ม็อบ13กุมภา : เกิดหลายเหตุชุลมุน ก่อนแกนนำสั่งยุติชุมนุม นัดอีกครั้ง 20 ก.พ.

แกนนำสั่งยุติการชุมนุม นัดรวมตัวอีกครั้ง 20 ก.พ.

เมื่อวันที่ 13 กุมภาพันธ์ กลุ่มราษฎรนัดหมายทำกิจกรรม ‘นับหนึ่งให้ถึงล้าน คืนอำนาจประชาชน’ ที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย กรุงเทพฯ ก่อนประกาศเดินขบวนมุ่งหน้าศาลหลักเมือง บรรยากาศ เวลาประมาณ 19.05 น. รถปราศรัยและมวลชนปักหลักหน้าศาลฎีกา นายอรรถพล บัวพัฒน์ หรือครูใหญ่ ขอนแก่นพอกันที ย้ำว่า ขอให้ราษฎรนั่งลง เราไม่มีนโยายการบุกเข้าไปยังสถานที่ใด ขอให้ทุกคนอยู่หลังแนว

เวลา 19.15 น. ประชาชนลุกขึ้น นายอรรถพลกล่าวย้ำว่า ขอให้ทุกคนหยุด ขยับกลับเจ้ามาอยู่ในแนว ถอย 5 ก้าว ขอให้คนถือธงพามวลชนกลับมา ครูใหญ่พร้อมประชาชนร่วมกันตะโกน ‘กลับมาๆๆๆๆ’ เพื่อเรียกมวลชนบางส่วนให้กลับมา หลีกเลี่ยงการปะทะที่อาจสร้างเงื่อนไขบางประการ นายนันทพงศ์ ปานมาศ หรือกุ๊ก เครือข่ายรามคำแหงเพื่อประชาธิปไตยกล่าวบนรถเครื่องเสียงว่า ขอให้อย่าสร้่างเงื่อนไขให้เจ้าหน้าที่ใช้ความรุนแรง อีกสักครู่จะส่งตัวแทนไปเจรจา “เราต้องการความเท่าเทียมที่จะนำพาประชนชนให้ก้าวไปข้างหน้า ถึงเวลาแล้วที่ประยุทธ์ และองคาพยพจะต้องออกไป” นายนันทพงศ์กล่าว

เวลา 19.20 น. รถปราศรัยเคลื่อนไปข้างหน้า ในขณะที่ประชาชนนั่งปักหลักบนถนนหน้าศาลฎีกาเกือบเต็มพื้นที่ คะโกน ‘ปล่อยเพื่อนเรา’ เพื่อเรียกร้องให้ปล่อย 4 แกนนำและว่า “เราจะสู้จนกว่า 3 ข้อเรียกร้องจะชนะ” เวลา 19.26 น. นายธัชพงศ์กล่าวว่า เราจะต้องทวงคืนอำนาจของราษฎรกลับมา ต่อไปนี้ ขอให้ทุกคนช่วยรณรงค์ยกเลิก 112 ได้หรือไม่ ต้องให้ทุกคนออกมาแสดงสัญลักษณ์ ไม่ว่าหน้าเฟซบุ๊ก อินสตาแกรม ยกเลิก 112 ทุกวันได้หรือไม่

เวลา 19.31 น. มวลชนมุ่งหน้าศาลหลักเมือง เวลา 19.38 น. นายภาณุพงศ์ จากนอก หรือไมค์ ระยอง ประกาศให้เจ้าหน้าที่ตำรวจปิดไฟที่ส่องอยู่ โดยให้เวลา 5 นาที ก่อนจะดำเนินการขั้นต่อไป “ถ้าตำรวจไม่ปิดไฟ เตรียมตัวบุกได้เลย และที่สำคัญ พวกเราขอเก็บลวดหนาม ซึ่งเป็นอันตรายกับประชาชน เราไม่อริราชศัตรูกัน ฉะนั้น อย่าเอาอะไรมาขวางหน้าประชาชนอีก เวลา 19.40 น มวลชนนับถอยหลัง พร้อมตะโกน ” ปิดไฟ” เกิดการชุลมุน และมีเสียงดังคล้ายระเบิดโดยประชาชนบางส่วนตะโกนว่า พี่น้องกลับมา อย่าถอย

19:41 น. มีเสียงประทัดหลายลูก ไม่ทราบฝ่าย และมวชนปาสิ่งของใส่ ต่อต้านการคุกคามจากเจ้าหน้าที่จากแสงไฟ แกนนำประกาศให้ใจเย็นๆและตั้งแนวอีกครั้ง 19.46 น. รถฉีดน้ำสตาร์ทเครื่อง ตำรวจตั้งแถวเป็นแนวรอบรถฉีดน้ำ 19.49 แกนนำประกาศให้พี่น้องถอยมา อย่าอยู่เกินแนวรั้ว เพราะเจ้าหน้าที่ยอมทำตามข้อเรียกร้องเบื้องต้นที่ให้ปิดไฟและหยุดใช้เสียงแล้ว และแกนนำจะเข้าไปเจรจากับตำรวจ

เวลา 20.05 น. มวลชนปรบมือให้ตัวแทน แกนนำราษฎร ที่เข้าไปทำพิธีเจรจากับศาลหลักเมือง 20.05 น. มีชายหัวเกรียนใส่ชุด มา 1 คันรถ ลงมาในวงล้อม คฝ. พร้อมหมวดเซฟตี้ 20.15 น. มีกิจกรรมสาดสี ก่อนที่เวลา 20.22 น. แกนนำประกาศ ถอยรถเครื่องเสียง และยุติการชุมนุม ย้ำให้ผู้ชุมนุมกลับบ้าน ต่อมาพบเสียงรถหวอเข้ามาพื้นที่มาเป็นระยะ ผู้รับผู้บาดเจ็บ หลังเกิดเสียงคล้ายระเบิดบริเวณที่ชุมนุม ซึ่งได้ประกาศยุติการชุมนุม และให้ผู้ชุมนมกลับบ้านกันหมดแล้ว

จากนั้น เวลา 20.34 น. มวลชนตะโกนกลับบ้าน พร้อมกับรถปราศรัยที่เคลื่อนถอยออกไปจากจุดชุมนุม

เบื้องต้นมีผู้สื่อข่าวสตริงเกอร์บาดเจ็บเล็กน้อย 1 ราย ถูกสาดน้ำมันเบนซินใส่เข้าบริเวณใบหน้า เจ้าหน้าที่กู้ภัยกำลังปฐมพยาบาล

ขณะที่นายณวรรษ เลี้ยงวัฒนา หรือ แอม บัณฑิต ม.ศิลปากร กล่าวว่า ขอให้จดจำว่าในวันนี้เราโดนอะไรบ้าง ทุกการต่อสู้ เราเจออะไรบ้าง แล้วเราจะเอาคืน ในวันที่ 20 กุมภาพันธ์นี้

เวลา 20.48 น.มวลชนล้มแนวแบริเออร์ของเจ้าหน้าที่ ขณะที่ฝั่งตำรวจมีการนำกำลังขึ้นมาเสริม

เวลา 20.52 น. มีมวลชนอีกกลุ่มเข้ามาเจรจาขอให้มวลชนที่เหลืออยู่ในพื้นที่ออกจากพื้นที่เพื่อแยกย้ายกันกลับ แต่มวลชนไม่ฟัง พร้อมต่อว่าแกนนำที่กลับไปก่อน

ทั้งนี้ตำรวจได้ประกาศให้เวลาอีก 30 นาทีในการแยกย้ายกันกลับ ไม่เช่นนั้นต้องดำเนินตามมาตรการกฎหมาย

เวลา 21.00 น.ตำรวจประกาศให้สื่อมวลชนเข้ามาหลบหลังแนวตำรวจ ก่อนมีการขว้างวัตถุระเบิดจากฝั่งมวลชนเกิดเสียงดังขึ้นนับสิบครั้ง เจ้าหน้าที่เตรียมรถน้ำ พร้อมปืนยิงกระสุนยาง ก่อนคอยคำสั่งสลายการชุมนุมเพื่อควบคุมสุานการณ์ไม่ให้เลวร้ายยิ่งกว่านี้

เวลา 21.05 น.ตำรวจควบคุมหญิงรายหนึ่งที่บุกฝ่าแนวกั้นเข้ามา