สกอตแลนด์ ผ่านกฎหมายให้ผู้หญิงใช้ผ้าอนามัยฟรี ประเทศแรกของโลก

สกอตแลนด์ได้ออกกฎหมายสำคัญเกี่ยวกับการเข้าถึงผลิตภัณฑ์ผ้าอนามัยทุกรูปแบบให้แก่สตรี ไปเมื่อวันที่ 24 พ.ย.ที่ผ่านมา กฎหมายฉบับนี้ถูกเสนอโดยนางโมนิกา เลนนอน หนึ่งในสมาชิกแรงงานสตรีในสกอตแลนด์ ซึ่งก่อนหน้านี้ในปี 2016 เธอยังเป็นผู้ทำแคมเปญรณรงค์ให้แจกจ่ายผ้าอนามัยฟรีแก่คนยากจนอีกด้วย

ปัญหาส่วนใหญ่ที่เกิดขึ้นนั้น พบว่ามีผู้หญิงอีกเป็นจำนวนมากที่ไม่มีกำลังเงินมากพอสำหรับซื้อผ้าอนามัย โดยเฉลี่ยแล้วผู้หญิงจะมีประจำเดือนประมาณ 5 วันต่อรอบเดือน และอาจต้องใช้เงินกว่า 8 ปอนด์ หรือกว่า 330 บาท เพื่อที่จะต้องใช้จ่ายในส่วนนี้ นอกจากนี้ ผลสำรวจยังพบว่าเด็กผู้หญิงที่มีช่วงอายุระหว่าง 14-21 ปี กว่า 71 เปอร์เซ็นต์นั้นรู้สึกอับอายเวลาซื้อของที่เกี่ยวกับประจำเดือน และยังมีเด็กผู้หญิงอีกมากที่ไม่สามารถรองรับค่าใช้จ่ายส่วนนี้และจำเป็นต้องขาดโรงเรียนเมื่อมีประจำเดือน

นางมอนิกา เลนนอน หนึ่งในสมาชิกกลุ่มแรงงานสตรีในสกอตแลนด์ กล่าวว่า “นี่คือการเปลี่ยนแปลงที่ยิ่งใหญ่สำหรับผู้หญิงและเด็กสาวทุกๆคนที่มีประจำเดือน” “ถ้าย้อนไปเมื่อไม่กี่ปีก่อนเราไม่สามารถพูดเรื่องนี้ได้เลย แต่ตอนนี้ทุกอย่างเปลี่ยนไปแล้ว เราได้เห็นแล้วว่าประจำเดือนสามารถถูกนำมาพูดในที่สาธารณะได้”

นอกจากนี้ ประเทศแคนาดา อินเดีย เคนยา ไอร์แลนด์ แอฟริกาใต้ ออสเตรเลีย มาเลเซีย นิคารากัว อูกันดา แทนซาเนีย ไนจีเรีย จาไมกา เลบานอน และหลายๆ รัฐในสหรัฐอเมริกา ยังถือว่าผ้าอนามัยเป็นสินค้าจำเป็นโดยทางรัฐบาลจะงดการเรียกเก็บภาษีเพื่อเป็นการลดค่าใช้จ่ายให้กับผู้หญิงนั่นเอง ผู้หญิงจำเป็นต้องแบกรับภาระ Pink Tax หรือภาษีสีชมพู คือภาษีที่เก็บกับสินค้าและบริการเกี่ยวกับการดูแลความสวยความงามต่างๆ ที่มักมีลูกค้าเป็นผู้หญิงมากกว่าผู้ชาย เช่น ยาสระผม เครื่องสำอาง เสื้อผ้า รวมไปถึงการทำผม

โดยผลสำรวจพบว่าสินค้าชนิดเดียวกันกว่า 800 ชนิด ที่ผู้หญิงจะต้องจ่ายแพงกว่าผู้ชาย ยกตัวอย่างเช่น เสื้อผ้าของเด็กผู้หญิงมีราคาเฉลี่ยสูงกว่าเสื้อผ้าเด็กผู้ชายราว 13 เปอร์เซ็นต์ และของเล่นสำหรับเด็กผู้หญิงมีราคาสูงกว่าของเล่นเด็กผู้ชายราว 11 เปอร์เซ็นต์ แม้จะเป็นของชนิดเดียวกันแต่คนละสีก็ตาม หรือแม้แต่ไม้เท้าของผู้สูงอายุเพศหญิงก็จะมีราคาแพงกว่าของผู้ชายราว 12 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งเมื่อคำนวณออกมาแล้วจะพบว่าผู้หญิงมีค่าใช้จ่ายส่วนเกินที่มาจากภาษีสีชมพูกว่า 1,351 เหรียญดอลลาร์ต่อปี