คณะก้าวหน้า งานเข้าอีก ‘กกต.’ สอบส่อเข้าข่ายผิดกม.พรรคการเมือง

คณะก้าวหน้า งานเข้าอีก ‘กกต.’ สอบส่อเข้าข่ายผิดกม.พรรคการเมือง ผู้สมัครชิง ‘นายก อบจ.-ส.อบจ.’ ระทึกเจอใบส้ม-เหลือง

วันที่ 1 ธันวาคม คณะก้าวหน้า จะออกมาชี้แจงตอบโต้คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) อย่างไร เมื่อ กกต.ตั้งคณะกรรมการสืบสวนว่าอาจเข้าข่ายความผิดตามพ.ร.ป.พรรคการเมือง

ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายน รายงานข่าวแจ้งว่า ที่ประชุมกกต.มีมติสั่งตั้งคณะกรรมการสืบสวนกรณีการเคลื่อนไหวของนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ นายปิยบุตร แสงกนกกุล และน.ส.พรรณิการ์ วานิช ในนามคณะก้าวหน้า ที่ส่งผู้สมัครและช่วยหาเสียงให้กับผู้สมัครลงรับเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด(อบจ.)และสมาชิกสภา อบจ. ว่าเข้าลักษณะเป็นพรรคการเมืองซึ่งมีความผิดตามมาตรา 111 พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง ที่กำหนดว่าผู้ใดสมคบกันตั้งแต่ 2 คนขึ้นไปดำเนินกิจกรรมทางการเมืองที่มีลักษณะคล้ายกับพรรคการเมือง ต้องโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี และปรับไม่เกิน 6 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ รวมทั้งถูกตัดสิทธิทางการเมือง 5 ปี

หลังพิจารณาข้อมูลหลักฐานที่ด้านกิจการพรรคการเมืองของสำนักงาน กกต. รวบรวมเสนอแล้วเห็นว่ามีน้ำหนักพอสมควรที่ กกต. จะดำเนินการต่อไป ตามระเบียบ กกต. ว่าด้วยการสอบสวนและไต่สวนได้
ทั้งนี้ หาก กกต.พบว่าการดำเนินการดังกล่าวเข้าลักษณะเป็นความผิดตามมาตรา 111 พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง ไม่เพียงแค่ดำเนินคดีอาญาทั้ง 3 คน แต่ยังอาจมีผลไปถึงตัวผู้สมัครรับเลือกตั้งนายก อบจ.และสมาชิกสภา อบจ. หากผลการสืบสวนพาดพิงไปว่านำไปสู่การเลือกตั้งไม่สุจริตและเที่ยงธรรม สามารถนำผลการสืบสวนไปดำเนินการตามกฎหมายเลือกตั้งท้องถิ่นได้ เช่น กกต.สั่งระงับสิทธิสมัครของผู้สมัครไว้เป็นการชั่วคราว หรือใบส้ม รวมถึงการสั่งเลือกตั้งใหม่ หรือใบเหลืองด้วย

ก่อนหน้านั้น ที่สำนักงานคณะก้าวหน้า อาคารไทยซัมมิท ชั้น 5 น.ส.พรรณิการ์ วานิช กรรมการบริหารคณะก้าวหน้า แถลงถึงการเตรียมยื่นร้องกกต. ให้เอาผิดกับผู้ขัดขวางการหาเสียง เลือกตั้งนายก อบจ.และสมาชิกสภา อบจ. รวมทั้งการฟ้องร้องดำเนินคดีกรณีนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า ถูกหมิ่นประมาทเกี่ยวกับสถาบัน

น.ส.พรรณิการ์ กล่าวว่า กรณีการร้องเรียนต่อ กกต.ที่ถูกขัดขวางการหาเสียงเลือกตั้งในระหว่างคณะก้าวหน้าลงหาเสียในพื้นที่ประกอบด้วย 6 กรณี คือ 1.ข้าราชการ อบจ.นราธิวาส เข้าไปคอมเมนต์ในโซเชียลมีเดีย ถึงขั้นลงขันเพื่อทำร้ายนายธนาธร ซึ่งกรณีนี้จะร้องเรียนทางวินัยด้วย 2.การสร้างความปั่นป่วนขัดขวาง และปิดล้อมทางเข้าออกโรงแรม เมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายน ที่ จ.นครศรีธรรมราช 3.กรณีเหตุชายฉกรรจ์เดินตามคณะก้าวหน้าที่หาเสียงที่ จ.สมุทรปราการ เมื่อวันที่ 10 พฤศจิกายน 4.กลุ่มบุคคลยุยงให้เกิดการกระทบกระทั่ง ที่ตลาดนัดเทศบาลปากช่อง จ.นครราชสีมา เมื่อวันที่ 20 พฤศจิกายน 5.กรณีชายเสื้อเหลืองชูป้ายตะโกนด่า เมื่อวันที่ 20 พฤศจิกายน ที่ จ.สุรินทร์ และ 6.กลุ่มบุคคลไม่ทราบชื่อตะโกนขับไล่นายธนาธร ที่ จ.ระยอง เมื่อวันที่ 22 พฤศจิกายน

นอกจากนี้ จะฟ้องหมิ่นประมาทกับบุคคลที่กล่าวหาว่านายธนาธรล้มสถาบัน ประกอบด้วยรัฐมนตรีคนหนึ่งในรัฐบาลชุดนี้ ที่แถลงข่าวที่พรรคประชาธิปัตย์, อดีตผู้บริหารเนชั่น, แกนนำภาคีเครือข่ายปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ และอดีต ส.ส.สอบตก แกนนำกลุ่มไทยภักดี อย่างไรก็ตาม ยังมีอีกหลายกรณีที่ผู้สมัครนายก อบจ.ถูกคุกคามและมีการแจ้งความดำเนินคดีในพื้นที่ไปแล้ว เช่น จ.ฉะเชิงเทรา จ.ระยอง

น.ส.พรรณิการ์กลาวว่า จากเวลาที่เหลืออีก 3 สัปดาห์ที่จะเป็นโค้งสุดท้ายของการเลือกตั้งนายกและสามาชิก อบจ. คณะก้าวหน้าจะยังคงเดินทางไปทุกจังหวัด ไปทุกพื้นที่ของประเทศไทย โดยไม่กังวลและไม่ต้องระวังตัว เพราะตราบใดที่เป็นนักการเมืองต้องเดินเข้ามาประชาชนได้ ทั้งนี้ คณะก้าวหน้าเชิดชูเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น แต่ยอมไม่ได้ที่มีการยุยงปลุกปั่นให้เกิดความเกลียดชัง ส่วนการฟ้องร้องเมื่อไหร่นั้นจะดำเนินการให้เร็วที่สุด หลังการรวบรวมหลักฐานเสร็จสิ้น