เผยกลุ่มที่ได้ฉีดก่อน 19 ล้านคน ‘ประยุทธ์’ ยันวัคซีนโควิด มีคุณภาพผ่าน อย.

‘บิ๊กตู่’ ยันวัคซีนโควิด ล็อตแรก 14 ก.พ. ให้บุคลากรสาธารณสุข-จนท.พื้นที่เสี่ยง เผยกลุ่มเป้าหมาย 19 ล้านคนได้ฉีดก่อน ลั่นไม่ต้องกังวลเรื่องคุณภาพ เพราะต้องผ่าน อย.

เมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 27 ม.ค. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ออกรายการผ่านแอพพลิเคชั่นพอดแคสต์ไทยคู่ฟ้า ถึงความคืบหน้าการจัดหาวัคซีนโควิด-19 ว่า เรื่องวัคซีนตนคิดว่าหลายคนเป็นห่วงและมีความกังวล และมีคำถามมาว่าจะฉีดเมื่อไหร่ ซึ่งเรื่องนี้รัฐบาลยืนยันว่าคนไทยทุกคนที่ต้องการฉีดจะได้รับการฉีดฟรีไม่มีค่าใช้จ่าย ยกเว้นเด็กที่อายุต่ำกว่า 18 ปีและสตรีมีครรภ์ ไม่ต้องกังวลเรื่องคุณภาพของวัคซีน เพราะเรายังคงคำนึงเรื่องความปลอดภัยสูงสุดของประชาชน ซึ่งวัคซีนที่เข้ามาจะต้องผ่านการรับรองขององค์การอาหารและยา(อย.)

โดยระยะแรกรัฐบาลได้กำหนดกลุ่มเป้าหมายไว้ประมาณ 19 ล้านคน ที่เป็นบุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุขด่านหน้า 1.7 ล้านคน, ผู้ที่มีโรคประจำตัว เช่น โรคทางเดินหายใจเรื้อรัง โรคหัวใจ โรคไตเรื้อรัง โรคหลอดเลือดสมอง โรคมะเร็ง โรคเบาหวาน 6.1 ล้านคน, ผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป 11 ล้านคน และเจ้าหน้าที่ควบคุมโควิดและมีโอกาสสัมผัสกับผู้ป่วย 15,000 คน

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวต่อว่า วัคซีนล็อตแรก 5 หมื่นโดสจะเข้ามาในเร็วๆ นี้ โดยจะฉีดให้กับบุคลากรสาธารณสุข ตำรวจ ทหาร เจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมือง ในพื้นที่ที่มีความเสี่ยงก่อนเป็นลำดับแรก เพื่อให้เกิดความปลอดภัยของผู้ปฏิบัติงาน ตั้งแต่ 14 ก.พ. 2564 เป็นต้นไป ส่วนระยะที่ 2 จะเริ่มประมาณเดือน พ.ค. 2564 ขึ้นอยู่กับวัคซีนจะทยอยเข้ามาได้มากน้อยเพียงใด โดยในส่วนนี้จะครอบคลุมประชาชนในกลุ่มที่มีความเสี่ยงลำดับถัดไป

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวอีกว่า กลุ่มเป้าหมายอาจมีการปรับเปลี่ยนตามสถานการณ์การแพร่ระบาดและประสิทธิภาพของวัคซีน รวมทั้งจำนวนวัคซีนที่หาได้ โดยขอย้ำว่ารัฐบาลจะดำเนินการทุกอย่างให้ดีที่สุด และต่อไปประเทศไทยจะเป็นฐานผลิตวัคซีนของอาเซียน โดยจะดำเนินการตามแผนจะรับการถ่ายทอดเทคโนโลยีจากต่างประเทศตามที่รัฐบาลได้กำหนดไว้ คาดว่าน่าจะเพียงพอกับความต้องการของคนไทยทั้งประเทศ ทั้งนี้ ต้องการฉีดให้มากเพียงพอที่จะสร้างภูมิคุ้มกันร่วมในประเทศไทย