#ชุมนุมหน้าราบ11 : ประมวลราษฎรนำทัพเป็ดเหลืองล้อมค่าย อีกฝั่งมืดสนิทจนต้องส่องไฟ

วันที่ 29 พฤศจิกายน 2563 การชุมนุมของนักเรียน นักศึกษาและประชาชนที่รวมตัวภายใต้ชื่อ “ราษฎร” วันนี้ ได้จัดการชุมนุมกัน 2 จุดคือ จุดแรก หน้าค่ายกรมทหารราบที่ 11 มหาดเล็กราชวัลลภรักษาพระองค์ และจุดที่ 2 หน้าห้างสรรพสินค้าบิกซีลาดพร้าว (เอ็มพิเรียล เวิล์ด ลาดพร้าว) แต่จุดที่ 2 ได้ประกาศยุติการชุมนุมลงในช่วงเวลา 17.00 น. ก่อนประกาศไปสมทบรวมกับชุมนุมจุดแรก

โดยเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา เพจแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุมประกาศนัดชุมนุมในวันที่ 29 พ.ย. เวลา 15.00 น.ที่บริเวณหน้ากรมทหารราบที่ 1 ถนนวิภาวดีรังสิต และต่อมาได้มีการประกาศย้ายสถานที่ชุมนุม มายังบริเวณหน้ากรมทหารราบที่ 11 ย่านบางเขน แทน

ต่อมาในเวลา 13.00 น.  บรรยากาศบริเวณหน้ากรมทหารราบที่ 11 พบมีตำรวจจราจรจากสน.บางเขน มาดูแลความเรียบร้อย แม้จะยังไม่มีกลุ่มผู้ชุมนุมเดินทางมา จากนั้นเจ้าหน้าที่นำต้นไม้มาตั้งบริเวณป้ายหน้ากรม พร้อมวางมาตรการดูแลความเรียบร้อย

จากนั้นเวลา 13.40 น. เจ้าหน้าที่เคลื่อนรถฉีดน้ำแรงดันสูง 2 คัน มาจอดติดเครื่องอยู่บริเวณสถานีรถไฟฟ้า วัดพระศรีฯ ท่ามกลางการดูแลความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่อย่างเข้มงวด โดยผู้ชุมนุมนัดตั้งขบวนใต้สถารถไฟฟ้าเวลา 15.00 น.

ถัดมาเวลา 14.30 น. ที่สถานีรถไฟฟ้า สถานีกรมทหารราบที่ 11 มีรถบรรทุกสิบกว่าคันทยอยขับมาจอดเรียงฝั่งกรมทหารราบที่ 11 ทำให้การ์ดม็อบราษฎรจะเข้าไปสอบถามทราบว่า มีคนโทร.แจ้งให้มาขนของ แต่ไม่ทราบว่าของอะไร การ์ดเกรงว่าไม่ปลอดภัยในความผิดปกติ จึงขออนุญาตกั้นรถทั้งหมดไว้ก่อน ซึ่งคนขับให้ความร่วมมือไม่เคลื่อนย้ายรถ จากนั้นได้เคลื่อนย้ายออกจากพื้นที่ชุมนุมแล้ว

ต่อมานายพริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือเพนกวิน แกนนำกลุ่มราษฎร เดินทางมาถึงสถานีบีทีเอสวัดพระศรีฯ ท่ามกลางการรักษาความปลอดภัยของการ์ด โดยเพนกวินกล่าวว่า สาเหตุที่ต้องย้ายการชุมนุมจากกรมทหารราบที่ 1 มาเป็นกรมทหารราบที่ 11 เพราะรัฐนำตู้คอนเทนเนอร์และลวดหนามหีบเพลงมาขัดขวาง จึงต้องเปลี่ยนมาชุมนุมที่กรมทหารราบที่ 11 แทน เพราะสื่อได้เหมือนกัน อีกทั้งกรมทหารราบที่ 1 และกรมทหารราบที่ 11 มีส่วนในการใช้ความรุนแรงในการสลายการชุมนุมทางการเมืองหลายครั้ง รวมทั้งมีส่วนในการทำปฏิวัติ โดยกิจกรรมในวันนี้เราจะเคลื่อนไปปักหลักปราศรัยหน้ากรมทหารราบที่ 11 ส่วนจะมีไฮไลต์อะไรต้องติดตาม

ด้านพ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษก ตร. เดินทางมาดูแลความเรียบร้อยบริเวณหน้ากรมทหารราบที่ 11 ก่อนเผยว่า ขณะนี้ยังไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง พล.ต.ต.พัฒนา เพศยนาวิน ผบก.น.2 เป็นผู้ดูแลพื้นที่บริเวณนี้ ซึ่งผู้ชุมนุมยังไม่ได้แจ้งการชุมนุม แสดงให้เห็นว่าผู้จัดการชุมนุมมีเจตนาฝ่าฝืนกฎหมาย

“ตำรวจจะบังคับใช้กฎหมายตามปกติเป็นขั้นเป็นตอน เริ่มโดยการเจรจาพูดคุย ที่ผ่านมาทุกคนเห็นการทำงานของตำรวจและผู้ชุมนุมอยู่แล้ว ยืนยันตำรวจไม่มีแผนปิดการจราจร ยกเว้นผู้ชุมนุมจะลงมาบนถนนจนเต็มพื้นที่ และปิดกั้นการจราจรเอง”

ส่วนการกั้นลวดหนาม เป็นไปตามปกติ เพื่อป้องกันผู้ชุมนุมฝ่าแนวเข้ามา ขณะที่การนำซากรถบัสและรถบรรทุกมาใช้ เป็นยุทธวิธีที่ปรับเปลี่ยนไปตามสถานการณ์ ขออย่าเข้าไปเด็ดขาด ตำรวจพยายามจะทำให้ดีที่สุด และไม่อยากให้ผู้ชุมนุมทำผิดกฎหมาย

จากนั้นเวลา 15.00 น. ที่วงเวียนบางเขน บริเวณสถานีรถไฟฟ้า สถานีวัดพระศรีมหาธาตุฯ การ์ดราษฎรตั้งเต็นท์จุดคัดกรองยานพาหนะที่เข้าสู่ถนนพหลโยธิน มุ่งหน้ากรมทหารราบที่ 11 โดยเปิดให้เฉพาะผู้ชุมนุม สื่อมวลชน ชาวบ้านในละแวกดังกล่าว และผู้ที่ธุระจำเป็นผ่านเข้าไปเท่านั้น ขณะที่ถนนพหลโยธินฝั่งมุ่งหน้าไปสะพานใหม่ และแจ้งวัฒนะรถยังสัญจรได้อยู่ เพียงแต่เคลื่อนตัวได้ช้า ส่วนผู้ชุมนุมเริ่มทยอยเดินทางมาเรื่อยๆ

ต่อมาเวลา 16.00 น. กลุ่มผู้ชุมนุมรวมกันบริเวณหน้ากรมทหารราบที่ 11 ก่อนช่วยกันดันซากรถเมล์ที่จอดขวางอยู่ออก เพื่อเปิดทางให้ผู้ชุมนุม โดยมีเจ้าหน้าที่นำรถฉีดน้ำแรงดันสูงมาจอดรอไว้ที่ด้านในสองคัน ขณะที่ผู้ชุมนุมอีกกลุ่มได้ตัดลวดหนามที่ทางเจ้าหน้าที่ได้ขึงกันไว้ออกด้วย ส่วนรถฉีดน้ำแรงดันสูงได้เคลื่อนมาชิดประตูหน้ากรมทหารราบที่ 11 ระหว่างที่กลุ่มผู้ชุมนุมช่วยกันเก็บลวดหนาม โดยมีเจ้าหน้าที่ประกาศให้ผู้ชุมนุมถอยออกจากแนวกั้น เพื่อป้องกันผู้ไม่หวังดีมาก่อเหตุ พร้อมขอให้ชุมนุมโดยสงบ

จากนั้นเวลา 17.00 น. นายภาณุพงศ์ จาดนอก หรือไมค์ ระยอง แกนนำกลุ่มราษฎร ขึ้นปราศรัยว่า วันนี้เราจะบุกอย่างเดียว ขอให้พี่น้องเตรียมตัวบุกไปหาทรราชที่ฆ่าประชาชนอย่างเลือดเย็น วันนี้ไม่มีคำว่าถอยแน่นอน จีโน่หรือรถถังเอามาให้พร้อม การต่อสู้ของเราจะเคลื่อนไปเรื่อยๆ ชัยชนะอยู่ข้างหน้า ที่เราลุกมาต่อต้านเผด็จการอย่างเต็มรูปแบบจากพล.อ.ประยุทธ์ที่แย่งอำนาจมาจากผู้หญิงคนหนึ่ง ตั้งน้องชายตัวเองเป็นส.ว. ตั้งส.ว.เอง 250 คน หน้าไม่อาย

“ขอบคุณพี่น้องมาร่วมสู้เพื่อประชาธิปไตยที่เราเรียกร้อง ไม่รู้ว่าการต่อสู้ของพวกเราจะถูกสั่งให้อุ้ม แต่ถ้าได้ประชาธิปไตยกลับมาก็สุดยอด ไม่มีท้อ ติดคุก 15 วันเหมือนเข้าไปพักผ่อน มีคนถามว่าเหนื่อยไหมที่ต้องต่อสู้และโดนคดี ผมถือเป็นเหรียญกล้าหาญที่ติดอยู่บนอก ติดอยู่ในใจ ยิ่งได้มากเท่าไร ยิ่งจะถึงเส้นชัยเท่านั้น และวันที่ 30 พ.ย.ผมนจะไปรับทราบข้อกล่าวหา ม.112 ส่วน สน.ไหนจะแจ้งให้ทราบอีกครั้ง”

จากนั้นเวลา 17.30 น. แกนนำกลุ่มราษฎรได้หันหน้าไปทางเจดีย์ขาวของวัดพระศรีมหาเหตุฯ บางเขน โดยเพนกวินเป็นตัวแทนจุดธูปกราบไหว้อัฐิของแกนนำคณะราษฎร อาทิ พระยาพหลฯ นายปรีดี พนมยงค์และภริยา เป็นต้น ซึ่งอยู่ภายในวัดพระศรีฯ โดยแกนนำและมวลชนได้กล่าวขอพรจากดวงวิญญาณนักต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย เพื่อเป็นสิริมงคลต่อสู้เอาชนะเผด็จการ

จากนั้น เพนกวิน กล่าวว่า ขอให้วิญญาณทุกดวงทั้งคณะราษฎร คนเดือนตุลาและพฤษภาทมิฬมาที่นี่เพื่อเป็นสิริมงคล โดยขอให้ช่วยคุ้มครองพวกเราให้พวกเราทำการสำเร็จ

ต่อจากนั้นเวลา 18.15 น. ผู้จัดการชุมนุมประกาศเดินขบวนจากจุดรวมพลมุ่งหน้าไปยังกรมทหารราบที่ 11

ต่อมาในเวลา 18.30 น. แกนนำพร้อมมวลชนเคลื่อนขบวนมาถึงกรมทหารราบที่ 11 ซึ่งปิดไฟมืดสนิท และมีลวดหนามหีบเพลงล้อมไว้ แกนนำได้สั่งห้ามมวลชนอย่าเพิ่งโยนเป็ดยางเข้าไปข้างใน ทั้งนี้ รถปราศรัยของแกนนำได้หันหน้าเข้าไปทางประตูหน้ากรมฯ ซึ่งใช้เป็นจุดปราศรัยหลัก โดยมวลชนบางส่วนได้ส่องไฟเข้าไปภายใน เนื่องจากปิดไฟมืด

เวลา 18.40 น. เพนกวินประกาศชัยชนะพร้อมปราศรัยว่า วันนี้เรามาทวงสมบัติชาติ ทวงทหารของชาติคืน หากพวกท่านเป็นยังเป็นทหาร ขอให้เป็นทหารของชาติ ของประชาชนทุกคน ขอประกาศว่าพลทหารราบที่ 11 นี้ตกเป็นของประชาชนอย่างเป็นทางการแล้ว

ขอบคุณภาพจาก : กันต์ แสงทอง