“ศิริกัญญา” จี้ “สุพัฒนพงษ์” แก้ปากท้องประเทศ-เยียวยาปชช. พร้อมปรับปรุงงบประมาณต่างๆ ให้สอดคล้องแก้โควิด ลั่นหากเพิกเฉยอาจถูกอภิปรายไม่ไว้วางใจ

เมื่อวันที่ 6 มกราคม น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล (ก.ก.) และทีมเศรษฐกิจ กล่าวถึงกรณี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้มอบหมายให้ นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ไปประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่างๆ หามาตรการดูแลประชาชน 2 เดือนต่อจากนี้ว่า คงไม่ทันเวลาเพราะหลังเกิดเรื่องที่สมุทรสาครมาจนบัดนี้ และภาครัฐได้มีการสั่งปิดสถานประกอบการต่างๆ ส่งผลให้ประชาชน และผู้ประกอบการเดือดร้อนเสียหายอย่างมาก ดังนั้น จึงถึงเวลาแล้วที่นายสุพัฒนพงษ์ ในฐานะหัวหน้าเศรษฐกิจของรัฐบาลตัวจริง จะต้องออกมาแอ๊กชั่นทำงาน และหามาตรการเยียวยาให้แก่ประชาชน เพื่อให้รับทราบว่า ประเทศไทยยังมีหัวหน้าทีมเศรษฐกิจของประเทศอยู่ จะเข้ามาทำงาน และเงียบหายในสภาวะที่ประเทศวิกฤตเช่นนี้ไม่ได้ พร้อมกับรับบททำหน้าที่แทน พล.อ.ประยุทธ์ เพื่อเป็นความหวังของประชาชนทั้งชาติ เพราะนายกฯ อาจจะไม่เชี่ยวชาญด้านเศรษฐกิจเท่าที่ควร และยังถูกโจมตีเพียงคนเดียว

น.ส.ศิริกัญญากล่าวต่อว่า สำหรับแนวทางเยียวยาให้ประชาชน ควรโยกการใช้งบประมาณจากพ.ร.ก.เงินกู้ 1 ล้านล้านบาท ที่ยังใช้ไม่หมด โดยใช้งบประมาณที่ยังเหลือจำนวน 4.6 แสนล้านบาท เพื่อเยียวยาผู้ประกอบการที่ถูกสั่งปิด และลูกจ้าง แรงงาน ที่ถูกรัฐสั่งให้หยุดงาน เพิ่มจากเงินชดเชยในระบบประกันสังคมที่ได้เพียงร้อยละ 50 ตนเห็นว่า ไม่เพียงพอทั้งที่ครั้งที่ผ่านมารัฐบาล ก็ให้มากถึงร้อยละ 62 รวมทั้งรัฐบาลควรมีการออกพ.ร.บ.โอนงบประมาณ 2564 เช่นปีที่ผ่านมาที่มีการออก พ.ร.บ.โอนงบประมาณปี 2563 และปรับปรุงงบร่างงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2565 ให้สอดคล้องกับสถานการณ์แก้ไวรัสโควิด-19 ส่วนงบประมาณอะไรไม่จำเป็นก็ต้องตัดออกไปหรือโยกไปใช้ภารกิจโควิดที่ถือว่าสำคัญที่สุดในเวลานี้ ทั้งนี้เมื่อทำตามที่เสนอแนะไปแล้วอย่างครบถ้วน หากเงินยังไม่พอ รัฐบาลจะกู้เงินเพิ่ม มาเยียวยาและฟื้นฟูให้แก่ประชาชนก็ไม่ว่ากัน เพราะเข้าใจสถานการณ์ที่ชาวบ้านกำลังเดือดร้อนอย่างหนัก

“หากนายสุพัฒนพงษ์ ในฐานะทีมเศรษฐกิจของรัฐบาล และยังเป็นความหวังของคนไทย หากยังไม่ออกมาตรการเยียวยา และแก้ปัญหาเศรษฐกิจให้ประชาชนและผู้ประกอบการโดยด่วน หลังมีคำสั่งให้ปิดประกอบการ อาจจะมีการเสนอใช้กลไกของฝ่ายนิติบัญญัติ ให้มีการยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีผู้นี้ต่อไป” น.ส.ศิริกัญญากล่าว