จากกรณีนายมงคล สันติเมธากุล หรือเยล หนึ่งในสมาชิกการ์ดราษฎร ถูกบุคคลอ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่ กอ.รมน. อุ้มหายไปจากที่พักย่านสมุทรปราการ ก่อนที่จะมีการพูดคุยเจรจากันระหว่างกลุ่มการ์ดและคนก่อเหตุผ่านไลน์ของเยล และมีการรวมตัวกันกดดันเจ้าหน้าที่บริเวณหน้า กอ.รมน. เมื่อช่วงเช้าจนถึงขณะนี้

ความคืบหน้าเมื่อเวลา 12.30 น. วันที่ 17 ม.ค. 2564 ที่สน.พญาไท นายป้อมปืน ปานพวงแก้ว ผู้ประสานงานกลุ่มการ์ดราษฎร เดินทางเข้าใจข้อมูลกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ภายหลังจาก นายมงคล สันติเมธากุล หรือ เยล อายุ 24 ปี หนึ่งในสมาชิกกลุ่มถูกอุ้มหายไป ภายหลังการชุมนุมที่หน้าห้างสรรพสินค้าสามย่านมิตรทาวน์เมื่อวานนี้

นายป้อมปืน กล่าวว่า ในส่วนของแชทไลน์เป็นการพูดคุยระหว่างผู้ที่แอบอ้างว่าเป็น เจ้าหน้าที่ กอ.รมน. กับตนเอง ซึ่งใช้คำพูดแนวข่มขู่ว่าจะทำร้ายร่างกาย และนำตัวเยลไปปล่อยในพื้นที่ต่างจังหวัดจากนั้นก็ขาดการติดต่อไป ตนจึงได้เดินทางมาที่สน.พญาไท เพื่อขอความช่วยเหลือ

“การกระทำแบบนี้ ผมมองว่า เป็นการทำให้ภาพลักษณ์ของหน่วยงานราชการเสียหาย แต่ผมได้ฝากเรื่องกับตำรวจ จะต้องดูแลและหาคนผิดมาลงโทษเพราะแบบนี้เป็นการอุกอาจเกินไป นอกจากนี้ บุคคลดังกล่าวยังข่มขู่อีกว่า ถ้าแจ้งความจะโดนอุ้มหาย จะไปปล่อยที่ต่างจังหวัด ข้อความเชิงข่มขู่ ทำร้ายร่างกาย” นายป้อมปืน กล่าว

ต่อมาเวลา 13.00 น. นายป้อมปืน ได้แจ้งความคืบหน้าว่า ขณะนี้ได้รับข่าวดีว่าเยล ถูกตัวปล่อยตัวจากคนที่อ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่ กอ.รมน. ไว้ที่สถานีรถไฟฟ้าบีทีเอสเคหะ จ.สมุทรปราการ จากการพูดคุยกับเยล ยังไม่ค่อยรู้เรื่องอาจจะเพราะไม่ได้นอน แต่ไม่มีการถูกทำร้ายร่างกาย

ตนขอให้เยล ไปสงบสติอารมณ์จากนั้นได้นัดเจอกันที่สภ.บางปู ซึ่งเยล อยู่ระหว่างปรึกษาทนายความ โดยจะดำเนินการอย่างไรจะแจ้งให้ทราบต่อไป ส่วนรายละเอียดที่ว่าเยล ถูกจับไปอยู่ที่ไหนนั้นรอให้เจ้าตัวเป็นฝ่ายเปิดเผยเอง

นายป้อมปืน กล่าวต่อว่า ในระหว่างที่เยล ถูกจับอยู่นั้น เราได้พยายามพูดคุยกับบุคคลปริศนาผ่านไลน์ของเยลตลอด พยายามอ้อนวอนขอให้ปล่อยตัว จนในที่สุดชายปริศนาก็ยอมปล่อย อย่างไรก็ตามขณะนี้ยังไม่ทราบว่าคนที่อุ้มเยลไปเป็นเจ้าหน้าที่ กอ.รมน. ตามที่แอบอ้างจริงหรือไม่ จึงขอให้เป็นหน้าที่ของตำรวจทำการสืบสวน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังจากการแถลงข่าวกลุ่มการ์ดราษฎร ได้จำลองเหตุการณ์อุ้มคนหาย โดยใช้ถุงดำคลุมหัว แล้วมีคนหิ้วปีกทั้งสองข้างลากไปขึ้นรถสีดำ ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน แล้วขับออกไปอย่างรวดเร็ว เหตุการณ์ดังกล่าว ใช้เวลาเพียงแค่ 1-2 นาทีเท่านั้น ซึ่งต้องการแสดงให้เห็นว่า การอุ้มคนนั้นทำได้ง่ายดายมาก