พปชร.ตอกกลับ ‘พิชัย’ ไล่นายกฯ ไม่เว้นวัน ชี้ ศก.สัญญาณดีต่อเนื่อง โวสถานะคลังแข็งแกร่ง หนี้ไม่น่ากังวล

รองโฆษกพปชร. ตอกกลับ ‘พิชัย’ ไล่นายกฯ ไม่เว้นแต่ละวัน ชี้เศรษฐกิจมีสัญญาณดีต่อเนื่อง โวสถานะคลังแข็งแกร่ง หนี้ยังไม่น่ากังวล

เมื่อวันที่ 29 พ.ย. จากกรณีนายพิชัย นริพทะพันธุ์ รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทยด้านเศรษฐกิจ ระบุถึงกรณีศาลรัฐธรรมนูญนัดอ่านคำวินิจฉัย คดีที่พรรคเพื่อไทย ยื่นฟ้องพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ที่ยังคงพักอาศัยอยู่ในบ้านพักรับรองของราชการ โดยบอกว่าให้ศาลรัฐธรรมนูญตัดสินตามหลักนิติรัฐและนิติธรรม เพื่อเป็นบรรทัดฐาน ตามที่พรรคเพื่อไทยระบุเหตุผล 5 ข้อที่ พล.อ.ประยุทธ์ จะต้องพ้นจากตำแหน่งจากกรณีดังกล่าว ซึ่งจะเป็นประโยชน์ทั้งทางด้านเศรษฐกิจและการเมืองพร้อมกัน ถ้ามีเหตุให้ พล.อ.ประยุทธ์ ออกจากตำแหน่ง จะเป็นแนวทางที่ดีที่สุดที่จะแก้ปัญหาของประเทศนี้ได้

แนะ 2 ธ.ค. ทางรอดประเทศ ปลดประยุทธ์ ออกไป! ปมอยู่บ้านพักทหารหลังเกษียณ
นายสัณหพจน์ สุขศรีเมือง รองโฆษกพรรคพลังประชารัฐ กล่าวถึงกรณีดังกล่าวว่า การที่นายพิชัย ออกมาแสดงความคิดเห็นดังกล่าว อาจเข้าข่ายการชี้นำคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ ที่นัดอ่านคำวินิจฉัยในวันที่ 2 ธ.ค.63 ที่จะถึงนี้ ซึ่งถือเป็นเรื่องที่ไม่เหมาะสม ศาลรัฐธรรมนูญ มีกระบวนการการวินิจฉัยที่ตั้งอยู่บนหลักนิติรัฐและนิติธรรม ซึ่งเป็นบรรทัดฐานของสังคมไทยอยู่แล้ว ดังนั้น จึงไม่ควรก้าวล่วงการตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญ

นายสัณหพจน์ กล่าวต่อว่า ขณะเดียวกันในเวลานี้ การแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจและการเมืองนั้น พล.อ.ประยุทธ์ นายกรัฐมนตรี ได้มอบหมายให้ทุกส่วนที่เกี่ยวข้องดำเนินการแก้ไขปัญหา และมีสัญญาณที่ดีอย่างต่อเนื่อง จะเห็นได้จากการที่บริษัท S&P Global Ratings (S&P) สถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือ ได้คงอันดับความน่าเชื่อถือของประเทศไทย อยู่ที่ BBB+ และคงมุมมองความน่าเชื่อถือของประเทศไทย (Outlook) อยู่ในระดับมีเสถียรภาพ (Stable Outlook)

“สถานะทางการเงินการคลังยังคงแข็งแกร่ง หนี้รัฐบาลอยู่ในระดับที่ไม่น่ากังวล และยังคาดการณ์อีกว่าเศรษฐกิจไทยจะฟื้นตัวในช่วง 1-2 ปีข้างหน้า ขณะที่หลายประเทศ หรือองค์การอนามัยโลก (WHO) เอง ยังให้การยอมรับการควบคุมการแพร่ะระบาดไวรัสโควิด-19 ของประเทศไทย ที่สามารถจัดการได้ดี ซึ่งจะเป็นขั้นเริ่มต้นที่จะทำให้เศรษฐกิจไทยนั้นฟื้นตัวได้อย่างต่อเนื่อง จากนโยบายการกระตุ้นการท่องเที่ยวและการใช้จ่ายภายในประเทศ”

นายสัณหชัย กล่าวอีกว่า การที่นายพิชัยพยายามที่จะออกมาขับไล่พล.อ.ประยุทธ์ ไม่เว้นแต่ละวันนั้น ดูเหมือนจะเป็นการใช้เวลาที่มีอยู่อย่างไร้ค่า นายพิชัยถือเป็นกูรูด้านเศรษฐกิจ และเคยเป็นทั้งอดีต รมช.คลัง และรมว.พลังงาน ซึ่งน่าจะมีแนวคิดการแก้ไขปัญหาด้านเศรษฐกิจที่เป็นรูปธรรมมากกว่านี้ หากนายพิชัยมีข้อเสนอด้านการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ก็สามารถที่จะนำเสนอเพื่อเป็นแนวทางได้ โดยพรรคพลังประชารัฐในฐานะที่เป็นพรรคร่วมรัฐบาล ยินดีที่จะรับฟังแนวคิดและข้อเสนอจากทุกฝ่าย เพื่อที่จะช่วยกันขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศให้พ้นจากผลกระทบไวรัสโควิด-19 ที่กำลังเผชิญอยู่ ซึ่งน่าจะเป็นการทำงานการเมืองในเชิงสร้างสรรค์มากกว่าที่เป็นอยู่