วันที่ 15 มกราคม 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ศูนย์แก้ไขปัญหามลพิษทางอากาศ รายงานการติดตามตรวจสอบคุณภาพอากาศ พบปริมาณ PM2.5 ในประเทศพบเกินค่ามาตรฐานใน กรุงเทพฯ, ปทุมธานี, นนทบุรี, นครปฐม, สมุทรสาคร, สมุทรปราการ, เชียงใหม่, ลำปาง, พิษณุโลก, ตาก, เพชรบูรณ์, อุทัยธานี, ลพบุรี, สระบุรี, สุพรรณบุรี, พระนครศรีอยุธยา, กาญจนบุรี, ปราจีนบุรี, สระแก้ว, ฉะเชิงเทรา, สมุทรสงคราม, ชลบุรี, ระยอง, หนองคาย, ขอนแก่น, ร้อยเอ็ด, ชัยภูมิ และนครราชสีมา

ภาคเหนือ เกินค่ามาตรฐาน 8 พื้นที่ ตรวจวัดได้ 31-74 มคก./ลบ.ม. ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เกินค่ามาตรฐาน 5 พื้นที่ ตรวจวัดได้ 32-97 มคก./ลบ.ม. ภาคกลางและตะวันตก เกินค่ามาตรฐานเกือบทุกพื้นที่ ตรวจวัดได้ 19-82 มคก./ลบ.ม. ภาคตะวันออก เกินค่ามาตรฐานเกือบทุกพื้นที่ ตรวจวัดได้ 34-56 มคก./ลบ.ม. ภาคใต้ ภาพรวมอยู่ในเกณฑ์ดีมาก ตรวจวัดได้ 6-31 มคก./ลบ.ม.

ขณะที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล โดยสถานีตรวจวัดของ คพ. ร่วมกับ กทม. เกินค่ามาตรฐานเกือบทุกพื้นที่ ตรวจวัดได้ 47-116 มคก./ลบ.ม. โดยเป็นพื้นที่สีแดง 9 พื้นที่ (ค่าฝุ่น 90 มคก./ลบ.ม. มีผลกระทบต่อสุขภาพ)หนักสุดที่ริมถนนกาญจนาภิเษก เขตบางขุนเทียน วัดค่าฝุ่นได้ 116 มคก./ลบ.ม. เขตจอมทอง ค่าฝุ่น 94 มคก./ลบ.ม.

ริมถนนสุขุมวิท เขตพระโขนง ค่าฝุ่น 94 มคก./ลบ.ม. ริมถนนศรีนครินทร์ เขตประเวศ ค่าฝุ่น 108 มคก./ลบ.ม. ริมถนนบางนา-ตราด เขตบางนา ค่าฝุ่น 98 มคก./ลบ.ม. ริมถนนมาเจริญ เพชรเกษม81 เขตหนองแขม กรุงเทพฯ ค่าฝุ่น 93 มคก./ลบ.ม. ต.ปากน้ำ อ.เมือง ค่าฝุ่น115 มคก./ลบ.ม. ต.บางเสาธง อ.บางเสาธง จ.สมุทรปราการ ค่าฝุ่น 101 มคก./ลบ.ม. และต.มหาชัย อ.เมือง จ.สมุทรสาคร ค่าฝุ่น 110 มคก./ลบ.ม.

ทั้งนี้ประชาชนทั่วไป ควรเฝ้าระวังสุขภาพ ลดเวลาการทำกิจกรรมกลางแจ้ง หรือใช้อุปกรณ์ป้องกันตนเองหากมีความจำเป็น ผู้ที่ต้องดูแลสุขภาพเป็นพิเศษ ควรลดระยะเวลาการทำกิจกรรมกลางแจ้ง หรือใช้อุปกรณ์ป้องกันตนเองหากมีความจำเป็น ถ้ามีอาการทางสุขภาพ ควรปรึกษาแพทย์

สำหรับประชาชนที่อยู่บริเวณพื้นที่มีผลกระทบต่อสุขภาพ (พื้นที่สีแดง) ควรหลีกเลี่ยงกิจกรรมกลางแจ้ง หรือใช้อุปกรณ์ป้องกันตนเองหากมีความจำเป็น หากมีอาการทางสุขภาพควรปรึกษาแพทย์ โดยท่านสามารถติดตามสถานการณ์ผ่านทางเว็บไซต์ Air4Thai.com และ bangkokairquality.com แอปพลิเคชัน Air4Thai และ AirBKKa