ศึกอภิปราย : ก้าวไกลจัด 10 ส.ส.ชำแหละ 6 รมต. ลั่นมีใบเสร็จชนิดต้องไขก๊อก

การอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคลในส่วนของพรรคก้าวไกลนั้น เป็นที่น่าจับตาว่าจะมีทีเด็ดทำให้เสถียรภาพรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา สั่นคลอนได้หรือไม่

ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 6 กุมภาพันธ์ นายพิจารณ์ เชาวพัฒนวงศ์ รองหัวหน้าพรรค และประธานวิปพรรคก้าวไกล (ก.ก.) ให้สัมภาษณ์ถึงการเตรียมการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมตรีเป็นรายบุคคลว่า พรรค ก.ก. ยังไม่สามารถเปิดเผยข้อมูลการอภิปรายฯ ได้มากนัก แต่เบื้องต้นวางตัวผู้อภิปรายไว้ประมาณ 10 กว่าคน และจะอภิปรายรัฐมนตรี 6 คน คือ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ์ รองนายกรัฐมนตรี พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายนิพนธ์ บุญญามณี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ และ นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ส่วนการจัดสรรเวลาการอภิปรายฯ จากเดิมพรรคร่วมฝ่ายค้านอยากจะได้เวลาอภิปราย 45 ชั่วโมง แต่ได้เพียง 42 ชั่วโมง จึงต้องมีการตัดเนื้อหาการอภิปราย บางส่วน ตามสัดส่วนเวลาของแต่ละพรรค พรรค ก.ก.ได้เวลา 10 กว่าชั่วโมง เวลาที่ได้มาทำให้เบียดการอภิปราย อย่างไรก็ตามยังคงจำนวนผู้อภิปราย และเนื้อหาการอภิปราย เท่าเดิม แต่ต้องทำให้กระชับขึ้น

เมื่อถามว่าการอภิปรายครั้งนี้จะมีปัญหาการแบ่งเวลาเหมือนการอภิปรายเมื่อปี 2563 ที่ทำให้พรรค ก.ก. ต้องออกไปแถลงนอกสภาผู้แทนราษฎรหรือไม่ นายพิจารณ์กล่าวว่า การจัดสรรเวลาของพรรคร่วมฝ่ายค้าน ไม่น่าจะมีปัญหา แต่หากเกิดปัญหาจริงๆ คงจะไม่ได้มาจากพรรคร่วมฝ่ายค้านด้วยกันเอง แต่คงมาจากฝ่ายรัฐบาลมากกว่า ส่วนการอภิปราย ครั้งนี้จะเหมือนเดิมหรือมากกว่าเดิม ก็ให้ผู้ฟังตัดสิน เพราะหากเป็นเรื่องการทุจริต มีหลักฐานที่จะนำมาแสดงในสภา หากเป็นเรื่องการบริหารราชการที่ล้มเหลว สามารถชี้แจงมีที่มาที่ไปได้แน่นอน ทั้งนี้ มีความพยายามจัดเรียงผู้อภิปราย ของแต่ละพรรคให้เรื่องราวแต่ละวันเป็นไปในทิศทางเดียวกัน และทำให้แต่ละวันมีไฮไลท์ให้น่าติดตาม

ด้าน นายณัฐวุฒิ บัวประทุม ส.ส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรคก้าวไกล (ก.ก.) ฝ่ายกฎหมาย กล่าวถึงการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ว่า พรรคก.ก. ยืนยันชัดเจนว่าไม่ได้อภิปรายถึงสถาบัน แต่เป้าหมายของเรา จะอภิปรายหัวหน้ารัฐบาล ว่า ตลอดการบริหารราชการเเผ่นดินที่ผิดพลาด ได้นำเอาสถาบันมาเป็นเครื่องมือทำลายล้างประชาชน ผู้เห็นต่างอย่างไรบ้าง นี่คือสิ่งที่รัฐบาลจะต้องตอบให้ได้

นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า สำหรับภาพรวม ฝ่ายค้านจะมีการจัดตั้งทีมวอร์รูม 2 ทีมหลักใหญ่ๆ ดูแลทั้งใน เเละนอกห้องประชุม คือ 1.วอร์รูมเตรียมการอภิปราย มีคีย์เเมนหลักเเต่ละพรรค คอยประสานงานเตรียมการมากว่า 1 เดือนเเล้ว 2.วอร์รูมระหว่างอภิปราย นำโดย นายสุทิน คลังแสง ประธานวิปฝ่ายค้าน นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน พรรคเพื่อไทย (พท.) และนายพิจารณ์ เชาว์พัฒนวงศ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรคก.ก. คอยมอนิเตอร์ ส่วนเรื่องเนื้อหาอภิปราย แต่ละพรรคต้องรับผิดชอบเอง ซึ่งในส่วนของพรรคก.ก. เเบ่งเป็น 2 ทีมใหญ่ๆ ทีมที่1.นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรค เป็นหัวหน้าทีม และนายชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรค คอยช่วยดูเนื้อหา ส่วนทีมที่ 2. พรรคมอบหมายตน ดูกรณีหากถูกพาดพิง เราได้เตรียมขุนพลไว้รับมือหากรัฐบาลไม่ปฏิบัติตามข้อบังคับแล้ว หลายคน อาทิ นายธีรัจชัย พันธุมาศ ส.ส.บัญชีรายชื่อ นายจิรวัฒน์ อรัณยกานนท์ ส.ส.กทม.และนายณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ ส.ส.กทม. และโฆษกพรรค เป็นต้น

“เรามั่นใจว่าข้อมูลฝ่ายค้านไม่มีช่องโหว่ ข้อมูลศึกซักฟอกรอบนี้จะส่งผลสะเทือนรัฐมนตรีบางคนในรัฐบาล ในกรณีข้อกล่าวหาที่มีมูล เราจะยื่นเรื่องต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ด้วย ขอให้ผู้ชมทางบ้านติดตามให้ดี เรามั่นใจน้ำหนักข้อมูลดีกว่าการอภิปรายครั้งก่อน และมั่นใจข้อมูลจะนำไปสู่ การลาออกของรัฐมนตรีบางคน เพื่อเเสดงความรับผิดชอบต่อการบริหารงานที่ผิดพลาด แน่นอนว่าเสียงของฝ่ายค้านในสภาฯ ไม่สามารถล้มรัฐบาลได้ แต่พยานหลักฐานที่ฝ่ายค้านนำมาตีแผ่ครั้งนี้ จะนำไปสู่การรับผิดชอบของรัฐบาลในการลาออกจากตำแหน่ง” นายณัฐวุฒิ กล่าว