วันที่ 18 มกราคม 2564 ไชน่าเดลี รายงานว่า สำนักงานสถิติแห่งชาติของจีน (เอ็นบีเอส) เปิดเผยตัวเลข การเติบโตทางเศรษฐกิจ ในช่วงไตรมาสที่ 4 ของปี 2563 ซึ่งอยู่ที่ร้อยละ 6.5 เพิ่มขึ้นจากไตรมาส 3 มากถึงร้อยละ 4.9 และส่งผลให้ภาพรวมการเติบโตทางเศรษฐกิจตลอดปี 2563 อยู่ที่ร้อยละ 2.3 ถือเป็นประเทศมหาอำนาจทางเศรษฐกิจเพียงประเทศเดียวในโลกที่มีการเติบโตของเศรษฐกิจ

นอกจากนี้ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมของจีนยังเพิ่มสูงถึงร้อยละ 7.3 ส่วนดัชนีค้าปลีกเพิ่มขึ้นในไตรมาสสุดท้ายของปีที่ร้อยละ 4.6 และดัชนีผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ปรับขึ้นมาอยู่ที่ 101.59 ล้านล้านหยวน หรือราว 471 ล้านล้านบาท

ทั้งนี้ ในช่วง 3 เดือนของไตรมาสแรกจะมีอัตราการเติบโตดิ่งฮวบถึงร้อยละ 6.8 แต่เพราะรัฐบาลใช้มาตรการล็อกดาวน์คุมเข้ม รวมถึงเดินหน้านโยบายฉุกเฉินเพื่อเยียวยาธุรกิจ เศรษฐกิจภายในประเทศจึงกระเตื้องขึ้นต่อเนื่อง

อย่างไรก็ตาม จีนได้รับผลกระทบจากวิกฤตโรคโควิด-19 เช่นกัน โดยเฉพาะโรงงานจำนวนมากที่ต้องปิดตัวลง และแม้จะมีการเติบโตทางเศรษฐกิจแต่นับเป็นการเติบโตที่ช้าที่สุดของประเทศในรอบกว่า 4 ทศวรรษ

ขณะที่สถานการณ์โรคโควิด-19 คณะกรรมาการด้านสุขภาพแห่งชาติของจีนแถลงพบผู้ป่วยใหม่ 109 คน เป็นผู้ติดเชื้อภายในประเทศ 93 คน ในจำนวนนี้เป็นกรณีในมณฑลเหอเป่ย 54 คน มณฑลจี้หลิน 30 คน เขตปกครองเฮย์หลงเจียง 7 คน และกรุงปักกิ่ง 2 คน ส่งผลให้ยอดผู้ป่วยสะสมเพิ่มเป็น 88,227 คน และเสียชีวิตแล้ว 4,635 ราย