เพื่อไทยชี้ประยุทธ์ไร้ประสิทธิภาพ วัคซีนช้า ระอาคน พปชร. หวังโหนโฆษก พท.ดัง

เพื่อไทย’ ชี้ ‘ประยุทธ์’ ไร้ประสิทธิภาพ จัดหาวัคซีนช้า ทำเศรษฐกิจฟื้นช้า เรียกร้อง จ่ายประชาชนเป็นเงินสด ก่อนเจ้าสัวจะเป๋าตุง
ระอา ‘คนของพรรคพลังประชารัฐ’หวังโหน ‘โฆษกเพื่อไทย’ ดัง

วันที่ 29 มกราคม นางสาวตรีชฎา ศรีธาดา คณะทำงานเศรษฐกิจพรรคเพื่อไทย ชี้เป็นห่วงวิธีการจ่ายเงินเยียวยาโควิด-19 ระลอกสองเกิดปัญหาหนัก ไม่ทันความต้องการประชาชน แทนที่จะเยียวยาความเดือดร้อนกลายเป็นรัฐบาลยิ่งซ้ำเติมใช้วิธีจ่ายเงินผ่านบัตรดึงเงินจากกระเป๋าประชาชนไปเติมเข้ากระเป๋าเจ้าสัว กระแทกซ้ำความลำบาก กลุ่มตกหล่นไม่มีสมาร์ทโฟนไร้วิธีการช่วยเหลือ ให้ไปติดต่อธนาคารแต่ไม่มีวิธีการรับเงิน แค่จ่ายเงินประชาชนเป็นเงินสดก็ได้กันถ้วนหน้า รัฐไร้ประสิทธิภาพควรจัดหาวัคซีนให้ประชาชนทั่วถึงก่อนประเทศเพื่อนบ้าน แต่รัฐบาลไม่ทำ กลับส่งคนไร้ราคามาโหนโฆษกเพื่อไทยหวังกระพือแสงแต่ไม่คิดช่วยประชาชน !!!
“พรรคเพื่อไทยมีความเป็นห่วงประชาชนเรื่องการรับเงินเยียวยาที่สุดแสนจะช้า อ้างนั่นอ้างนี่สารพัดเพื่อผัดผ่อนการจ่ายเงินให้กับประชาชน การจ่ายเงินสดให้กับประชาชนเป็นเรื่องที่ง่ายมากและตอบสนองความต้องการของประชาชนได้ทันทีเพราะเขาต้องการเงินเยียวยา แต่รัฐบาลกลับทำเรื่องง่ายเป็นเรื่องยาก ทำเรื่องที่ไม่เข้าท่าอ้างว่ากลัวประชาชนจะติดเชื้อโควิดจากการจับธนบัตรบ้าง กลัวคนไปต่อแถวกดเงินจนเกิดการแออัด แต่รัฐบาลกลับไม่ห่วงว่าประชาชนจะอดตาย ไม่มีบ้านอยู่ ไม่มีน้ำไฟใช้ ว่าคนเหล่านั้นเขาจะอยู่อย่างไร รัฐบาลแจงถึงการเยียวยาประชาชน 31.1 ล้านคนบอกว่าไม่ต้องแย่งกัน แต่คนมีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐจำนวน 14.5 ล้านคน คนใช้สิทธิ์คนละครึ่ง 15 ล้านคน คนใช้สิทธิ์เที่ยวด้วยกัน 1.5 ล้านคน ลำพังแค่ 3 โครงการนี้ก็ 31 ล้านคนเกือบเต็มจำนวนที่รัฐบาลกำหนดไว้แล้ว มันจะเหลือเพียงพอไปถึงคนที่ไม่เคยกดรับสิทธิ์และคนที่ไม่มีสมาร์ทโฟนที่จะต้องลงทะเบียนในวันนี้ผ่าน www.เราชนะ.com ได้อย่างไร ที่สำคัญคนไม่มีสมาร์ทโฟนบอกให้ไปติดต่อธนาคารแต่ไม่บอกว่าจะให้ไปรับเงินจากรัฐบาลวิธีไหนในเมื่อไม่จายเงินสด และไม่มีแอพเป๋าตัง พรรคเพื่อไทยถามกระทู้ในสภาถามรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังก็ตอบไม่ได้
“บางคนถึงกับร้องเพลงถามถึงเงินเยียวยา 3,500 ว่าจะมีวาสนาได้รับหรือเปล่า ซึ่งประโยคแบบนี้ไม่ควรเป็นคำถามที่เกิดขึ้นกับประชาชนคนไทย เพราะไม่ว่าจะเป็นใครควรมีสิทธิ์ได้รับเงินเยียวยาจากรัฐบาล เพราะทุกคนต่างได้รับผลกระทบจากคำสั่งของรัฐ แต่รัฐบาลเหมือนหลอกให้ประชาชนใช้เงินผ่านบัตรและแอพเป๋าตัง แบ่งง่ายเป็นงวดๆ เหมือนขยายเครือข่ายบัตรคนจนจากเดิมมี 14.5 ล้านคนเป็น 31.1 ล้านคน ซึ่งทุกโครงการที่ว่ามาล้วนดึงเงินออกจากกระเป๋าประชาชนทั้งสิ้น มันเยียวยาประชาชนตรงไหน มีแต่ไปบำรุงเป๋าตังเจ้าสัวให้ตุงยิ่งขึ้น
นางสาวตรีชฎากล่าวต่อว่า “ที่ผ่านมานายพิชัย นริพทะพันธุ์ รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทยด้านเศรษฐกิจออกมาเตือนสติรัฐบาลหลายครั้งถึงการจ่ายเงินและวิธีการจ่ายเงินเยียวยาที่ควรจะเป็นเงินสด ไม่ควรจ่ายผ่านบัตรที่คิดเหมือนประชาชนไม่มีปัญญาจะบริหารจัดการตัวเองได้มาแล้ว แต่รัฐบาลก็ไม่คิดเปลี่ยนยังดันทุรังทำตามแนวคิดของตัวเองไม่มองความเดือดร้อนของประชาชนเป็นสำคัญ จนถึงวันที่จะจ่ายเงินให้ประชาชนในวันที่ 5 ก.พ.ความวุ่นวายที่ประชาชนจะแย่งกันซื้อแย่งกันกินมีให้เห็นแน่นร้านธงฟ้าประชารัฐและร้านสะดวกซื้อเครือเจ้าสัวแน่ คงไม่กลัวการแออัดและเสี่ยงติดโรคแบบที่เตือนก่อนหน้านี้
“พลเอกประยุทธ์น่าจะไม่เข้าใจเลยเลยว่า ยิ่งฉีดวัคซีนให้ประชาชนได้ครบเมื่อไหร่ เศรษฐกิจจะฟื้นกลับมาได้เร็ว วัคซีนจัดซื้อช้า แถมปริมาณยังไม่ครบ ควรมีปริมาณเท่าประชากร หรือ อย่างน้อยต้องฉีดให้ 75 % ของประชากร ซึ่งการฉีดวัคซีนนอกจากจะเป็นเรื่องสุขภาพของประชาชนแล้ว ยังเกี่ยวข้องกับการฟื้น เศรษฐกิจโดยตรง ทั้งนี้ การฉีดวัคซีน อาจจะป้องกันการติดไวรัสไม่ได้ 100% และยังคงต้องสวมหน้ากากอยู่ แต่เป็นการลดโอกาสการติดเชื้อไวรัสได้อย่างมาก และจะสามารถสร้างความมั่นใจให้กับคนในประเทศ และ ต่างประเทศ ได้ โดยเฉพาะความมั่นใจเรื่องการท่องเที่ยว ขนาดประเทศเมียนมาร์ยังได้รับวัคซีนก่อนไทย มันน่าภูมิใจหรือน่าอาย อยากให้พลเอกประยุทธ์ ได้ไปศึกษา 19 เรื่องที่นายพิชัย ได้เสนอไว้ในการฟื้นเศรษฐกิจ ซึ่งเป็นเรื่องง่ายๆที่สามารถทำได้ทันที หากมีการเลือกตั้ง พรรคเพื่อไทยจะมีนโยบายเศรษฐกิจชุดใหญ่เพื่อให้เศรษฐกิจไทยพัฒนาได้ดีกว่านี้มาก
“ขณะที่โฆษกพรรคเพื่อไทยขอให้ประชาชนช่วยกันตรวจสอบ และรับรู้ว่าการทำงานของรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ ใช้งบประมาณจากภาษีของพี่น้องประชาชนอย่างไร้ประสิทธิภาพ ทั้ง big data และ หลายโครงการส่อไปในทางทุจริตคอร์รัปชั่นเอื้อประโยชน์ให้กับพวกพ้องหรือไม่ โดยเฉพาะปัญหาเรื่องเบี้ยคนชราที่มีปัญหาจ่ายแล้วไปทวงคืน แทนที่รัฐบาลจะกลับไปทบทวนวิธีการทำงาน กลับส่งคนไร้ราคาจากพรรคพลังประชารัฐมาโจมตีกลับ ไม่รู้จักคิดได้ แต่กลับคิดได้อย่างเดียวคือมาอาศัยหิวแสงโหนโฆษกเพื่อไทยหวังดัง อยากให้เอาคำแนะนำของพรรคเพื่อไทยไปปรับแผนช่วยเหลือประชาชนก่อนคนจนจะตายหมดประเทศแทนการหมดจากประเทศตามคำพูดของนายสมคิด จตุศรีพิทักษ์ ” นางสาวตรีชฎา กล่าวทิ้งท้าย