อดีตปธ.ภาคีนักศึกษาศาลายา แถลงป้องสมาชิกองค์กร แจงปม พมช.-เงินบริจาค

จากกรณี ราษฎรศาลายา ออกแถลงการณ์ชี้แจง กรณี แยกตัวจาก ‘ทีมแพทย์เพื่อมวลชน’ เมื่อวันที่ 18 มกราคมที่ผ่านมา นั้น ล่าสุด ณวิบูล ชมภู่ อดีตประธานร่วมภาคีนักศึกษาศาลายา ได้ออกแถลงการณ์ เรื่อง “ชี้แจงที่มาขององค์กรและการดำเนินงานที่ผ่านมา รวมถึงการปกป้องหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและอดีตสมาชิกและคณะทำงาน” ตอบโต้ โดยระบุว่า

สมาชิกและคณะทำงาน

ผมนาย ณวิบูล ชมภู่ อดีตประธานร่วมภาคีนักศึกษาศาลายา (Coalition of Salaya Student) และผู้ร่วมก่อตั้งองค์กรภาคีนักศึกษาศาลายา ขออนุญาตชี้แจงในฐานะอดีตประธานร่วมภาคีนักศึกษาศาลายา ว่าด้วยเรื่องที่มาขององค์กรและการดำเนินการขององค์กรตั้งแต่แรก เนื่องจากได้มีการแถลงการณ์ของกลุ่มแนวร่วมราษฎรศาลายาเพื่อประชาธิปไตย ได้กล่าวพาดพิงและก่อให้เกิดความเข้าใจในทางที่ผิด ดังนั้น ข้าพเจ้าจึงต้องออกมาชี้แจ้ง ดังต่อไปนี้

ภาคีนักศึกษาศาลายาเป็นองค์กรอิสระที่ไม่ยึดโยงกับส่วนงานใด ๆ ของมหาวิทยาลัยมหิดล แต่เป็นการดำเนินงานภายใต้นักศึกษามหาวิทยาลัยมหิดล ที่รวมตัวกันเพื่อต่อต้านอำนาจเผด็จการและต่อสู้เพื่อสิทธินักศึกษาภายในมหาวิทยาลัย จนกระทั่ง มีบุคคลภายนอกมหาวิทยาลัยเข้าร่วมกระบวนการในฐานะเลขานุการส่วนตัวของ นาย บุญเกื้อหนุน เป้าทอง(ฟรานซิส) อดีตประธานร่วมภาคีนักศึกษาศาลายา โดยทั้งสองคนรู้จักกันผ่านแอพลิเคชั่นทินเดอร์ (Tinder) และได้เล่าประวัติส่วนตัวที่สามารถเชื่อถือได้ ทั้งสถานศึกษา สาขาที่จบการศึษา และเรื่องราวในชีวิต ซึ่ง นาย บุญเกื้อหนุน เป้าทอง (ฟรานซิส) ได้เชื่อตามนั้น และรับรองบุคคลคนนี้ให้มีส่วนเกี่ยวข้องภายในองค์กรโดยรับบุคคลคนนี้เข้ามาโดยไม่ได้ตรวจสอบอย่างถี่ถ้วน ปัจจุบัน ด้วยการกระทำต่าง ๆ ของบุคคลนี้ รวมถึงประวัติตง ๆ ที่กล่าวอ้างมาไม่สามารถไม่พิสูจน์ตัวตนได้อย่างที่กล่าวอ้างเลย ซึ่งถือว่าเป็นความผิดพลาดของทางผมและทางองค์กรเป็นอย่างยิ่ง

ปัจจุบัน ภาคีนักศึกษาศาลายาถูกเปลี่ยนชื่อและเปลี่ยนแปลงโครงสร้างองค์กรเป็น “แนวร่วมราษฎรศาลายาเพื่อประชาธิปไตย” (Coalition of Salaya for Democracy) ซึ่งไม่ได้อยู่ภายใต้การบริหารงานของนักศึกษามหาวิทยาลัยมหิดลทั้งหมดเฉกเช่นในอดีตแต่เป็นการนำบุคคลภายนอกเข้ามาร่วมบริหาร ผมในฐานะอดีตประธานร่วมภาคีนักศึกษาศาลยา จำเป็นออกมาชี้แจงความเป็นมาขององค์กร และจำเป็นต้องออกมาปกป้องอดีตสมาชิกที่ถูกกล่าวถึงในทางเสียหาย ทั้งหน่วยแพทย์และพยาบาลเพื่อมวลชนและคณะทำงานเก่าเนื่องจากเป็นองค์กรที่ดำเนินงานภายใต้นักศึกษามหาวิทยาลัยมหิดล ดั่งปณิธานที่ผมก่อตั้งองค์กร ประการที่สอง คือต่อสู้เพื่อสิทธินักศึกษาภายในหาวิทยลัย ซึ่งแถลงการณ์ดังกล่าวนั้นป็นความจริงแค่เพียงด้านเดียวและในหลายประเด็นไม่เป็นความจริง

ประการแรก ทางแพทย์และพยาบาลเพื่อมวลชน เริ่มต้นจากการรวมตัวของนักศึกษาสายสุขภาพของทางมหาวิทยาลัยมหิดลก็จริง แต่ทั้งนี้หน่วยงานนี้ก็ป็นหน่วยงานอาสาเพื่อมวลชน ซึ่งในด้านของการปฐมพยาบาลได้เปิดกว้างให้กับผู้มีจิตอาสา ดังนั้นหาพมช. จึงเปิดรับสมัครแพทย์,พยาบาล นักศึกษาแพทย์,นักศึกษาพยาบาล และสายสุขภาพอื่น ๆ ผ่านหน้าเพจของทางทางภาคีนักศึกษาศาลายา และเปิดรับสายวิชาชีพดังกล่าวโดยไม่ได้ปิดกั้นใด ๆ จึงทำให้มีผู้ร่วมงานหลากหลายสถาบันเข้าร่วมในการทำงานนี้ ไม่ได้เป็นดั่งแถลงการณ์ของกลุ่มแนวร่วมราษฎรศาลายาเพื่อประชาธิปไตยที่ได้กล่าวอ้างมาแต่อย่างใด

ประการที่สอง อดีตสมาชิกภาคีฯ ที่ถูกกล่าวอ้าง มีส่วนร่วมในการทำงานกับทางภาคีฯ มาเสมอ นับตั้งแต่กิจกรรมม็อบในมหาวิทยาลัย จนกระทั่งองค์กรได้มีการเปลี่ยนแปลงประธาน ระบบบริหาร และรูปแแบบองค์กร โดยไม่มีการแจ้งในที่ประชุมใหญ่ก่อนลงแถลงการณ์ ซึ่งขัดแย้งต่ออุดมการณ์ประชาธิปไตย และด้วยเหตุผลบางประการ ทางอดีตสมาชิกภาคีฯที่ถูกกล่าวอ้าง จึงทำหน้าที่แค่ประสานานกับทางหน่วยแพทย์เท่านั้น

ประการที่สาม เนื่องจากในช่วงก่อนหน้านี้มีการเคลื่อนไหวทุกวัน อาสาสมัครทุกท่านมีหน้าที่ การงาน และภาระทางการศึษาทั้งสิ้น ส่งผลให้บางครั้งทางทีมพมช. อาจออกมาดูแลมวลชนไม่ได้ทุกครั้งไป ซึ่งทางพมช.รู้สึกผิดเป็นอย่างยิ่ง และจะปรับปรุกระบวนการทำงานให้ดียิ่งขึ้นในครั้งต่อไป เพื่อประโยชน์สูงสุดของมวลชน

ประการที่สี่ เรื่องเงินบริจาค โดยที่ผ่านมา ข้าพจ้าในฐานะอดีตประธานร่วมภาคีฯ และผู้ที่ติดตามข่าวสารมาโดยตลอด ข้าพจ้ามั่นใจว่าทรัพยากรส่วนใหญ่มาจากการสนับสนุนด้านการแพทย์ทั้งสิ้น และทางแพทย์และพยาบาลเพื่อมวลชนได้จัดสรรงบประมาณให้กับทางแนวร่วมราษฎรศาลายาเพื่อประชาธิปไตย(ปัจจุบัน)ในการต่อสู้ครั้งนี้อย่างเหมาะสมที่สุดแล้ว ไม่ใช่ทางแนวร่วมราษฎรศาลายาเพื่อประชาธิปไตยแบ่งให้ทางแพทย์และพยาบาลเพื่อมวลชนอย่างที่กล่าวอ้างแต่ประการใด และทุกอย่างควรจบสิ้น ณ วันแบ่งแยกองค์กร แต่ทางแนวร่วมราษฎรศาลายาเพื่อประชาธิปไตย ยังคงมีการพาดพิงถึงองค์กรพมช. และมีพฤติกรรมยุยงปลุกปั่นข้อความอันเป็นเท็จต่อทางอดีตสมาชิกภาคีฯให้กับบุคคลภายนอก ซึ่งก่อให้เกิดความเสียหายโดยตรงกับทางบุคคลนั้น ซึ่งการกระทำเหล่นี้ ก็ไม่ต่างอะไรจากพวกผด็จการ และไม่เหมาะสมต่อความไว้วางใจของมวลชนที่สนับสนุนให้คุณมาต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย

ผมขอขอบคุณผู้ร่วมขบวนการทุกท่านที่ร่วมต่อสู้กันมา ดังนั้นการนำเสนอข้อความใด ๆ ที่เป็นเท็จย่อมไม่เป็นผลดีต่อผู้ร่วมอุดมกาณ์และไม่ใช่หลักการของประชาธิปไตยที่แท้จริง ผมในฐานะของผู้ที่ต่อสู้ในขบวนการประชาธิปไตยมาโดยตลอด จึงขอชี้แจงมา ณ โอกาสนี้

อดีตประธานร่วมภาคีนักศึกษาศาลายา

ก่อนหน้านี้ (18 มกราคม 2564) เเนวร่วมราษฏรศาลายาเพื่อประชาธิปไตย ออกเเถลงการณ์ เพื่อป้องกันการเข้าใจผิด จากกรณีแถลงการณ์ก่อนหน้า เมื่อวันที่ 8 มกราคม เรื่องการเปลี่ยนชื่อองค์กร จากเดิม คือ “ภาคีนักศึกษาศาลายา”, ตราสัญลักษณ์ และการแยกตัวของทีมแพทย์เพื่อมวลชน (พมช.) โดยระบุว่า แถลงการณ์ครั้งสุดท้าย เรื่องการแยกการทำงานกับหน่วยแพทย์และพยาบาลเพื่อมวลชน (พมช.) ถึงสื่อมวลชน ทีมสนับสนุน ทีมพยาบาล และแนวร่วม โดยระบุว่า

ประการที่1 เนื่องจากแถลงการณ์ฉบับนี้เป็นแถลงการณ์ภายในและถือเป็นแถลงการณ์ฉบับแรกและฉบับสุดท้าย เพื่อชี้แจงต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทางแนวร่วมราษฎรศาลายา มีการจัดตั้งคณะกรรมการชุดใหม่ ซึ่งทางเราขอยืนยันว่า เราจะไม่อยู่ภายใต้มหาวิทยาลัยใด หรือนักศึกษามหาวิทยาลัยใด ที่ทำให้การเคลื่อนไหวอยู่ภายใต้เงื่อนไขของมหาวิทยาลัย เนื่องจากศาลายาเป็นสถานที่ ไม่ได้กล่าวอ้างถึงมหาวิทยาลัยแห่งไหน และเรายืนอยู่ภายใต้การดำเนินงานที่ว่า “คนทุกคนมีศักยภาพของตัวเอง” ทางเราได้ทำการปรับเปลี่ยนโลโก้ โดยการนำรูปดอกกันภัยออก เพื่อเป็นการปลดแอกจากระบบเก่าที่ถูกตั้งขึ้นภายในองค์กรด้วยคณะกรรมการชุดเก่า และเพื่อการเคลื่อนไหวที่เป็นอิสระอย่างแท้จริง

ประการที่ 2 ทางภาคีนักศึกษาศาลายาได้เริ่มเคลื่อนไหวและเป็นที่รู้จักจาก #ศาลายางดกินของหวานหลากสี กิจกรรมแฟลชม็อบมหาวิทยาลัย (ม.) เมื่อวันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2563 และการที่นายณวิบูล ชมภู่ ได้จัดกิจกรรม BURN IN HELL ที่หน้าทำเนียบรัฐบาล เมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม 2563 และขณะนี้ ภายใต้การนำโดยทีมบริหารชุดใหม่ เราชัดเจนในอุดมการณ์ที่ว่า เราจะไม่อยู่ภายใต้การนำขององค์กรและนักศึกษาใด ซึ่งขัดต่ออุดมการณ์แรกของ (พมช.) ที่ต้องการเพียงนักศึกษาแพทย์จากมหาวิทยาลัย (ม.) และไม่ต้องการนักศึกษาจากมหาวิทยาลัยอื่น ด้วยเหตุผลจากผู้ประสานงาน (พมช.) ว่า ” มหาวิทยาลัย (อักษรย่อ ม.) มีทีมแพทย์ที่เป็นอันดับหนึ่งอยู่แล้ว ไม่ต้องการแพทย์จากมหาวิทยาลัยอื่น ” ซึ่งขัดต่ออุดมการณ์ของกรรมการชุดใหม่ จึงทำให้เป็นสาเหตุหนึ่งของการแยกตัวขององค์กร และแพทย์บางคนที่ไม่สามารถทำงานภายใต้เงื่อนไขนี้ได้ ก็ได้แยกตัวไปทำงานกับองค์กรอื่นที่เปิดกว้างและไม่แบ่งแยก

ประการที่ 3 ปัจจุบันทางเรายังมีการทำกิจกรรมอยู่เรื่อยๆ ทั้งเบื้องหน้าและเบื้องหลัง ร่วมกับแนวร่วมฯ และเครือข่ายอื่นๆ ภายใต้ทีมบริหารชุดใหม่ และมีความสัมพันธ์อันดีกับหลายๆ องค์กร ดังที่ท่านจะเห็นได้ว่า มีคณะบริหารของทางแนวร่วมราษฎรเพื่อประชาธิปไตย จะมีส่วนร่วมในทุกม็อบที่ผ่านมา และเมื่อไม่นานมานี้ ภายใต้ทีมบริหาชุดใหม่ ทางเราได้จัดม็อบภายนอกมหาวิทยาลัยครั้งแรก คือ ม็อบวงเวียนหอนาฬิกาศาลายา และ ม็อบที่ถนนอักษะ (อักษะเฟสติวัล) ซึ่งที่ผ่านมาเราไม่เคยเปิดรับบริจาคเลย ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน (นับตั้งแต่แบ่งทรัพยากร) ถึงแม้ว่าจะมีสมาชิกแนวร่วมราษฎรศาลายาฯ โดนคดี 112 ซึ่งเป็นเพียงเยาวชนอายุ16 ปี จากการเข้าร่วมกิจกรรมแฟชั่นโชว์ที่สีลม และคดีความอื่นๆ อีก 5 คดี และคดีความที่ไม่คาดคิดหลายต่อหลายครั้ง มีคำกล่าวที่ว่า “เมื่ออยู่รวมกันเป็นหมู่คณะ ไฟในอย่านำออก ไฟนอกอย่านำเข้า” ซึ่งองค์กรของเราและทีมคณะกรรมการใหม่เห็นพ้องต้องกันในเรื่องของการไม่เปิดเผยลำดับขั้นความลับนี้ เพื่อไม่ให้กระทบต่อบุคคลอื่นและทางทีมประสานงาน พมช.ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการเบิกจ่าย เนื่องจากไม่ใช่คณะทำงานปฏิบัติหน้าที่จริง ดูแลแค่เพียงทีมแพทย์และพยาบาล โดยการทำหน้าที่เป็นผู้ประสานงานเท่านั้น เนื่องจากไม่ได้มีความรู้ใดๆ ในด้านการแพทย์เลย และเป็นผู้มีตำแหน่งแต่เดิม จากการจัดตั้งของกรรมการชุดเก่า เพราะเป็นนักศึกษาในมหาวิทยาลัย (ม.) แต่เพียงเท่านั้น ซึ่งผลงานที่ผ่านมาของคณะกรรมการเก่า คือม็อบภายในมหาวิทยาลัย และในบางครั้ง ทางทีมแพทย์และพยาบาลเอง ก็ไม่สามารถลงปฏิบัติหน้าที่ได้เนื่องจากขาดบุคลากรทางการแพทย์ แต่อย่างไรก็ตาม ทางแนวร่วมราษฎรศาลายาเพื่อประชาธิปไตย ขอขอบพระคุณทางทีมประสานงาน (พมช.) ที่ท่านได้ทำการคิดยอดหักลบ และขอประชาสัมพันธ์ไว้ตรงนี้ว่า งบบริจาคทั้งหมดที่ถูกแบ่งกระจายมาทั้งก่อนแยกการทำงานและหลังแยกการทำงานนั้น ปัจจุบันไม่มียอดคงเหลือในบัญชีใดทั้งสิ้น หากทางเราจะเปิดรับบริจาคอีกครั้งจะทำการแจ้งให้ทุกคนทราบเองโดยทั่วกัน

ทางเราคาดหวังว่าคนที่จะเข้าร่วมขบวนการจะทำตัวให้เป็นประโยชน์ต่อขบวนการมากที่สุดเพื่อเปลี่ยนแปลงประเทศนี้ เราจะพึงระลึกไว้เสมอว่า มีหลายองค์กรทำงานอย่างหนักเพื่อมุ่งหวังการเปลี่ยนแปลงของประเทศนี้ เราจึงหวังว่าความสำเร็จของขบวนการจะเป็นน้ำหนึ่งอันเดียวกัน เพื่อจุดมุ่งหมายเดียวกัน โดยไม่สร้างความแตกแยกหรือแบ่งแยกใดๆ

ทางแนวร่วราษฎรศาลายา ภายใต้คณะกรรมการชุดใหม่ รู้สึกดีใจเป็นอย่างยิ่งที่ได้เห็นการเคลื่อนไหวของทางทีมแพทย์และพยาบาลเพื่อมวลชนเป็นครั้งแรก นับตั้งแต่วันที่ 30 พฤศจิกายน 2563 ซึ่งทางเราก็ได้ทวงถามไปหลายครั้ง เรื่องการกลับมาทำงานของทีม (พมช.) รวมถึงอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่เบิกจ่ายเพื่อสนับสนุนไป จะได้ใช้ประโยชน์เพื่อประชาชน ซึ่งเราคาดหวังเป็นอย่างยิ่งว่าหน่วยแพทย์และพยาบาลเพื่อมวลชนจะดำเนินงานให้เกิดประสูงสุดได้ ให้สมกับทรัพยากรที่ถูกกระจายไป และทางแนวร่วมราษฎรศาลายาเพื่อประชาธิปไตยพร้อมที่จะต่อสู้ไปพร้อมกับท่าน และสนับสนุนการเคลื่อนไหวของทีมแพทย์และพยาบาลเพื่อมวลชน (พมช.) เพื่อประโยชน์สูงสุดของราษฎร

ทางเราขอจบการแถลงการณ์ในเรื่องนี้แต่เพียงเท่านี้

แนวร่วมราษฎรศาลายาเพื่อประชาธิปไตย
18 มกราคม 2564