วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2564 รายงานข่าวแจ้งว่า จะมีผู้สมัครรับการสรรหาเป็นคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) บางส่วนไปยื่นหนังสือถึง นายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานวุฒิสภา เพื่อขอความเป็นธรรมเกี่ยวกับการสรรหากรรมการ กสทช. โดยมีการระบุถึงข้อพิรุธ และข้อสังเกตต่างๆ ถึงกระบวนการสรรหาว่าไม่เป็นธรรม ใช้มาตรฐานแตกต่างกัน จึงขอให้มีการตรวจสอบ และเปิดเผยต่อสาธารณชนให้รับทราบ ก่อนที่วุฒิสภาจะบรรจุญัตติเพื่อลงมติเลือกกกรรมการ กสทช.ชุดใหม่

รายงานข่าวแจ้งว่า แม้คณะกรรมการสรรหาบุคคลให้เข้ารับตำแหน่งกรรมการ กสทช. จะมีหนังสือชี้แจงถึงหลักเกณฑ์และแนวทางการพิจารณาคัดเลือกผู้สมควรได้รับการเสนอชื่อเป็นกรรมการ กสทช. จากผู้สมัคร 80 คนเหลือ 14 คน (7ด้านๆ ละ 2 คน) เพื่อให้วุฒิสภาลงมติคัดเลือกให้เหลือ 7 คน แต่ก็ยังไม่สามารถให้ความกระจ่างกับสังคมได้ โดยเฉพาะเรื่องการตรวจสอบคุณสมบัติของผู้สมัคร ซึ่งคณะกรรมการสรรหาฯ ไม่ได้แจ้งผู้สมัครที่เห็นว่าขาดคุณสมบัติให้รับทราบก่อน แต่กลับปล่อยให้มาแสดงวิสัยทัศน์และสัมภาษณ์ โดยมีธงอยู่แล้วว่าไม่ให้ผ่านเพราะขาดคุณสมบัติ ทำให้ผู้สมัครไม่มีสิทธิอุทธรณ์ชี้แจงแต่อย่างใด

ข่าวแจ้งว่า นอกจากนี้การให้ผู้สมัครทุกคนมาแสดงวิสัยทัศน์เพียงคนละ 5 นาทีและสัมภาษณ์อีกแค่ 5 นาที โดยอ้างว่าคณะกรรมการสรรหาฯมีข้อมูลของผู้สมัครแต่ละคนในมือมากพออยู่แล้ว และต้องเร่งพิจารณาคัดเลือกบุคคลเพื่อเสนอวุฒิสภาให้ทันภายใน 30 วัน ทั้งที่ คณะกรรมการสรรหาฯมีเวลา 2 เดือนกว่าหลังปิดรับสมัครเมื่อวันที่ 28 ตุลาคม 2563 ที่ผ่านมา แต่ปล่อยให้เวลาล่วงเลยไป และที่สำคัญมีผู้สมัครบางคนที่น่าจะขาดคุณสมบัติ ทั้งเรื่องประสบการณ์ในด้านนั้นๆ ที่ต้องมีไม่น้อยกว่า 10 ปี และการเกษียณจากตำแหน่งที่มีกิจการเกี่ยวข้องกับ กสทช.ไม่เกิน 1 ปี กลับได้รับการคัดเลือกด้วย จึงขอความเป็นธรรมต่อประธานวุฒิสภา ตรวจสอบให้โปร่งใส ก่อนจะเปิดให้มีการลงมติคัดเลือกกรรมการ กสทช.ชุดใหม่