วันที่ 28 มกราคม 2564 นายสงคราม กิจเลิศไพโรจน์ หัวหน้าพรรคเพื่อชาติ อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า เศรษฐกิจประเทศไทยน่าเป็นห่วงมาก เครื่องยนต์ทางเศรษฐกิจไทยดับทุกเครื่อง ส่งออก นำเข้า ใช้จ่ายภาครัฐ มาจนถึงภาคธุรกิจการท่องเที่ยวที่เป็นรายได้หลายแสนล้านบาทต่อปี มาถึงวันนี้สถานการณ์ท่องเที่ยวไทยตลอดทั้งปี 2563 หนักหนากว่าที่คาดการณ์ไว้ โดยในปี 2563 ไทยมีนักท่องเที่ยวต่างชาติ 6.69 ล้านคน ลดลง 83.22% มีรายได้จากนักท่องเที่ยวต่างชาติ 3.33 แสนล้านบาท ลดลง 82.58% ขณะที่ แรงงานท่องเที่ยวตกงานทั้งระบบกว่า 4.1 ล้านคน ประกอบกับโควิดระลอกใหม่จะส่งผลตกงานเพิ่ม 2 ล้านคน โควิด 2 รอบตกงานรวม 6 ล้านคนโดยผู้ประกอบการส่วนใหญ่ไม่มีทุนพอที่จะรักษาการจ้างงานได้อีก

นายสงคราม กล่าวด้วยว่า วิกฤติโควิดทั้งสองรอบ สร้างความเสียหายให้ประประเทศและกระทบกับรายได้ประชาชนทั้งประเทศ ล่าสุดผู้ประกอบการแท็กซี่ยอมรับจำนวนรถแท็กซี่ที่ลดลงไปเป็นจำนวนมาก เพราะเจ้าของรถหมดเงินที่จะจ่ายค่าผ่อนรถ เพราะรายได้ลดลง ทั้งนี้พบว่าจำนวนแท็กซี่ที่จดทะเบียนจำนวนกว่า 80,000 คัน มีการขับจริงในท้องถนนเพียง 30,000 คันเท่านั้น อีก 50,000 คันเจ้าของรถยอมถูกยึดและหันไปทำอาชีพอื่นเพื่อให้อยู่รอด

“ปัญหาประเทศเกิดมาจากการรัฐประหารเมื่อ 7 ปีที่ผ่านมา ซึ่งสร้างปัญหาให้กับประเทศ รวมทั้งพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี คือปัญหาประเทศตัวจริง เพราะหวงอำนาจ รวมทั้งยังสนุกกับการใช้งบประมาณมหาศาลในแต่ละปี ไม่สนใจว่าประเทศและประชาชนจะรู้สึกอย่างไร นอกจากนี้พลเอกประยุทธ์สร้างวาทกรรมว่าต้องการช่วยประชาชน แต่การกระทำสวนทาง เพราะงบประมาณที่มีอยู่หมดไปกับนโยบายเอื้อนายทุน ปล่อยให้ใกล้ชิดรัฐบาลนายทุนกินรวบการค้าของประเทศ ไม่เปิดโอกาสให้ประชาชนสามารถขายสินค้าได้โดยเสรี แต่พลเอกประยุทธ์ไม่ยอมรับและไม่สนใจถึงความเป็นอยู่ประชาชน เพราะยังต้องการกุมอำนาจไว้” นายสงคราม กล่าว