พระมหาไพรวัลย์ ฉะสำนักพุทธฯ ร้องเจ้าคณะสอบยุ่งการเมือง ลั่นเป็นบิดาคณะสงฆ์เมื่อไหร่

เมื่อวันที่ 16 ม.ค. 2564 ที่ผ่านมา พระมหาไพรวัลย์ วรวัณฺโณ วัดสร้อยทอง กรุงเทพฯ ได้โพสต์เฟซบุ๊กเป็นภาพเอกสารที่นายสิปป์บวร แก้วงาม ผู้ตรวจราชการ ปฏิบัติราชการแทน ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ทำหนังสือถึงเจ้าคณะกรุงเทพมหานคร ให้ตรวจสอบกรณีที่พระมหาไพรวัลย์ ออกรายการดีเบตกับนายศรีสุวรรณ จรรยา ว่าอาจเข้าข่ายเกี่ยวข้องกับการเมือง จึงขอให้ดำเนินการในทางปกครองคณะสงฆ์และแจ้งผลให้สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติทราบ

โดยพระมหาไพรวัลย์ ได้เขียนข้อความถึงกรณีดังกล่าวว่า “อาตมาควรต้องรู้สึกยังไงกับนายสิปป์บวรดี กรวดน้ำให้แก ไปเยี่ยมที่สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ซื้อกระบวยไปฝากเพื่อจะได้มีไว้ใช้สำหรับตักน้ำส่องเงา หรืออะไรดี อาตมาถือคติอย่างคำสอนของพระพุทธเจ้านะ คนทำกรรมอะไรเอาไว้ จะเป็นกรรมดีหรือกรรมชั่วก็ตาม สุดท้ายจะต้องได้รับผลของกรรมนั้นแน่ๆ”

คนมีอำนาจ ใช้อำนาจในทางที่ไม่ชอบธรรม ไม่เห็นแก่ธรรม ไม่เป็นไปโดยธรรม สักวันอำนาจนั้นก็คืนสนอง โบราณกล่าวไว้ชัดว่า ให้ทุกข์แก่ท่าน ทุกข์นั้นถึงตัว กระดาษฉบับนี้ ควรจะมีค่ามากกว่านี้ ถ้าเอาไปพับเป็นถุงกล้วยแขก หรือทำอะไรอย่างอื่นที่ไม่มีข้อความแปดเปื้อนจากสำนักงาน….แห่งชาติ

สำนักงาน…แห่งชาติ เป็นบิดาเป็นเจ้านายของคณะสงฆ์ตั้งแต่เมื่อไหร่ ถึงสามารถออกคำสั่งให้คณะสงฆ์ทำนั่นทำนี่ หรือแม้แต่ต้องรายงานชี้แจงเพื่อทราบ (ไม่รู้จักชั่วดีจริงๆ) คงมีอยู่ประเทศเดียวนี่แหล่ะ ที่องค์กรซึ่งมีที่มาจากการเมือง (และมีความเป็นการเมืองอย่างเต็มที่) เสนอหน้ามาตั้งคำถามกับคนอื่นว่า ยุ่งกับการเมืองอยู่หรือเปล่า ? #ที่สำนักงานไม่มีกระจกไว้ส่องใช่ไหม ปล. ไม่อยากใช้คำว่า “พระพุทธศาสนา” กับสำนักงานนี้ เพราะมันทำให้ศาสนาของพระพุทธเจ้าดูตกต่ำย่ำแย่”