‘ธีรัจชัย’ อัด รบ.หากต่อสัมปทานบีทีเอส 30 ปี ไม่ละทิ้งนิสัยเดิม คสช. หมางเมิน ปชช.

โฆษกกรรมาธิการ ป.ป.ช. สภา อัด รบ.หากต่อสัมปทานบีทีเอส 30 ปี ไม่ละทิ้งนิสัยเดิมคสช. หมางเมินความรู้สึกปชช. แนะเปิดประมูลใหม่เพื่อความโปร่งใส เชื่อกลไกสภาพร้อมตรวจสอบรักษาผลประโยชน์

นายธีรัจชัย พันธุมาศ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ในฐานะโฆษกคณะ กมธ.การป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบ สภา (กมธ.ป.ป.ช.) กล่าวถึงกรณีกระแสข่าวรัฐบาลเตรียมจะต่อสัญญาสัมปทานรถไฟฟ้าสายสีเขียวให้บริษัท ระบบขนส่งมวลชน กรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือบีทีเอสออกไป 30 ปีว่า โดยปกติแล้วหากมีการหมดสัญญา เดิมควรจะมีการเปิดประมูลใหม่ตามหลักการทั่วไปตามกฎหมายปกติ คือ พ.ร.บ.การร่วมทุนระหว่างรัฐและเอกชน ไม่ควรต่อสัมปทานให้ทันที โดยอาศัยอำนาจเดิมมาตรา 44 เพราะอาจทำให้เกิดความไม่โปร่งใสและมีอะไรแอบฝาง ทั้งที่ยุคนี้รัฐบาลมาจากการเลือกตั้ง หรือหากกระทำจริง อาจเป็นเพราะรัฐบาลชุดนี้ เป็นชุดรอยต่อและสืบทอดมาจากรัฐบาล คสช. จึงทำอะไรไม่แคร์ความรู้สึกของประชาชน จนเกิดการชุมนุมของประชาชนออกมาขับไล่อย่างต่อเนื่อง

โฆษก กมธ.ป.ป.ช.สภา กล่าวต่อว่า ดังนั้นจึงอยากเรียกร้องให้รัฐบาลเปิดประมูลให้เกิดความโปร่งใส ตรวจสอบได้ เพื่อขจัดข้อครหาต่างๆ เพราะยังมีหลายประเด็นที่ยังเกิดความสงสัยของประชาชน ไม่ว่าจะเป็นการคิดค่าโดยสารตลอดสายไม่เกิน 65 บาท หากต่อสัมปทานไปอีก 30 ปี (2572-2602 ) ซึ่งเป็นราคาที่แพงกว่ารถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินของ รฟม. ที่เก็บไม่เกิน 42 บาท ตลอดสาย อาจทำให้สังคมสันนิษฐานได้ว่าการเก็บค่าโดยสารแพง จะเป็นต้นทุนของอะไรหรือไม่

“หากในเร็วๆ นี้ ครม. อนุมัติให้สัมปทานแก่บีทีเอสจริง กมธ.ป.ป.ช.สภาจะต้องนำเรื่องเข้ามาสู่การหารือเพื่อตรวจสอบอย่างแน่นอน เพื่อป้องกันมิให้ประชาชนเสียประโยชน์ และยังเชื่อว่ากลไกต่างๆ ในสภาก็จะร่วมตรวจสอบเช่นกัน”