วันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2564 ต่อพงษ์ ไชยสาส์น อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข สมาชิกกลุ่มสร้างไทย ได้ออกมาแสดงความคิดเห็นต่อท่าทีอะลุ่มอะล่วยของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและอดีตผู้นำก่อการรัฐประหารปี 2557 ไม่กล้าประนามการรัฐประหารในพม่าเพราะว่า กลัวเข้าตัว และยิ่งเสียงเรียกร้องประชาธิปไตยในพม่าดังขึ้นเท่าไร ก็ยิ่งสร้างความหวั่นไหวให้กับผู้นำไทยมากขึ้นเท่านั้น

กรณี พล.อ.อาวุโส มิน อ่อง ลาย ผู้บัญชาการสูงสุดพม่าส่งจดหมายส่วนตัวอธิบายเหตุผลในการยึดอำนาจถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม โดยนายกฯไทยยืนยันให้การสนับสนุนแนวทางประชาธิปไตยในแบบพม่า ส่วนเรื่องภายในก็ให้เป็นไปตามหลักการของอาเซียนนั้น สะท้อนให้เห็นถึงจุดยืนที่กลิ้งกลอกสับสนของผู้นำไทย

เพราะขณะที่ผู้นำเกือบจะทั่วโลก โดยเฉพาะในประเทศประชาธิปไตย ต่างพากันประนามการรัฐประหารพร้อมเรียกร้องให้พม่ากลับคืนสู่ประชาธิปไตยโดยเร็ว แต่ พล.อ.ประยุทธ์ ซึ่งอ้างตัวเองว่ามาจากระบอบประชาธิปไตยกลับแสดงท่าทีภูมิใจที่ได้รับความสำคัญจากผู้นำรัฐประหาร ที่เพิ่งจะปล้นคะแนนเสียงมาจากประชาชนที่ลงคะแนนเลือกตั้งพรรคการเมืองที่พวกเขาชื่นชอบ

ก่อนหน้านี้ พล.อ.ประยุทธ์ ประกาศว่าไม่ขอวิจารณ์การรัฐประหารในพม่าและพร้อมจะมีจุดยืนตามกลุ่มประเทศอาเซียน แต่เมื่อผู้นำอาเซียนบางประเทศแสดงท่าทีคัดค้านและเรียกร้องให้เปิดการเจรจาในพม่า พล.อ.ประยุทธ์ก็ทำเป็นนิ่งเฉย แถมยังไฟเขียวให้ตำรวจสลายการชุมนุมของกลุ่มคนที่คัดค้านการรัฐประหารในพม่าอีกด้วย นัยว่าเพื่อเอาใจผู้นำคนใหม่ของพม่า แม้ว่าจะไม่ได้มาจากวิถีทางประชาธิไตยก็ตาม

การไม่กล้าแสดงจุดยืนประนามการรัฐประหารเหมือนกับผู้นำประเทศอื่น ๆ ของ พล.อ.ประยุทธ์คงเป็นเพราะกลัวว่าจะเข้าตัว เพราะรู้อยู่แก่ใจว่าตัวเองก็มีจุดเริ่มต้นมาจากการัฐประหารเช่นเดียวกัน ก่อนจะวางแผนการสืบทอดอำนาจอย่างแยบยล โดยเฉพาะการตั้ง 250 สว.มาค้ำยันการสืบทอดอำนาจ ซึ่งแทบจะไม่ต่างจากสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นอีกในพม่า

ดังนั้น ยิ่งเสียงเรียกร้องประชาธิปไตยในพม่าดังขึ้นเท่าไร ก็ยิ่งสร้างความหวั่นไหวหรือสร้างแรงสั่นสะเทือนมาถึงผู้นำไทยมากขึ้นเท่านั้น หาก พล.อ.ประยุทธ์มาตามระบอบประชาธิปไตยจริง ก็ควรออกไปประนามการกระทำในสิ่งที่ไม่เป็นประชาธิปไตย ไม่ใช่มาแสดงท่าทีภูมิใจกับการได้รับจดหมายขอการสนับสนุนจากผู้นำเผด็จการเช่นนี้ และด้วยท่าทีเช่นนี้ของ พล.อ.ประยุทธ์ ไทยจึงกลายเป็นประเทศที่ล้าหลังและวิ่งไม่ทันโลก จึงไม่แปลกที่จนถึงขณะนี้คนไทยยังไม่ได้ฉีดวัคซีนแม้แต่เข็มเดียว ขณะที่เพื่อนบ้านฉีดไปกันหมดแล้ว