‘ผุสดี งามขำ’ เตือนคนรุ่นใหม่ด้วยความห่วงใย หลังม็อบ 13 กุมภาฯ ย้ำ “อย่าเป็นอย่างป้าเลย”

ที่มาภาพ : ประชาไท

“ผุสดี งามขำ” อดีตพยาบาล ผู้ที่ถูกขนานนามว่าเป็น ‘เสื้อแดงคนสุดท้าย’ จากภาพที่เธอนั่งอยู่บนเก้าอี้ตัวหนึ่งติดกับหน้าเวทีสี่แยกราชประสงค์ ภายหลังที่รัฐบาลอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ตัดสินใจใช้กำลังทหารพร้อมอาวุธเข้าสลายการชุมนุมในวันที่ 19 พฤษภาคม พ.ศ.2553 มีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตจำนวนมาก ล่าสุดผุสดี ใช้บัญชีแอคเคาต์ชื่อ @oilcharun โลกทวิตเตอร์มีการรีทวิตข้อความของเธอที่ส่งเสียงและความเห็นถึงการชุมนุมของคนรุ่นใหม่ที่กำลังเกิดขึ้น

หลังเหตุการณ์ที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย เมื่อวันที่ 13 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ภายหลังยุติการชุมนุมได้เกิดเหตุปะทะระหว่างเจ้าหน้าที่กับผู้ชุมนุมนั้น ภายใต้การส่งเสียงต่อตอบโต้กันไปมาทางโซเชียลของแกนนำทางการเมืองสองฝ่ายที่เห็นต่างกัน  นอกเหนือจากการตำหนิ จนท. ผุสดี เลือกส่งเสียงเตือนเป็นบทเรียนถึงคนรุ่นใหม่ด้วย

“ผุสดี” โพสต์ข้อความ ระบุว่า การชุมนุมทางการเมือง เมื่อร่วมทางกับกลุ่มใด คุณต้องยอมรับกติกาของกลุ่ม ชอบหรือไม่ชอบก็ต้องมีวินัย ปฏิบัติตามแผนของแกนนำ ถ้าไม่พอใจควรถอนตัว ไม่ควรปฏิบัติสวนทางกับแผนที่กำหนดไว้ และแฟลซม็อบต้องไปไวมาไว มาตรงเวลา เลิกก็สลายตัวไวที่สุด อย่าเปิดโอกาสให้ศัตรูสร้างสถานการณ์

คนที่หวังจบไวโดยสร้างความรุนแรง เสียใจด้วยค่ะ เพราะสถานการณ์ยังไม่สุกงอม ความรุนแรงก็แค่เพิ่มศพ เพิ่มนักโทษการเมือง เพิ่มข้อมูลให้สังคมโลกบันทึก และรอวันที่ใช่จริงๆ วันนั้นจะล้างฝ่ายแพ้ได้เกลี้ยงเกลา จากพลังความแค้นความเกลียดชังที่ต่างฝ่ายต่างสะสมไว้นานปี

เมื่อคุณหัวใจสลายเดินทางกลับบ้าน แล้วพบว่า ณ ที่ไม่ไกลจากที่ถูกกองทหารเข้าถล่ม ผู้คนใช้ชีวิตปกติ สุขสำราญ ไม่รับรู้อะไรเลย แถมบางคนรำคาญที่มีเรา ความแค้นจะทำให้คุณไม่ใช่คนเก่า การมีชีวิตเพื่อรอเอาคืน คือลมหายใจ เพราะอยู่หรือตายก็แค่ผ่านไปวันๆ อย่าเป็นอย่างป้าเลย…

และที่สำคัญสุดคืออย่าแตกแยกกันเองระหว่างมีม็อบ ต้องตกผลึกวิธี หลักการให้ดี การต่อสู้มีแพ้มีชนะ แต่ต้องเป็นการสู้ศัตรู