‘ทรัมป์’ รอด ‘ถอดถอน’ ชั้น ส.ว.แม้เสียงข้างมากชี้ ‘ผิดจริง’ ฐานปลุกปั่นม็อบบุกรัฐสภา

วันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2564 เอ็นบีซีนิวส์ รายงานว่า สมาชิกวุฒิสภาสหรัฐอเมริกาลงมติในการไต่สวนกระบวนถอดถอน อดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ในวันที่ 5 เมื่อวันเสาร์ที่ 13 ก.พ.ตามเวลาท้องถิ่น ด้วยคะแนน 57 เสียงต่อ 43 เสียง เห็นชอบให้ถอดนายทรัมป์ในข้อหายุยงปลุกปั่นให้เกิดการจลาจลจากกรณีกล่าวปราศรัยกับผู้สนับสนุนซึ่งต่อมานำกำลังบุกอาคารรัฐสภา (ยูเอส แคปิตอล) ในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. เพื่อขัดขวางกระบวนการรับรอง นายโจ ไบเดน เป็นประธานาธิบดี เมื่อวันที่ 6 ม.ค.ที่ผ่านมา

แต่เพราะคะแนนไม่ถึง 67 เสียงตามกำหนด ส่งผลให้นายทรัมป์พ้นผิด โดยมติดังกล่าวถือเป็นการยุติกระบวนการถอดถอนผู้นำครั้งที่ 4 ในประวัติศาสตร์สหรัฐ และครั้งที่ 2 ของอดีตประธานาธิบดีทรัมป์

รายงานระบุว่าแม้วุฒิสมาชิกสังกัดพรรครีพับลิกัน อดีตพรรคต้นสังกัดของนายทรัมป์ 7 คน ได้แก่ นายริชาร์ด เบอร์ ส.ว.รัฐนอร์ทแคโรไลนา นางซูซาน คอลลินส์ ส.ว.รัฐเมน นายบิล แคสซิดี ส.ว.รัฐลุยเซียนา นางลิซ่า มูร์คาวสกี ส.ว.รัฐอลาสกา นายมิตต์ รอมนีย์ ส.ว.รัฐยูทาห์ นายเบน แซซ ส.ว.รัฐเนบราสกา และนายแพต ทูมีย์ ส.ว.รัฐเพนซิลเวเนีย จะลงมติเห็นด้วยกับการดำเนินการถอดถอนนายทรัมป์ แต่ขาดไปเพียง 10 เสียง

นอกจากนายทรัมป์จะหลุดจากการถอดถอนแล้ว มติในครั้งนี้ยังหมายความว่าส.ว.จะไม่สามารถกีดกันนายทรัมป์จากการดำรงตำแหน่งในหน่วยงานรัฐบาลกลางสหรัฐในอนาคต ซึ่งก่อนหน้านี้นายทรัมป์ประกาศไว้ว่าจะหวนลงสมัครรับเลือกตั้งเพื่อชิงเก้าอี้ผู้นำสหรัฐอีกสมัยในศึกเลือกตั้งปี 2567

ขณะที่นายทรัมป์กล่าวขอบคุณทีมกฎหมาย วุฒิสมาชิก และสมาชิกสภาคองเกรสคนอื่นๆ ที่ให้การสนับสนุนตน “ขอขอบคุณผู้ที่ยืนหยัดอย่างภาคภูมิเพื่อรัฐธรรมนูญที่เราทุกคนพยายามรักษา และเพื่อหลักกฎหมายอันศักดิ์สิทธิ์ที่เป็นหัวใจของประเทศเรา นี่เป็นอีกช่วงของการล่าแม่มดครั้งใหญ่ในประวัติศาสตร์ของประเทศเรา และไม่มีประธานาธิบดีคนไหนที่ต้องผ่านเรื่องอะไรแบบนี้” นายทรัมป์ระบุ

ด้าน นายชัค ชูเมอร์ ผู้นำเสียงข้างมากของพรรคเดโมแครตในวุฒิสภา กล่าวว่าการลงมติแบบสองพรรคที่ใหญ่และมากที่สุดในประวัติศาสตร์การถอดถอนประธานาธิบดี แต่ก็ยังไม่มากพอที่จะถอดนายทรัมป์

“การไต่สวนนี้เป็นการเลือกประเทศเหนือโดนัลด์ ทรัมป์ และส.ว.สมาชิกพรรครีพับลิกัน 43 คนเลือกทรัมป์ พวกเขาเลือกทรัมป์ ทั้งที่ควรชั่งน้ำหนักด้วยสติสัมปชัญญะของพวกเขาในวันนี้ และในวันข้างหน้า” นายชูเมอร์กล่าว