“ผู้ว่าตาก” เตรียมรับมือคนไทย 1.4พันคนจากฝั่งพม่าข้ามกลับ

“ผู้ว่าตาก” เตรียมรับมือคนไทย 1.4พันคนจากฝั่งพม่าข้ามกลับ

เมื่อวันที่ 12 มกราคม 2563 พลโทอภิเชษฐ์ ซื่อสัตย์ แม่ทัพภาคที่ 3 , พลตรีอำนาจ ศรีมาก ผู้บัญชาการกองกำลังนเรศวร , นายพงศ์รัตน์ ภิรมย์รัตน์ ผวจ.ตาก , พล.ต.ต.ปริญญา วิศิษฐฎากุล ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดตาก พันเอกประสาน เห็นประเสริฐ ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารราบที่ 4 อ.แม่สอด จังหวัดตาก พร้อมด้วยนายชัยพฤกติ เชียรธานรักษ์ นายอำเภอแม่สอด พร้อมด้วยส่วนการที่เกี่ยวข้องไปดูท่า 27 ซึ่งเป็นท่าข้ามทางธรรมชาติ แต่อยู่ตรงข้ามกับบ่อนกาสิโน ชื่อสกาย คอมเพล็ก บริเวณบ้านท่าอ่าจ ตำบลท่าสายลวด อ.แม่สอด จ.ตาก ซึ่งบ่อนดังกล่าว ถูกแสะโซเชียลวิจารณ์ว่า มีการนำคนไปมาระหว่างฝั่งไทยกับฝั่งเมียนมา และยังมีบอนกาสิโน ฝั่งประเทศเมียนมา มีข้าการตำรวจคนหนึ่งดูแลชื่อนายดาบ นอ. ทำให้ทางกองทัพภาค3ลงไปดูข้อเท็จจริง ซึ่งในระหว่างที่สื่อมวลชนบันทึกภาพนั้น ทางผู้คุมท่าข้าม หรือ ทางข้ามไปบ่อนได้มาห้ามปรามสื่อมวลชนต่อหน้าทหาร ตำรวจ ฝ่ายปกครอง อ้างว่า ไม่ให้บันทึกภาพไปที่บ่อนกาสิโน บอกว่า ทหารเมียนมาไม่ให้บันทึกภาพ ขณะที่พื้นที่บ่อนการสิโนมีแต่ทหารกะเหรี่ยงบีจีเอฟ.ทำให้สื่อมวลชนต่างงุนงง กับการห้ามปรามลักษณะนี้

พลโทอภิเชษฐ์ กล่าวว่า ตามที่มีกระแสโซเชียลว่า มีคนข้ามไปมาตามบ่อนการพนัน ซึ่งหลังจาก ปิดการให้บริการมานานแล้ว แต่อาจจะการเปิดให้ออนไลน์ และมีพนักงานทำงานอยู่ฝั่งพม่า ขณะที่กำลังทหาร 1 กองร้อยดูแล 24 ชั่วโมงจึงเป็นไปไม่ได้ว่ามีการลักลอบข้ามไปมา และก่อนหน้าที่จะมีการระบาดของโรคโควิด-19 ก็มีการข้ามไปมาของพนักงาน และเจ้าหน้าที่บ่อน ต่อมาทางจังหวัดเมียวดีมีการระบาดของโรคโควิดมากขึ้น ทางพนักงานคนไทยได้ร้องขอมาทางจังหวัดเพื่อขอกลับมาประเทศไทย ฉะนั้นไม่มีคนในพื้นที่เขตไทยข้ามไปเล่นการพนันนมานานแล้วจนถึงปัจจุบัน อีกเรื่องคือการไปดู เส้นทางลักลอบเข้ามเมืองของชาวโรฮิงยา ทราบว่าไม่ได้ใช้เส้นทางหลัก หลังจากตรวจสอบแล้ว ส่วนขบวนการนำชาวโรฮิงญาเข้ามานั้นทราบแล้วว่า เป็นใครแต่ยังเปิดเผยไม่ได้ และอีกเรื่องตามที่รัฐบาลจะให้แรงงานต่างด้าวอยู่ต่อทำงาน จึงมาดูเรื่องนี้เกรงว่ามีการลักลอบเข้าเมืองมากขึ้น จึงร่วมกับทุกฝ่ายเพื่อเสริมกำลังทหาร ร่วมกับหน่วยงานอื่น เพื่อสกัดกั้นการเข้ามาใช้โอกาสไปขออนุญาตทำงาน โดยเฉพาะด้าน อ.แม่สอด เพราะอยู่ตรงข้ามกับชุมชนฝั่งประเทศเพื่อนบ้าน

นายพงศ์รัตน์ กล่าวว่า ตามมาตรการของฝ่ายความมั่นคง ได้มีการประสานงานชั่วคราวเพื่อติดต่อคนไทยที่มีความประสงค์จะกลับประเทศตามที่ เข้ามาแล้ว 3 ครั้ง ทั้งหมด 75 คน คัดกรองมีคนติดเชื้อโควิด-19 จำนวน 52 คน นำส่งโรงพยาบาลแม่สอด ส่วนที่เหลือได้ส่งสถานกักกัน จากนั้นก็จะมีการแจ้งข้อกล่าวหาดำเนินคดีทั้งหมด ขณะนี้ประเมินว่า มีคนไทยหลากหลายอาชีพในฝั่งเมียนมา ที่ยังทำงานอยู่เช่นบ่อนออนไลน์ประมาณ 1,400 คน แต่ก็ไม่น่ากลับมาทั้งหมด เท่าที่ทราบเบื้องต้นคาดว่าจะมีประมาณ 200 คน และจากการประชุมเตรียมความพร้อมของจังหวัด น่าจะรองรับได้ทั้งหมด ซึ่งเป็นมาตรเชิงรุกเพื่อเป็นการควบคุมโรค

นายพงศ์รัตน์ กล่าวว่า สำหรับเรื่องโรงพยาบาลสนามนั้น ได้มีการเตรียมแผนไว้ทั้งหมด 3 แผน คือแผนที่1 คือ แผนปกติ จะมีโรงพยาบาลแม่สอดมีเตียงรองรับได้ 72 เตียง โรงพยาบาลพบพระที่อยู่ใกล้กัน จำนวน 24 เตียง และโรงพยาบาลเอกชนที่เข้าร่วมโครงการ 20 เตียง เบื้องต้นมีทั้งหมด 116 เตียง สามารถรองรับผู้ป่วยได้ทั้งหมด และในขณะใช้เพียง 50 เตียง ยังมีเหลือกว่า 60 กว่าเตียง และถ้าเต็มอีก ก็จะมีการยกระดับโรงพยาบาลแม่สอดโดยขณะนี้ทางกระทรวงสาธารณสุขสนับสนุนส่งบุคลากรทางแพทย์ พยาบาลไปยกระดับโรงพยาบาลแม่สอดเพิ่มขึ้นได้อีก 90 เตียง โรงพยาบาลพบพระเพิ่มขึ้นได้อีก 20 เตียง เป็น 100 กว่าเตียง รวมทั้ง 2 เฟสนี้ รองรับได้ 230 เตียง คิดว่าน่าเพียงพอ และมีเฟส3 ยังมีการเดินหน้าตั้งโรงพยาบาลสนาม และได้พื้นที่แล้ว ซึ่งเร็วๆนี้ ทางกระทรวงสาธารณสุขจะส่งเจ้าหน้าที่ไปให้การแนะนำการติดตั้งอุปกรณ์ต่างๆ ในโรงพยาบาลสนาม ซึ่งยังไม่ขอเปิดเผยชื่อ และจะต้องทำประชาคม และทำความเข้าใจกับประชาชนในพื้นที่ก่อน