ไอลอว์ แจงกมธ. แก้ รธน. ยืนกราน ส.ส.ร. ต้องมาจากการเลือกตั้ง

ไอลอว์ แจงกมธ. แก้ รธน. ยืนกราน ส.ส.ร. ต้องมาจากการเลือกตั้ง  ด้าน ‘สมคิด’ ชี้ญัตติไพบูลย์-สมชาย เลื่อนไม่มีกำหนด

เมื่อวันที่ 3 ธันวาคม ที่รัฐสภา นายจอน อึ้งภากรณ์ ผู้ก่อตั้งโครงการอินเทอร์เน็ตเพื่อกฎหมายประชาชน หรือไอลอว์ ให้สัมภาษณ์ก่อนเข้าร่วมประชุม ว่า ไอลอว์ยังคงยืนยันหลักการว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) โดยตรงจากประชาชน 200 คน ซึ่งรูปแบบของการเลือกตั้ง ส.ส.ร. ที่ไอลอว์เสนอนั้นเป็นรูปแบบคล้ายกับการเลือกตั้ง ส.ส. ระบบบัญชีรายชื่อ ซึ่งจะเปิดโอกาสให้สมัครเลือกตั้ง ส.ส.ร. แบบกลุ่มและนโยบาย เพื่อให้ประชาชนเลือก ส.ส.ร. ตามนโยบายหรือวิสัยทัศน์ของกลุ่มผู้สมัครเลือกตั้ง แทนการเลือกส.ส.ร.เพราะตัวบุคคลเป็นหลัก

“ตอนเสนอเรื่องนี้ต่อที่ประชุมรัฐสภาในวาระที่ 1 มีสมาชิกรัฐสภาวิจารณ์ว่าเราไม่ได้เปิดโอกาสให้คนระดับจังหวัดนั้น ยืนยันไม่เป็นความจริง ในทางกลับกันระบบเลือกตั้ง ส.ส.ร. แบบของเราได้เปิดโอกาสให้กับประชาชนอย่างกว้างขวาง เพื่อให้ประชาชนสามารถเลือกตั้ง ส.ส.ร. ที่สะท้อนความต้องการของตัวเอง เช่นกลุ่มสิทธิชุมชน เป็นต้น” นายจอน กล่าว

นายจอน กล่าวว่า ส.ส.ร. ควรมาจากการเลือกตั้งโดยตรง ไม่จำเป็นต้องมาจากผู้เชี่ยวชาญ เพราะเราต้องการให้ ส.ส.ร. เป็นตัวแทนของประชาชนอย่างแท้จริง แต่จะให้ผู้เชี่ยวชาญไปอยู่ในส่วนของคณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญต่อไปแทน

 

ด้าน นายสมคิด เชื้อคง ส.ส.อุบลราชธานี พรรคเพื่อไทย (พท.) ในฐานะโฆษกคณะกรรมาธิการฯ กล่าวว่า การประชุมของคณะกรรมาธิการฯ วันนี้ได้เชิญไอลอว์มาให้ข้อมูลเพิ่มเติม ซึ่งเข้าใจว่าอาจมีบางเรื่องที่ยังไม่ได้ลงรายละเอียดเมื่อครั้งมีการประชุมรัฐสภาเพื่อพิจารณารับหลักการในวาระที่ 1 ก่อนหน้านี้ จึงอยากให้มาแสดงความคิดเห็น เช่น การเลือกตั้ง ส.ส.ร. ที่มีลักษณะคล้ายกับการเลือกตั้งส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ นอกจากนี้ ยังได้เชิญนายอุดม รัฐอมฤต ในฐานะอดีต กรธ. มาให้ความคิดเห็นและอธิบายถึงหลักการและเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญพ.ศ.2560

นายสมคิด กล่าวว่า ความคิดเห็นส่วนตัวในฐานะฝ่ายค้านยังขอยืนยันว่า ส.ส.ร. ควรมาจากการเลือกตั้งของประชาชนโดยตรงเท่านั้น ไม่อยากเห็นการแต่งตั้งอีกแล้ว โดยการเลือกตั้ง ส.ส.ร. อาจแบ่งเป็นการเลือกตั้งระดับจังหวัดและระดับประเทศ

ส่วนญัตติของ นายไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ และนายสมชาย แสวงการ ส.ว. ที่ขอให้รัฐสภาส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความอำนาจของรัฐสภาในการแก้ไขรัฐธรรมนูญนั้น ได้รับการประสานงานมาแล้วว่าญัตติดังกล่าวถูกชะลอออกไปอย่างไม่มีกำหนด ซึ่งส่วนตัวขอเรียกร้องว่า ไม่อยากเห็นภาพของการพยายามดึงเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญให้ล่าช้า เพราะตอนนี้กระบวนการแก้ไขรัฐธรรมนูญอยู่ในขั้นตอนของคณะกรรมาธิการฯ แล้ว