ความในใจเทพไท หลังคำตัดสิน – สิ่งที่ นิพิฏฐ์ ขอพรรคร่วมหลีก ปชป. ลงซ่อม และท่าทีจุรินทร์

เมื่อวันที่ 27 ม.ค. 2564 ที่พรรคประชาธิปัตย์ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยให้นายเทพไท เสนพงศ์ สิ้นสุดสมาชิกภาพความเป็น ส.ส โดย นายเทพไท ได้จัดแถลงข่าวถึงกรณีดังกล่าว พร้อมร้องเพลงชื่อ “เปิดตัวเปิดใจ เทพไท เสนพงศ์” ก่อนแถลงว่า น้อมรับคำวินิจฉัยของศาลทุกประการ แต่คดีความของศาลกับคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญแตกต่างกัน เป็นคนละประเด็นกัน หลายคนเข้าใจผิดว่านี่คือคดีอาญา แต่ขอเรียนว่าคดีอาญาอยู่ในชั้นอุทธรณ์ และต้องสู้ในชั้นฎีกาอีก

นายเทพไท กล่าวต่อว่า ในศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำคุกตน แต่มีข้อสงสัยเรื่องคุณสมบัติ จึงส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย ขอเรียนว่าคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญถือเป็นที่สิ้นสุด แต่คำถามต่อมาคือถ้าหากตนชนะในศาลอุทธรณ์หรือศาลฎีกา แต่ตนได้สูญเสียสถานะการเป็นส.ส.ไปแล้ว ซึ่งไม่มีใครสามารถที่จะเยียวยาให้ตำแหน่งกลับคืนมาได้ ทั้งหมดไม่ได้เป็นความผิดของใคร ตนคิดว่าเป็นจุดอ่อน จุดบกพร่องของรัฐธรรมนูญฉบับนี้ ที่เขียนในลักษณะที่เป็นปัญหา

“ตามปกติจะต้องให้คดีถึงที่สุดถึงจะมีข้อยุติในเรื่องคุณสมบัติการเป็น ส.ส. แต่คดีของผมถือว่าคดียังไม่ถึงที่สุด แต่บทบัญญัติของรัฐธรรมนูญฉบับนี้เป็นปัญหา จึงนำมาซึ่งให้ศาลรัฐธรรมนูญต้องวินิจฉัย และผมเชื่อว่ารัฐธรรมนูญฉบับนี้มีจุดอ่อนอีกหลายจุดที่เป็นประเด็นต้องถกเถียงกัน ซึ่งเห็นว่ามีความจำเป็นอย่างยิ่งสำหรับคณะกรรมาธิการพิจารณาแก้ไขรัฐธรรมนูญ หรือสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ(ส.ส.ร.)ที่จะมีขึ้นในอนาคต”

นายเทพไท กล่าวอีกว่า สำหรับการส่งผู้สมัคร ส.ส.ของพรรค ลงแทนตนนั้น เป็นหน้าที่ของกรรมการสรรหาและคณะกรรมการบริหารพรรคที่จะสรรหาตัวผู้สมัครส.ส.นครศรีธรรมราช ต้องไปคุยกันและทำไพรมารีโหวตว่าจะสนับสนุนใครเป็นตัวแทน คิดว่าในพื้นที่ภาคใต้ไม่น่ากังวลสำหรับพรรคประชาธิปัตย์ เชื่อว่าหลายคนในพรรคจะเสนอชื่อผู้สมัคร และตนก็มีสิทธิ์เสนอชื่อเช่นกันเพราะเป็นเจ้าของพื้นที่เดิม

นายเทพไท กล่าวต่อว่า สำหรับงานที่จะให้ส.ส.คนใหม่ของพรรคเข้ามาสานต่อ มีจำนวน 6 เรื่อง อาทิ การแก้ปัญหาไฟไหม้ป่าพรุควนเคร็ง ที่เคยเสนอให้ขุดคลองและสร้างถนนรอบพื้นที่ป่าเพื่อแก้ไขปัญหาอย่างยั่งยืน โครงการท่อส่งน้ำของอำเภอจุฬาภรณ์ ซึ่งได้ประสานเรื่องนี้ไปแล้ว เนื่องจากพื้นที่นี้ไม่มีน้ำประปา โครงการสร้างสถานีรถไฟแห่งใหม่ ที่วังบัว อ.พระพรหม และการแก้ไขรัฐธรรมนูญที่ผลักดันมาตลอด เป็นต้น

“ขอขอบคุณพรรคประชาธิปัตย์ที่ให้โอกาสเป็นส.ส. มา 20 ปี ขอบคุณพี่น้องประชาชนที่ให้กำลังใจ และหลังจากพรุ่งนี้เป็นต้นไป ผมจะมีบทบาทเป็นนักการเมืองนอกสภาคนหนึ่ง” นายเทพไท กล่าว

ด้านนายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ดูแลภาคใต้ ให้สัมภาษณ์ภายหลังศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยให้นายเทพไท เสนพงศ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ พ้นสภาพ ส.ส. จากการต้องคำพิพากษาศาลจังหวัดนครศรีธรรมราช ลงโทษจำคุก 2 ปี และเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งมีกำหนด 10 ปี จากกรณีร่วมกระทำผิดทุจริตเลือกตั้งนายก อบจ.นครศรีธรรมราช เมื่อปี 2557 จึงจะต้องมีการจัดเลือกตั้งใหม่ภายใน 45 วัน

นายนิพิฏฐ์ กล่าวว่า พรรคประชาธิปัตย์จะมีการประชุมคณะกรรมการบริหารพรรค(กก.บห.)อยู่แล้ว ในวันที่ 28 ม.ค.นี้ เวลา 16.00 น. ที่พรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งน่าจะมีการนำเรื่องนี้มาหารือด้วย ส่วนการพิจารณาหาตัวบุคคลลงสมัครรับเลือกตั้งซ่อมในเขตเลือกตั้งที่ 3 จ.นครศรีธรรมราช นั้น ตนคิดว่าควรสอบถามความคิดเห็นของนายเทพไทก่อนว่า ใครเป็นผู้ที่มีความเหมาะสมจะลงสมัคร ส.ส.แทนเขา

นายนิพิฏฐ์ กล่าวอีกว่า ขณะเดียวกัน ตนได้เคยพูดคุยเบื้องต้นกับบรรดา ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ใน จ.นครศรีธรรมราช ในช่วงก่อนที่ศาลรัฐธรรมนูญจะตัดสิน ซึ่งพวกเขาให้โอกาสนายเทพไทเสนอตัวบุคคลก่อนเช่นเดียวกัน ปัญหาที่สำคัญกว่านั้นและเรายังกังวลอยู่ คือท่าทีของพรรคร่วมรัฐบาล เนื่องจากเขตเลือกตั้งที่ 3 จ.นครศรีธรรมราช เป็นพื้นที่ที่พรรคประชาธิปัตย์มีส.ส.อยู่ ซึ่งตอนนี้ตำแหน่งได้ว่างลง ก็ต้องรอดูว่าพรรคร่วมรัฐบาลจะส่งคนลงสมัคร ส.ส.เขตดังกล่าวหรือไม่ แต่โดยธรรมเนียมปฏิบัติที่ผ่านมา พรรคการเมืองที่อยู่ร่วมรัฐบาลด้วยกันจะไม่ส่งคนลงแข่งขันกันเอง

“ในครั้งนี้ควรใช้วิธีปฏิบัติดังกล่าว ซึ่งผมจะเสนอประเด็นนี้ต่อที่ประชุมกก.บห.ด้วยว่าขอให้แกนนำพรรคไปพูดคุยกับบรรดาพรรคร่วมรัฐบาลว่า ขอไม่ให้มีการส่งคนลงสมัครแข่งขันกันเองในการเลือกตั้งซ่อม ส.ส.เขตนี้ แล้วปล่อยให้พรรคประชาธิปัตย์แข่งขันกับฝ่ายค้านหรือพรรคอื่นๆ ที่ไม่ได้ร่วมรัฐบาล ซึ่งผมเชื่อว่าที่ประชุม กก.บห.จะเห็นด้วย แล้วจะนำไปสู่การที่หัวหน้าพรรคและเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ไปเจรจากับพรรคร่วมรัฐบาลต่อไป” นายนิพิฎฐ์ กล่าว

ปิดท้ายที่ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ให้สัมภาษณ์ ถึงกรณีที่มีคำตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยให้ตำแหน่งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรที่มาจากการเลือกตั้งแบบแบ่งเขตเลือกตั้งว่างลงนั้น ว่า 28 ม.ค. นี้จะมีการประชุมกรรมการบริหารพรรค ซึ่งคงจะได้มีการหารือในเบื้องต้นถึงกระบวนการในส่วนของพรรคฯ เพราะถือว่าเป็นพื้นที่เดิมของพรรค ส่วนพรรคอื่นจะพิจารณาอย่างไรนั้นก็เป็นส่วนของแต่ละพรรคการเมืองนั้นไป
สำหรับเรื่องการพิจารณาตัดสินใจส่งผู้สมัครรับเลือกตั้งหรือไม่ รวมถึงการพิจารณาตัวบุคคลที่จะลงสมัครก็ต้องพิจารณาในที่ประชุมกรรมการบริหาร ซึ่งต้องเป็นไปตามกระบวนการของกฎหมาย ส่วนขั้นตอนกระบวนการในการสรรหาผู้สมัครของพรรค ก็มีข้อบังคับพรรค และมีกฎหมายพรรคการเมือง กฎหมายเลือกตั้งกำกับอยู่ เพราะฉะนั้นกฎหมายว่าอย่างไร ข้อบังคับว่าอย่างไรก็ต้องเป็นไปตามนั้น

ผู้สื่อข่าวถามว่าการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา คะแนนพรรคประชาธิปัตย์สูสีกับพรรคพลังประชารัฐ มีความกังวลหรือไม่ นายจุรินทร์กล่าวตอบว่าไม่มีปัญหาอะไร ประชาชนจะเป็นผู้ตัดสิน