา หรือ “ไผ่ ดาวดิน”
4.นายชินวัตร จันทร์กระจ่าง หรือ “ไบรท์” เครือข่ายคนรุ่นใหม่นนทบุรี
5.นายชูเกียรติ แสงวงศ์ การ์ดภาคีเพื่อประชาชน
6.นายธนชัย เอื้อฤาชา
7.นายอรรถพล บัวพัฒน์ หรือ “ครูใหญ่” กลุ่มขอรแก่นพอกัน
8. นายณวรรษ เลี้ยงวัฒนา หรือ “แอม”
9.นางสุวรรณา ตาลเหล็ก หรือ “ลูกตาล” กลุ่ม 24 มิถุนาประชาธิปไตย
10.นายภัทรพงศ์ น้อยผาง
11.นายณัทพัช อัคฮาด
12.นายณัฐชนน ไพโรจน์
13.นายธานี สะสม
14.นายอดิศักดิ์ สมบัติคำ
15.นายสิทธิทัศน์ จินดารัตน์
16. นายอนุรักษ์ เจนตวนิชย์ หรือ “ฟอร์ด เส้นทางสีแดง”
17.นายธนพ อัมพะวัต
18.นายไชยอมร แก้ววิบูลย์พันธ์ หรือ “แอมมี่ เดอะบอททอมบลูส์”

โดยในจำนวนนี้ มี 3 คน ที่โดนแจ้งข้อหา มาตรา 112 ได้แก่ 1.นายภาณุพงศ์ หรือไมค์ ระยอง 2.นายจตุภัทร์ หรือไผ่ และ 3.น.ส.ปนัสยา หรือรุ้ง

2.กรณีการชุมนุมหน้าสถานทูตเยอรมนี เมื่อวันที่ 26 ตุลาคม 2563 จำนวน 13 คน นัดส่งตัวที่สำนักอัยการสูงสุดกรุงเทพใต้ ในช่วงบ่าย มีรายนาม ดังนี้

1.นายอรรถพล บัวพัฒน์ หรือ ครูใหญ่
2.น.ส.ภัสราวลี ธนกิจวิบูลย์ผล หรือ “มายด์”
3.น.ส.เบนจา อะปัญ
4.นายชนินทร์ วงษ์ศรี หรือ บอล
5.นายชลธิศ โชติสวิสดิ์
6.นายวัชรกร ไชยแก้ว
7.นายณวรรษ เลี้ยงวัฒนา หรือ แอม
8.นายกรกช แสงเย็นพันธ์ หรือ ปอ
9.น.ส.สุธินี จ่างพิพัฒนวกิจ
10.น.ส.รวิสรา เอกสกุล
11.นายอัครพล ตีบไธสง
12.โจเซฟ (สงวนชื่อสกุลจริง)
13.เอ (สงวนชื่อสกุลจริง)

อย่างไรก็ดี มีการคาดการณ์จากหลายกลุ่มหลายฝ่ายว่าแกนนำทั้งหมดอาจถูกขังลืมไม่ให้ประกันตัวอีก หากเทียบกับกรณี 4 แกนนำราษฎร นายพริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือ เพนกวิน, นายอานนท์ นำภา หรือทนายอานนท์, นายสมยศ พฤกษาเกษมสุข และนายปติวัฒน์ สาหร่ายแย้ม หรือหมอลำแบงค์ ที่ขณะนี้ยังคงถูกฝากขังที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพ อีกทั้งศาลอุทธรณ์ยังยกคำร้องปล่อยชั่วคราวไปเมื่อ 15 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา

น.ส.ปนัสยาเปิดเผยว่า คงมีโอกาส 80 เปอร์เซ็นต์ที่จะไม่ได้รับการประกันตัว ถ้ามองจาก 4 คนที่เข้าไปก่อนหน้านี้ เป็นคดีเดียวกันและมาตราเดียวกัน แต่เราก็หวังอีก 20 เปอร์เซ็นต์ ที่กระบวนการยุติธรรมจะอยู่บนหลักการความเป็นธรรม เมื่อวาน (16 ก.พ.) ตนยื่นจดหมายถึงกระบวนการยุติธรรม ให้อนุมานไว้ก่อนว่าจำเลยเป็นผู้บริสุทธิ์จนกว่าจะมีคำตัดสินของศาล เรามีสิทธิต้องได้ประกันตัว คดีที่จำเลยถูกข้อหาฆ่าคนตายยังได้ประกันตัว

สร้างข้อสงสัยว่า หากเป็นไปตามคาดหมาย “การชุมนุมใหญ่” 20 กุมภาพันธ์ ตามคำประกาศขีดเส้นตายให้ปล่อยเพื่อน ทั้ง 4 จะเดินไปอย่างไรต่อ หากถึงจุด “เกลี้ยงแกนนำ” ?

ทว่า ภายในเวลาไม่กี่ชั่วโมง เกมก็พลิกได้ และล่าสุด เกมกลับพลิก 2 ตลบ

“ตลบแรก” เมื่อเวลา 09.40 น. ภายหลังพนักงานสอบสวน สน.ชนะสงคราม ส่งสำนวนพร้อมความเห็นสมควรสั่งฟ้อง ผู้ต้องหาให้พนักงานอัยการคดีอาญาพิจารณาเเล้ว ทางพนักงานอัยการยังไม่สั่งฟ้อง โดยนัดหมาย ฟังคำสั่งคดีครั้งเเรกในวันที่ 8 มีนาคมนี้ เวลา 10.00 น.

“ตลบที่ 2” ราษฎร 13 คน จากคดีชุมนุมหน้าสถานทูตเยอรมนี พนักงานอัยการก็เลื่อนนัดฟังคำสั่ง เป็นวันที่ 25 มีนาคมนี้

ซึ่งภายหลังนัดฟังคำสั่งพนักงานอัยการแล้วเสร็จ กลุ่มราษฎรเดินเท้าจากสำนักงานอัยการรัชดาภิเษก ไปยังศาลอาญา เพื่อยื่นคำร้องประกันตัว 4 จำเลย อีกครั้ง

อย่างไรก็ดี แม้มีหลายฝ่ายคาดการณ์ไปต่างๆ นานาว่า การชุมนุม 20 กุมภาพันธ์ อาจไม่เกิดขึ้น แต่ทางกลุ่มราษฎรเองก็ไม่ได้ออกมาเคลื่อนไหวว่าจะเลื่อนการชุมนุมแต่อย่างใด

นอกเหนือจากนี้ ยังมียุทธศาสตร์ที่ประกาศมาตลอดว่า “ทุกคนคืนแกนนำ” เท่ากับว่า ยังมีผู้ที่เคยอยู่หลังฉาก พร้อมจะออกมานำขบวนการได้ทุกเมื่อ ไม่ว่าจะมีแกนนำหรือไม่

จากการพิสูจน์จากครั้งก่อนหน้า จากยุทธการดาวกระจาย ที่ไม่ว่านักเรียน นักศึกษา กลุ่มการ์ด อาชีวะ หรือเสื้อแดง รุ่นใหญ่ ก็ล้วนมีบทบาทในการนำส่วนภาคีของตน เพียงไม่รู้ชื่อเสียงเรียงนามอย่างแกนนำราษฎร แต่ก็เชื่อว่าสามารถเดินหน้า ที่ผ่านมาพิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า สามารถ “แกง” ตำรวจได้เป็นว่าเล่น

แต่นี่ไม่ใช่จุดท้าทายในการเคลื่อนไหวปี 2564

ถามว่า 20 กุมภาพันธ์ แกนนำมีความเป็นห่วงเหตุรุนแรงจะซ้ำรอยวันที่ 13 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมาหรือไม่ ?

น.ส.ปนัสยา เผยว่า เราได้มีการถอดบทเรียนกันว่าเกิดอะไรขึ้น ปัญหามีอะไรบ้าง การชุมนุมครั้งต่อไป การดูแลความปลอดภัยจะรัดกุมขึ้น คิดว่าจะไม่เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นอีกหรือน้อยมาก

ด้าน นายภาณุพงศ์ ชี้ว่า ตอนนี้ต่างจังหวัดหลายพื้นที่ติดต่อห้องพักเข้ามาแล้ว รอดูกันต่อไปว่าจะเบิ้มขนาดไหน ไม่ซีเรียสอะไร ทุกอย่างถูกจัดวางไว้อย่างเป็นระเบียบเหมาะสมกับสิ่งที่จะเกิดขึ้น ตอบโต้กระบวนการที่ไม่เป็นธรรม

“เราเข้าใจความโกรธของมวลชนทุกคน เรารู้ว่าทนไม่ได้กับสิ่งที่เกิดขึ้น แต่เราอยากจะบอกว่าทุกคนคือพวกของเรา ทุกอย่างเกิดจากความโกรธที่เจ้าหน้าที่รัฐริเริ่มก่อน เรานั่งคุยกัน ต่อไปต้องมีทีมสันติวิธีในการควบคุมแนวข้างหน้า”

นอกจากนี้ ยังมีความพยายามอีกครั้งของทางฝั่งทนายความฝ่ายผู้ชุมนุม โดยนายกฤษฎางค์ นุตจรัส ทนายความ เปิดเผยภายหลังจากยื่นขอปล่อยตัวชั่วคราว นายพริษฐ์ ชีวารักษ์ หรือเพนกวิน, นายอานนท์ นำภา, นายสมยศ พฤกษาเกษมสุข และนายปติวัฒน์ สาหร่ายแย้ม หรือหมอลำแบงก์ 4 แกนนำและแนวร่วมกลุ่มราษฎร จำเลยในคดีตามมาตรา 112 และคดีอื่น ๆ กรณีการชุมนุมเมื่อวันที่ 19 กันยายน 2563 ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์

นายกฤษฎางค์ กล่าวว่า ทีมทนายความได้ยื่นคำร้องขอปล่อยตัวชั่วคราวจำเลยทั้ง 4 คนเป็นครั้งที่ 2 หลังจากที่เคยยื่นไปแล้วก่อนหน้านี้แต่ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ไม่อนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราว

ทนายความได้ยื่นคำร้องพร้อมหลักทรัพย์เป็นเงินสดคนละ2 แสนบาท พร้อมคำรับรองความประพฤตินายพริษฐ์ จากอาจารย์มหาวิทยาลัยคนหนึ่ง ว่านายพริษฐ์ มีความประพฤติเรียบร้อย จึงขอโอกาสไปศึกษาต่อ

นายกฤษฎางค์กล่าวว่า ศาลอาญาไม่อนุญาตให้นายพริษฐ์กับพวก ประกันตัวโดยศาลอาญาให้เหตุผลว่า ข้อหาตามฟ้องคดีนี้ ทั้งศาลชั้นต้น และศาลอุทธรณ์ เคยมีคำสั่งไม่อนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวจำเลยมาก่อนหน้านี้แล้ว จึงไม่มีเหตุให้เปลี่ยนแปลงคำสั่งเดิม ยกคำร้อง