ทีมผู้เชี่ยวชาญอนามัยโลกลงพื้นที่อู่ฮั่น จีนปัดสอบสวน ส่อมาเสียเที่ยว

วันที่ 30 มกราคม 2564 ที่ผ่านมา เอเอฟพี รายงานการลงพื้นที่เมืองอู่ฮั่นวันที่สองของคณะผู้เชี่ยวชาญขององค์การอนามัยโลกหรือ WHO ว่า คณะพบปะพูดคุยกับเจ้าหน้าที่โรงพยาบาล จินอิ๋นถาน โรงพยาบาลที่รับผู้ป่วยโควิด-19 รายแรกแล้ว แต่รายละเอียดของทริปดังกล่าวที่มีตารางงานแน่นกลับถูกจำกัดข่าวมากในจีนต้องอาศัยเพียงข้อมูลจากการทวีตข้อความที่มีเพียงเล็กน้อยจากทีมผู้เชี่ยวชาญ

นายปีเตอร์ ดาซแซก ทวีตว่า “ยินดีที่ได้เยือนโรงพยาบาลจินอิ๋นถาน ถือเป็นโอกาสสำคัญที่จะได้พูดคุยโดยตรงกับผู้ที่ทำงานในช่วงวิกฤตต่อสู้กับโควิด-19”

ภารกิจสอบสวนต้นตอโรคของ WHO ล่าช้าจากกรณีที่จีนไม่อนุญาตให้ทีมผู้เชี่ยวชาญเข้ามาจนกระทั่งกลางเดือนม.ค. 2564 เกิดคำถามโดยทั่วไปว่า ขณะนี้จะเหลืออะไรให้ผู้เชี่ยวชาญตรวจเจออีก หลังเวลาผ่านไป 1 ปี นับตั้งแต่ไวรัสระบาดครั้งแรก แม้คณะจะได้เข้าสำรวจตลาดหัวหนานที่เชื่อว่าเป็นคลัสเตอร์ใหญ่คลัสเตอร์แรก

ทีมอนามัยโลกลงพื้นที่อู่ฮั่น เมื่อวันเสาร์ที่ 30 ม.ค. มีช่วงเดินทางไปศูนย์แสดงนิทรรศการรำลึกความพยายามของชาวจีนในเมืองอู่ฮั่นที่ต่อสู้กับการระบาดของโควิดในพื้นที่ ซึ่งต้องล็อกดาวน์เมือง 76 วันเมื่อปีก่อน มีผลกระทบต่อประชากร 11 ล้านคน ซึ่งเอเอฟพีระบุว่า เป็นนิทรรศการที่นำเสนอเรื่องราวแนวโฆษณาชวนเชื่อ

ด้านนายจ้าว ลี่เจียน โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีนกล่าวว่า การเยือนอู่ฮั่นของ WHO เป็นส่วนหนึ่งของการวิจัยโรคโควิด-19 ในระดับโลก ไม่ใช่การสอบสวน

ส่วนนายไมเคิล ไรอัน ผู้อำนวยการบริหารฝ่ายฉุกเฉินขององค์การอนามัยโลก กล่าวว่า สิ่งที่จำเป็นต้องทำคือการรวบรวมข้อมูลทั้งหมดและนำมาประเมินผลว่าเรารู้เกี่ยวกับต้นตอของโรคโควิด-19 มากน้อยแค่ไหน และจำเป็นต้องศึกษาในประเด็นใดเพิ่มเติมเพื่อชี้แจงถึงสาเหตุของโรคให้ชัดเจน

เมื่อสัปดาห์ก่อนจีนเตือนสหรัฐอเมริกาไม่ให้แทรกแซงทางการเมืองระหว่างการลงพื้นที่ของคณะ WHO หลังทำเนียบขาวแจ้งว่าต้องการการสอบสวนที่แข็งแกร่งและชัดเจน

องค์กรอนามัยโลกยืนยันว่าการสอบสวนจะยึดถือตามหลักวิทยาศาสตร์อย่างเข้มงวดในแง่ที่ว่าไวรัสแพร่จากสัตว์ ซึ่งเชื่อว่ามาจากค้างคาวนั้นมายังมนุษย์ได้อย่างไร