เครือข่ายแรงงาน ร้องหน้ารัฐสภาจี้เยียวยาถ้วนหน้า สาวกัมพูชาโอดเสียภาษีเหมือนกันแต่รัฐไม่เหลียวแล

วันที่ 3 ก.พ. กลุ่มเครือข่ายแรงงานเพื่อสิทธิประชาชน ได้มีการนัดหมายรวมตัวหน้ารัฐสภาเกียกกาย เพื่อเรียกร้องการเยียวยาถ้วนหน้าแก่ผู้ประกันตน ม.33 รวมถึง แรงงานข้ามชาติที่อยู่ในระบบประกันสังคม

โดยมีการยื่นหนังสือติดตามเงินเยียวยาถ้วนหน้า ถึงประธานกรรมการการแรงงาน นายสุเทพ อู่อ้น บริเวณหน้ารัฐสภาเกียกกาย ทั้งนี้ นายสุเทพ อู้อ้น สัญญาว่าจะติดตามและดำเนินการให้คืบหน้าต่อไป

โดยก่อนหน้านี้ ในวันที่ 26 ม.ค. 64 กลุ่มเครือข่ายแรงงานเพื่อสิทธิประชาชน ได้มีการออกมาเรียกร้องการเยียวยาถ้วนหน้าของผู้ประกันตนมาตรา 33 แล้ว เนื่องจากไม่พอใจนโยบายการเยียวยาที่ไม่ถ้วนหน้าของรัฐบาล โดยมีข้อเรียกร้อง ดังนี้

1.ข้อเรียกร้องรัฐต้องมีมาตรการเรื่องการแก้ไขละเมิดสิทธิแรงงานสถานการณ์การละเมิดสิทธิแรงงาน ที่นายจ้างกระทำโดยอ้างเหตุ Covid-19

ที่ผ่านมามีการเลิกจ้างผู้นำแรงงานหญิงโดยอ้างเหตุโรคระบาดเพื่อปิดบังเจตนาที่แท้จริงของนายจ้างที่ต้องการขัดขวางกระบวนการจัดตั้งสหภาพแรงงาน ดังนั้น รัฐต้องมีมาตรการในการตรวจสอบการเลิกจ้างที่เข้มงวด ไม่ผลักภาระให้ลูกจ้างเป็นผู้พิสูจน์ความผิด-ถูก

รัฐต้องมีมาตรการแก้ไข ปราบปราม ป้องกันการละเมิดสิทธิแรงงานอย่างเร่งด่วน สร้างความมั่นคงในอาชีพและรายได้ ให้แรงงานทุกกลุ่มอาชีพให้ได้รับค่าตอบแทนที่เป็นธรรม

รัฐบาลต้องจัดหาอุปกรณ์ที่ได้มาตรฐานสากลในการป้องกัน Covid-19 ให้กับ บุคคลากรทางการแพทย์ทุกคนที่ทำงานเกี่ยวข้อง และต้องจัดหาอุปกรณ์ความปลอดภัย เช่น หน้ากากอนามัย ให้กับประชาชนทุกคนอย่างเพียงพอ โดยรัฐบาลต้องจัดส่งให้ประชาชนถ้วนหน้า

รัฐต้องส่งเสริมความปลอดภัยในการทำงาน รวมถึงเอื้ออำนวยความสะดวกให้กับผู้หญิงในการเข้าถึงกองทุนช่วยเหลือในทุกโครงการฯ ที่รัฐบาลจัดทำเพื่อช่วยเหลือแรงงานในสถานการณ์ Covid-19

2.ข้อเรียกร้องเรื่องการเยียวยาประชาชนอย่างถ้วนหน้า

รัฐต้องเยียวยาประชาชนทุกคนเป็นเงินสด เพื่อให้สะดวกต่อการเข้าถึงสำหรับประชาชนที่ไม่มีโทรศัพท์มือถือสมาร์ทโฟนหรืออินเทอร์เน็ต

รัฐต้องจัดหางบประมาณแผ่นดินส่วนอื่นมาเยียวยาประชาชน โดยไม่นำเงินจากกองทุนประกันสังคมมาใช้เด็ดขาด เพราะเงินประกันสังคมเป็นกองทุนที่มีวัตถุประสงค์ที่ชัดเจนในการใช้อยู่แล้ว

รัฐต้องจัดให้มีศูนย์เลี้ยงเด็กลูกคนงานในย่านอุตสาหกรรม และชุมชนอุตสาหกรรมโดยไม่ต้องคำนึงถึงการมีทะเบียนบ้านในพื้นที่ กล่าวคือ ทุกคนที่มีลูกก่อนปฐมวัยสามารถเข้าเรียนได้โดยไม่มีเงื่อนไข อีกทั้งต้องได้รับการสนับสนุนงบประมาณการศึกษา อุปกรณ์ และอาหาร จากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ในช่วงที่รัฐบาลประกาศปิดศูนย์เลี้ยงเด็กระหว่างมีโรคระบาด Covid-19

3.ข้อเรียกร้องเรื่องการส่งเสริมสิทธิในสุขภาวะและอนามัยเจริญพันธ์สตรี

รัฐบาลต้องสนับสนุนงบประมาณในการส่งเสริมสุขภาวะ อนามัยเจริญพันธ์ที่ปลอดภัย ได้มาตรฐานสากล โดยต้องจัดให้ผู้หญิงหรือผู้ที่มีสภาพร่างกายเป็นหญิงสามารถเข้าถึงผ้าอนามัย ถ้วยอนามัย ฯลฯ ที่มีคุณภาพโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย

รัฐบาลต้องสนับสนุนให้ผู้ที่มีสภาพร่างกายเป็นหญิงสามารถเข้าถึงบริการทำแท้งที่ ปลอดภัย เห็นคุณค่าความเป็นมนุษย์ของผู้ทำแท้ง โดยไม่มีการดำเนินคดีอาญาหรือตีตราผู้ทำแท้ง

ในช่วงการปราศรัย มีตัวแทนแรงงานหญิงชาวกัมพูชาคนหนึ่ง ได้กล่าวผ่านเครื่องขยายเสียงว่า “หนูเป็นคนกัมพูชา ไม่ใช่ว่าหนูไม่เสียภาษี หนูก็เสีย หนูต้องเสียค่าใบอนุญาตทำงาน ค่าวีซ่าด้วย จ่ายไป 12,500 บาท หนูพยายามเป็นคนถูกกฎหมาย แต่หนูถูกนายหน้าโกง ตอนนี้ยังไม่ได้วีซ่า ไปแจ้งตำรวจเขาก็บอกว่าช่วงโควิดไม่ทำงาน เพราะหนูเป็นต่างด้าวใช่ไหมคะ หนูแจ้งความไปก็ไม่รับเรื่อง หนูแค่อยากได้สิทธิของหนู เงินหนูก็จ่าย อยากให้รัฐบาลดูแลบ้าง”