รู้จักกับ ‘ยาเค’ จุดเริ่มต้นสู่ยาสูตรล่าสุด ‘เคนมผง’ เสพแล้วหลอนหนัก

ความคืบหน้าของกรณีสารเสพติดสูตรใหม่ที่มีส่วนต่อเสียชีวิตของผู้เสพหลายรายในช่วงไม่นานมานี้ ล่าสุดเมื่อเวลา 00.30 น. ที่ผ่านมา ที่ สน.วัดพระยาไกร พล.ต.ต.โสภณ สารพัฒน์ ผบก.น.5 พร้อม พ.ต.อ.ธงชัย บัวรังษี ผกก.สน.วัดพระยาไกร ร่วมกับพนักงานสอบสวน และตำรวจฝ่ายสืบสวน สน.วัดพระยาไกร ประชุมคลี่คลายคดียาเคนมผงที่ระบาดหนักรอบพื้นที่ สน.วัดพระยาไกร พร้อมเชิญตัว นายโบ้ นายน้ำ และ นายป๋อง วัยรุ่นชาย 3 รายที่อยู่ในวันเกิดเหตุที่ น.ส.สุทธิณี เมตตาจิตต์ เสียชีวิต ในซอยจันทร์ 31 มาสอบปากคำ

รายงานข่าวแจ้งว่า จากการสอบถาม นายโบ้อ้างว่า ก่อนเกิดเหตุนายป๋องได้ชักชวนให้ไปซื้อยาเสพติด ซึ่งตอนนั้นไม่ทราบว่าคือยาอะไร จึงไปซื้อยาดังกล่าวที่ย่านสวนพลู แต่ปรากฏว่าไม่มี จึงเลี้ยวรถกลับไปซื้อที่ซอยโรงสี ย่านถนนพระราม 3 จำนวน 5 ถุง ในราคา 2,700 บาท อย่างไรก็ตาม ตำรวจยังต้องสอบปากคำทั้ง 3 คนอย่างละเอียดอีกครั้ง

ส่วนในพื้นที่เขตสายไหม มีรายงานว่า พ.ต.อ.ศักดิ์สิทธิ์ มีสวัสดิ์ รอง ผบก.น.2 รรท.ผบก.น.2 รับงานงานว่าชุดปฎิบัติการปราบปรามยาเสพติด บก.น.2 นำโดย พ.ต.ท.อรรถพงษ์ จันทนะสร รอง ผกก.ฯ/หัวหน้าชุด ปส.บก.น.2 พร้อม พ.ต.ต.รัตน์พัฒน์ ฝึกฝน สว.สส.และกำลังชุดปฎิบัติการปราบปรามยาเสพติด บก.น.2 ได้ร่วมกันจับกุม น.ส.ศิริกาญจน์ หรือนุ่น เชื้อเขตกรรม อายุ 23 ปี พร้อมของกลาง ยาเคตามีน 6 ถุงน้ำหนักรวม 8.1 กรัม จับกุมได้ที่บ้านพักภายในชุมชนจิตภาวรรณ 1 แยก 4 แขวงคลองถนน เขตสายไหม กทม.หลังได้รับแจ้งจากสายลับว่ามีหญิงสาวชื่อ “นุ่น” ลอบขายยาเคนมผงภายในชุนชนจิตภาวรรณ 1 พื้นที่สายไหม จึงวางแผนติดต่อซื้อยาเสพติดดังกล่าว

จนพบ น.ส.นุ่น กำลังยืนอยู่ที่หน้าบ้าน ท่าทางมีพิรุธต้องสงสัยเหมือนมีสิ่งผิดกฎหมาย เจ้าหน้าที่จึงแสดงตัวเพื่อตรวจค้น โดย น.ส.นุ่น รับว่ามียาเสพติดอยู่ในกระเป๋ากางเกง 3 ถุง และยังให้การรับสารภาพว่ายังมียาเสพติดซุกซ่อนอยู่ภายในห้องนอน ตำรวจจึงให้ น.ส.นุ่น นำค้นพบยาเคตามีนเพิ่มอีก 3 ถุง จึงยึดไว้เป็นหลักฐาน

สอบสวน น.ส.นุ่น ให้การว่า ยาเคตามีนนี้มีส่วนผสมยาเคตามีนกับยาโรเซ่หรือยานอนหลับ ซึ่งจะทำให้ออกฤทธิ์ได้แรงขึ้น โดยรับยามาจากเพื่อนชายที่อยู่ย่านลำลูกกาคลอง 2 ในราคากรัมละ 470 บาท และนำมาแบ่งขายให้กับเพื่อนๆ ในเฟซบุ๊ก และกลุ่มวัยรุ่นลูกค้าทั่วไปในย่านสายไหม ราคากรัมละ 600 บาท โดยทำมานานแล้วกระทั่งถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจมาจับกุมในครั้งนี้

เบื้องต้นแจ้งข้อหา มีวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิต และประสาท ยาเสพติดให้โทษประเภท 2 (ยาเคตามีน) ไว้ในความครอบครองเพื่อจำหน่าย โดยผิดกฏหมาย”ก่อนควบคุมตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวน สน.สายไหม ดำเนินคดี

ด้าน พล.ต.ต.ธนิต จิรนันท์ธวัช นายแพทย์ (สบ6) ปฏิบัติหน้าที่หัวหน้ากลุ่มงานพยาธิวิทยา โรงพยาบาลตำรวจ เผยถึงยาเคนมผงที่กำลังแพร่ระบาดว่า

ยาเค หรือชื่อเต็มว่า Ketamine ยาที่ถูกนำมาใช้เป็นยาเสพติด เป็นยาทางการแพทย์ที่ใช้ในกระบวนการดมยาสลบ ในรูปยาฉีดเข้าเส้นเลือดหรือเข้ากล้ามเนื้อ โดยมีฤทธิ์สงบประสาท รู้สึกเคลิบเคลิ้ม ระงับอาการปวด ออกฤทธิ์เร็ว ทำให้หลับอย่างตื้นๆ ปฏิกิริยารีเฟลกซ์ของร่างกายยังคงอยู่ และสามารถปลุกให้ฟื้นเป็นปกติได้ในระยะเวลาอันสั้น จึงนิยมใช้ร่วมกับยาตัวอื่นในกระบวนการดมยาสลบ หรือระหว่างการทำหัตถการทางการแพทย์ที่ใช้เวลาไม่นานนัก

อย่างไรก็ตามในขนาดยาที่ใช้ในทางการแพทย์ ก็สามารถพบผลข้างเคียงได้คือ ความดันโลหิตสูงขึ้น ชีพจรเร็วขึ้น หายใจช้าลง มีอาการฝันและบางครั้งจะเป็นฝันร้าย กระสับกระส่าย ปวดศีรษะ

พล.ต.ต.ธนิต กล่าวอีกว่า เนื่องจาก Ketamine มีฤทธิ์ต่อจิตประสาท จึงมีผู้นำไปใช้เป็นสิ่งมึนเมาในรูปแบบยาผง ด้วยกรรมวิธีผ่านความร้อน หรือผลิตในรูปแบบผงโดยตรงลักลอบนำเข้าอย่างผิดกฎหมาย นำมาเสพเพื่อให้เกิดอาการมึนเมาจากฤทธิ์กดประสาท โดยเรียกว่าเป็น ยาเค และพบว่ามีการนำไปใช้ร่วมกับยาเสพติดประเภทอื่น เช่น ยาอี ยาไอซ์ โคเคน เฮโรอีน หรือ ดื่มแอลกอฮอร์ร่วมด้วย ผู้ที่นำไปใช้เสพติดจะสามารถเกิดผลข้างเคียงที่อันตรายได้ เช่น มีอาการกดระบบประสาทรุนแรง ทำให้คล้ายคนเมา เดินเซ ไม่มีสติ กระบวนการทางความคิด การรับรู้และตอบสนองต่อสิ่งแวดล้อมทั้งภาพแสงสีเสียงเปลี่ยนแปลงไป ระบบการทำงานของหัวใจและการหายใจแปรปรวน มีการกดการหายใจ มีอาการทางจิต เช่น ฝันร้าย ประสาทหลอน เพ้อคลั่ง

หากใช้ติดต่อกันเป็นเวลานานจะทำให้เกิดอาการทางจิต ประสาทหลอน หูแว่ว กลายเป็นคนวิกลจริตได้ Ketamine จัดเป็นวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตประสาทประเภท 2 การใช้ต้องอยู่ภายใต้การควบคุมดูแลโดยแพทย์และสั่งจ่ายในสถานพยาบาลเท่านั้น ผู้ที่ลักลอบผลิต นำเข้า ส่งออก โดยไม่ได้รับอนุญาต หรือ ไม่มีใบอนุญาตนำผ่าน ต้องเสียค่าปรับและระวางโทษจำคุก

สำหรับส่วนประกอบของ ‘ยาเคนมผง’ ที่มีการนำมาใช้เสพติดและพบอันตรายถึงชีวิตที่เป็นข่าวในช่วงนี้ เป็นการนำยาเสพติดหลายตัวผสมรวมกัน โดยมียาเคเป็นส่วนประกอบหลัก ร่วมกับ ยาไอซ์ เฮโรอีน และยานอนหลับที่เรียกว่า ‘โรเซ่’ นำมาบดรวมกันจนละเอียดลักษณะคล้ายนมผง จึงเรียกว่า ยาเคนมผง โดยจากสอบถามข้อมูลพบว่า มีราคาการจำหน่ายที่ค่อนข้างสูงถึงกรัมละ 500 บาท เนื่องจากเป็นการผสมยาออกฤทธิ์ต่อจิตประสาทรุนแรงหลายตัวร่วมกัน จึงทำให้เกิดการเสริมฤทธิ์ของยาที่เป็นส่วนผสมและเกิดอันตรายร้ายแรงได้ การใช้ยาเคนมผงทำให้ผลข้างเคียงต่างๆ ของยาเคเพิ่มมากขึ้น เช่นทำให้มีฤทธิ์หลอนประสาทที่รุนแรง ทำให้ผู้เสพมีอาการหวาดระแวงและประสาทหลอนตลอดเวลา จากการศึกษาของต่างประเทศพบว่า การใช้ยาเคร่วมกับยาอื่นทำให้พบผู้เสพใช้ยาเกินขนาดได้มากขึ้น จนทำให้เสียชีวิตจากฤทธิ์กดการหายใจหรือฤทธิ์รบกวนการทำงานของหัวใจ

ดังนั้น จึงขอเตือนภัยว่า “ยาเคนมผง ยาเสพติดอันตรายร้ายแรง ยาเสพติดหลายชนิดรวมกัน เสียชีวิตได้อย่างไม่คาดคิด”