นายการุณ โหสกุล สส.กทม.พรรคเพื่อไทย โพสต์เฟซบุ๊ก ตอบโต้กรณีดังกล่าวเช่นเดียวกัน โดยระบุว่า ความจริงผมไม่ควรเสียเวลามาตอบโต้คนอย่างนายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ เพราะคนแบบนี้ทางพุทธศาสนาเรียกว่า “โมฆะบุรุษ” ที่แปลว่าผู้ว่างเปล่าจากการทำความดี เป็นผู้ที่ได้อัตภาพการเป็นมนุษย์แต่ใช้อัตภาพนั้นไปในหนทางแห่งการทำความชั่ว

การที่โฆษกพรรคเพื่อไทย ออกมาวิจารณ์การทำงานของพลเอกประยุทธ์ 7 ปี สู้ผู้นำสหรัฐที่ทำในวันเดียวไม่ได้นั้น ไม่ได้เป็นการพูดที่เกินเลยเพราะ 7 ปีของพลเอกประยุทธ์ ในตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ได้สร้างความเสียหายให้กับประเทศชาติอย่างยับเยินที่สุด เริ่มจากการเข้าสู่ตำแหน่งด้วยการยึดอำนาจอันเป็นพฤติกรรมที่ทั้งโลกประณาม แต่ขี้ขลาดเอาตัวรอดด้วยการนิรโทษกรรมตัวเองหนีการตรวจสอบ

ส่วนสิ่งที่ประธานาธิบดีสหรัฐทำในวันแรกได้รับความชื่นชมไปทั่วโลก ตั้งแต่การเข้าสู่ตำแหน่งจากการเลือกตั้งไม่ได้ใช้วิธีโจรปล้นอำนาจประชาชนเหมือนบางคน การออกคำสั่ง 17 ฉบับแก้ไขคำสั่งเดิมของอดีตประธานาธิบดีที่ถูกมองว่าเป็นการเลือกปฏิบัติ การยอมรับอำนาจของประชาชนและพร้อมให้มีการตรวจสอบ สิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นในวันเดียวที่มีการสาบานตนเข้ารับตำแหน่ง ต่างจากผู้นำที่นายสุภรณ์ยกย่องที่พูดจาแต่ละครั้งต้องมีลิ่วล้อบริวารออกมาปกป้องว่าไม่ได้โง่ แล้วสิ่งที่โฆษกพรรคเพื่อไทย พูดมีอะไรผิดตรงไหนครับ

สิ่งที่นายสุภรณ์ ใช้ตอบโต้โฆษกพรรคเพื่อไทย เป็นวิธีของคนโง่ปัญญาน้อยแต่พาลเหมือนคนที่นายสุภรณ์ รับใช้ แทนที่จะตอบโต้ด้วยสาระและปัญญา นายสุภรณ์ กลับใช้วิธีหาเรื่องกับอดีตนายกรัฐมนตรีทั้งสองท่านที่ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องอะไรด้วย ทั้งที่ทั้งสองท่านเคยมีบุญคุณอุ้มชูนายสุภรณ์มาก่อน

จนกระทั่งนายสุภรณ์ย้ายข้างมาสนับสนุนเผด็จการและชอบแว้งกัดหาเรื่องท่าน แต่ท่านทั้งสองก็ไม่เคยออกมาตอบโต้หรือพูดจาให้ร้ายนายสุภรณ์แม้แต่คำเดียว พฤติกรรมที่ผมกล่าวมาทั้งหมด สาธุชนคงเห็นแล้วว่านายสุภรณ์ เป็นคนอย่างไร ผมสาบานจะพูดถึงคนประเภทนี้เป็นครั้งสุดท้าย ขอไปทำบุญเอาน้ำมนต์ล้างมือล้างปากที่ไปพูดถึงนายสุภรณ์ก่อนครับ