ศึกซักฟอก : จับตาคู่เอก “ประยุทธ์” vs “เสรีพิศุทธิ์” ส.ส.เพื่อไทย แฉมี รมต.ต่อสาย ขอเคลียร์ข้อสอบ

วันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2564 เมื่อเวลา 07.50 น.ที่รัฐสภา นายสุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานคณะกรรมการพรรคร่วมฝ่ายค้าน กล่าวถึงการจัดคิวอภิปรายไม่ไว้วางใจว่า จะอภิปรายเปิดด้วยการอ่านญัตติจากนั้นก็เป็นตนขึ้นอภิปรายต่อ โดยจะเป็นการเสนอโครงสร้างอภิปรายในภาพรวมคือเป็นการนำร่อง ซึ่งในภาษายุทธการคือการบินชี้เป้าแต่ไม่ถล่ม จากนั้นก็จะเป็นทุกพรรคอภิปรายในรายละเอียดตามโครงสร้างที่ตนเสนอไว้ และก็จะไล่เรียงถึงวันสุดท้าย นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน พรรคเพื่อไทยอภิปรายสรุป

เมื่อถามว่าวันนี้นายกฯน่าจะเป็นคนเดียวที่ถูกอภิปรายหรือไม่ สุทิน กล่าวว่า คิวแรกเป้าหมายหลักคือนายกฯส่วนเป้าหมายรองเมื่อพูดถึงนายกฯ แล้วก็อาจจะโยงไปถึงรัฐมนตรีหลายคน ฉะนั้นเป้าหมายหลักวันนี้เป็นนายกฯและอาจจะเลยไปถึงพรุ่งนี้ด้วย เมื่อถามว่าไฮไลท์การอภิปรายของวันนี้จะอยู่ที่ใคร นายสุทิน กล่าวว่า ก็ตอบยาก วันนี้ก็มีขึ้น ตั้งแต่ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย นางอมรัตน์ โชคปมิตต์กุล ส.ส.พรรคก้าวไกล ไฮไลท์ก็ยังบอกไม่ได้ต้องดูเวลาไปก่อน และต้องดูใครพูดมีน้ำหนัก ทั้งนี้หวังว่าวันแรกการอภิปรายจะมีความเข้มข้น ตนมาพูดคนแรกก็ตั้งใจให้มีความเข้มข้นในวันแรก

เมื่ถามว่ามีการเตรียมการในเรื่องการประท้วงญัตติ จากฝ่ายรัฐบาลอย่างไรบ้าง นายสุทิน กล่าวว่า ท่านประธานสภา ได้พิจารณาญัตติแล้วอย่างรอบคอบ และเห็นชอบ ไม่มีอะไรผิดหรือขัดข้องบังคับ เชื่อว่าคนจองประท้วงก็จะประท้วง แต่เชื่อว่าประธานสภาจะชี้แจงได้เพราะการประท้วงประธานเห็นด้วยก็เหมือนประท้วงประธานด้วย เมื่อถามว่าฝูงบิน 36 ลำพุ่งเป้าไปที่นายกฯใช่หรือไม่ นายสุทิน กล่าวว่า คนที่เป็นศูนย์รวมก็คือนายกฯ ส่วนรัฐมนตรี 9 คนเป็นองค์ประกอบร่วมกันทำให้เกิดข้อผิดพลาด แต่ทุกคนก็ต้องรับข้อกล่าวหาของตัวเองไป

เมื่อถามว่าช่วงระหว่างอภิปรายจะมีการหารือกับวิปรัฐบาลหรือไม่เพราะหลายฝ่ายมีความกังวลเรื่องการประท้วงจะทำให้เกิดความไม่ราบรื่น อาจมีการเอ่ยถึงสถาบันฯ สุทิน กล่าวว่า เรื่องสถาบันฯคงไม่ใช่เป็นวันนี้อาจจะเป็นวันท้ายๆ เรื่องประท้วงเราห่วงอยู่อย่างเดียวการที่ฝ่ายค้านใจกว้าง แต่เราขอเพียง 42 ชั่วโมง ส่วนรัฐบาลจะเอาเวลาเท่าไหร่เราไม่ขัดข้อง ก็เรงว่าจะอาศัยช่องที่มีเวลาก็ไม่ขัดข้องก็ประท้วงกันแบบไม่จำกัด ฉะนั้นขอวิงวอนเมื่อเราใจกว้างจำกัดให้ใช้เวลาโดยไม่จำกัด ก็ควรใช้เวลาให้เกิดประโยชน์ และคำนึงถึงความรู้สึกของประชาชน เชื่อว่าประชาชนไม่ชอบการประท้วง

เมื่อถามว่าจะมีการอภิปายเรื่องบิ๊กป.รับส่วยขนแรงงานเถื่อนวันนี้ด้วยหรือไม่ นายสุทิน กล่าวว่า ตั้งใจวางไว้คิวต้นๆแต่จะวันแรกหรือไม่ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ และเราตั้งใจจะเป็นวันแรกแต่ถ้ามีการประท้วงเยอะก็อาจจะเลื่อนได้ เมื่อถามว่าคาดว่าจะมีการขยายวันอภิปรายออกไปอีกหรือไม่ นายสุทิน กล่าวว่า ขยายหรือไม่ขยายอยู่ที่รัฐบาล เราขอเพียง 42 ชั่วโมงเราจบได้อยู่แล้ว ภายใน 4 วัน แต่ถ้ารัฐบาลใช้เวลาก็อาจจะต้องขยาย เรื่องนี้ไม้ได้อยู่ที่ฝ่ายค้านแต่อยู่ที่รัฐบาล

 

จากนั้นเวลา 08.30 น. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เดินทางถึงอาคารรัฐสภาด้วยสีหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส ก่อนร่วมการอภิปรายไม่ไว้วางใจ

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า มีการเตรียมตัวอย่างไรบ้าง เนื่องจากมีรายงานข่าวว่านายกฯจะนิ่งที่สุดเพื่อรับฟังข้อมูลและให้รัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องเป็นผู้ชี้แจงใช่หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวเพียงว่า “จ้ะ จ้ะ”

เมื่อถามต่อว่า นายกรัฐมนตรีจะอยู่ร่วมฟังการอภิปรายตลอดเลยใช่หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า “จ้ะ จ้า” และเมื่อถามว่า ไม่มีอะไรกังวลเลยใช่หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวเหมือนเดิมว่า “จ้ะ จ้ะ”

และเมื่อถามย้ำว่า คะแนนโหวตรัฐมนตรีจะเท่ากันหมดเลยใช่หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า “แล้วแต่จ้า”

 

แฉมีรมต.ต่อสายขอดูข้อสอบ

ต่อมาเมื่อเวลา 08.45 น. นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ ส.ส.กทม.พรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์ก่อนเปิดอภิปราย ว่า การอภิปรายครั้งนี้มีคนโทรศัพท์หลากหลาย อยากบอกว่ารัฐมนตรีหลากหลายไม่ต้องโทรมาเคลียร์ หรือมีอะไรกับตนหรือเปล่า เพราะตนไม่เคยมีอะไรกับรัฐมนตรี แต่ประชาชนเดือดร้อน

ซึ่งการอภิปรายที่จะเกิดขึ้นเชื่อว่าประชาชนให้ความสนใจว่ารัฐมนตรีที่จะถูกอภิปรายมีพฤติกรรมฉ้อฉลอย่างไร บางเรื่องยิ่งกว่าทุจริตเชิงนโยบาย มีการแบ่งงานกันทำ บางคนได้ดิบได้ดี แม้การอภิปรายไม่ไว้วางใจส.ส.รัฐบาลจะยกมือให้ผ่านได้ แต่ประชาชนเขาจะเป็นผู้ร่วมลงมติด้วย และมั่นใจว่าฝ่ายรัฐบาลซึ่งส่วนใหญ่เคยเป็นฝ่ายค้านคงรู้วิธีการทำงาน

ถ้าจะมาประท้วงกันมั่วๆไม่มีข้อบังคับ เรื่องนี้ฝ่ายค้านเราสมาธิดี สติมั่นคง ประท้วงเท่าไหร่ยิ่งลดเวลาของรัฐบาลไปเอง และในฐานะที่เป็นหนึ่งในผู้อภิปรายในวันที่17 ก.พ.นี้ จะพูดถึงกระทรวงศึกษาธิการ คมนาคม และกระทรวงมหาดไทย และเตรียมข้อมูลไว้พร้อมแล้ว

ผู้สื่อข่าวถามว่าที่ผ่านมามีรัฐมนตรีมาเคลียร์หรือไม่ นายจิรายุ กล่าวว่า ไม่มี มาเคลียร์ แต่มีการต่อสายจากคนรู้จักรัฐมนตรีมาถึงเพื่อน พรรคพวกของตน โดยพยายามสอบถามข้อสอบว่าจะพูดเรื่องอะไร อาจจะรู้จากสื่อมวลชน แต่ทีเด็ดเป็นเรื่องที่มีข้อมูลที่ต้องใช้เวลาทำความเข้าใจมากพอสมควร ซึ่งฝ่ายค้านจะชี้ให้เห็นว่าพฤติกรรมที่เกิดขึ้นสมควรจะไว้วางใจหรือไม่

อีกเรื่องที่เราเรียกร้องไปถึงรัฐบาลคือปัญหาโครงการเราชนะ ที่มีคนร้องเรียนหลายคน แต่ไม่คิดว่ารัฐบาลจะด้อยปัญญา และคิดว่าสังคมไทย มีโทรศัพท์มือถือ อินเตอร์เน็ตครบทุกคน แต่ปรากฎว่าคนแก่ต้องเดินทางเป็นร้อยกิโลเมตรเพื่อมาธนาคารกรุงไทย

ในขณะที่กระทรวงการคลัง เปลี่ยนรัฐมนตรีไม่รู้กี่คน รู้หรือไม่ว่าธนาคารมีคำสั่งให้ปิดสาขาจำนวนมาก ดังนั้นนายกรัฐมนตรีจะมาชี้ แจงแก้ต้างว่าธนาคารไม่ได้เปิดวันเดียว ต้องให้ไล่ทีมโฆษก และผู้ที่เกี่ยวข้องกับประชาสัมพันธ์ออกให้หมดเพราะทำงานใช้ไม่ได้ เพราะประชาชนยังไม่รู้ ว่าให้เลื่อนลงทะเบียนไปถึงวันที่5 มี.ค.

เมื่อถามว่ารัฐบาลขู่ประท้วงหากอ่านญัตติที่พาดพิงสถาบัน นายจิรายุ กล่าวว่า ญัตตติไม่ไว้วางใจ ที่ฝ่ายรัฐบาลพยายามบอกว่าเกี่ยวข้องกับสถาบัน เรื่องนี้รัฐบาลกำลังดูถูกพวกเดียวกัน หากคิดว่าไม่ควรบรรจุ ต้องไปต่อว่าประธานและรองประธานรัฐสภาทั้งสองคน และไม่พาดพิงถึงพระมหากษัตริย์

แต่พาดพิงถึงตัวนายกรัฐมนตรี ที่เข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องหรือไม่ ซึ่งเป็นคำถามที่สังคมอยากรู้ ฉะนั้นไม่ว่าจะประท้วงแบบไหนเป็นสิทธิ์ของส.ส.และจะพิสูจน์ว่าสังคมคิดเห็นอย่างไร และไม่กังวลที่ส.ส.รัฐบาลจะประท้วง เพราะแต่ละคน เพราะเป็นการตำหนิไร้สาระ หากประท้วงข้ามพรรคตนจะไปจ่ายทิปและมีรางวัลให้