“ทวี ไกรคุปต์” เลื่อนให้การตำรวจปัดบุกรุกป่าสวนผึ้ง โวยกรมป่าไม้ ทำไมเพิ่งแจ้งจับ

เมื่อวันที่ 23 พฤศจิกายน ที่กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม(บก.ปทส.) นายทวี ไกรคุปต์ อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม บิดา น.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ ส.ส.ราชบุรี เขต 3 พรรคพลังประชารัฐ เข้ารับทราบข้อกล่าวหาตามความผิดใน 4 ข้อหา กรณีถูกร้องเรียนว่าบุกรุกที่ดินรัฐกว่า 1,000 ไร่ บริเวณ หมู่ 9 ต.ท่าเคย อ.สวนผึ้ง จ.ราชบุรี

นายทวี กล่าวว่า วันนี้มาขอเลื่อนวันให้การกับตำรวจ โดยนำเอกสารใบจองเพื่อออกเป็นหนังสือ นส.3 มามอบเป็นหลักฐาน ซึ่งเป็นเอกสารที่ออกไว้เมื่อปี 2516 แต่ยังไม่ทราบว่าได้มาอย่างไร เพราะทำธุรกิจอยู่ในกรุงเทพฯ ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับที่ดินในสวนผึ้งเลย กระทั่งเป็น ส.ส.ราชบุรี ในปี 2522 ยังไม่มีทรัพย์สินใน จ.ราชบุรี และปีต่อมา มีนายหน้านำที่ดินมาขาย 3 แปลง 90 กว่าไร่ เห็นว่าไม่มีทรัพย์สินที่นี่ทั้งที่เป็น ส.ส.ราชบุรี จึงซื้อไว้ กระทั่ง 3 ปีต่อมา มีนายหน้านำที่ดินอีก 3 แปลง 30 ไร่ ซึ่งอยู่ใกล้ๆ กับที่เดิมมาขาย สภาพที่ดินตอนนั้นเตียนโล่งไม่มีสภาพเป็นป่าไม้ก็เลยซื้อไว้ กระทั่งต้นปี 2563 กรมป่าไม้แถลงข่าวว่าตนมีที่ในเขตป่าก็สับสนว่าไม่มีป่าตั้งนานแล้ว เหตุใดไม่จับกุมดำเนินคดีตั้งนานมาแล้ว

ด้าน พ.ต.อ.วัชรินทร์ พูสิทธิ์ รอง ผบก.ปทส.กล่าวว่า พนักงานสอบสวนออกหมายเรียกนายทวี มารับทราบ 4 ข้อกล่าวหาตามที่ น.ส.ปารีณา ถูกตำรวจป่าไม้ ร้องทุกข์กล่าวโทษไปก่อนหน้านี้ ได้แก่ ความผิดตาม พ.ร.บ.ป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ. 2507 มาตรา 14 และ มาตรา 31 ความผิดตาม พ.ร.บ.ป่าไม้ พ.ศ. 2484 ความผิดตามประมวลกฎหมายที่ดิน และความผิดตาม พ.ร.บ.น้ำบาดาล พ.ศ. 2520 ร่วมกันประกอบกิจการน้ำบาดาล ในเขตน้ำบาดาลใดๆ ไม่ว่าจะเป็นผู้มีสิทธิ์หรือสิทธิครอบครองที่ดิน ในเขตน้ำบาดาลโดยไม่ได้รับอนุญาตโดยนายทวี นำเอกสาร นส.3 มาแสดงต่อพนักงานสอบสวนว่าครอบครองที่ดินประเภทดังกล่าว 200 ไร่ ซึ่งสอดคล้องกับข้อมูลที่ บก.ปทส. สอบสวนเจ้าหน้าที่กรมที่ดินว่านายทวี ครอบครองผืนดินดังกล่าวจริง เมื่อมาหักลบพบว่านายทวี บุกรุกที่ดินประมาณ 800 กว่าไร่ นอกจากนี้ พนักงานสอบสวนนำภาพถ่ายทางอากาศของที่ดินบริเวณดังกล่าวมาให้นายทวี ชี้จุดว่าที่ดินใดเป็นที่ดินที่ตัวเองครอบครองเอกสาร นส.3 โดยระหว่างนี้ บก.ปทส.จะสืบสวนสอบสวนหาเจ้าของที่ดินเดิมว่าเป็นใคร และนายทวี ซื้อที่ดินมาจากใคร เพื่อสอบถามเจ้าของที่ดินเดิมมาประกอบสำนวนว่าตรงกับที่นายทวี นำชี้จุดครอบครองหรือไม่

พ.ต.อ.วัชรินทร์ กล่าวอีกว่าในสัปดาห์หน้า ตำรวจ บก.ปทส.พร้อมเจ้าหน้าที่ศาล ผู้เชี่ยวชาญด้านแปรภาพถ่ายทางอากาศและแผนที่ เจ้าหน้าที่กรมที่ดิน และกรมป่าไม้ จะลงพื้นที่เกิดเหตุพร้อมนายทวี เพื่อให้เจ้าตัวนำชี้บริเวณที่ครอบครองตามเอกสาร นส.3 หลังจากนี้ พนักงานสอบสวนจะรวบรวมพยานหลักฐานและคำให้การของผู้เกี่ยวข้องทั้งหมดไปสรุปสำนวนส่งให้พนักงานอัยการพิจารณาสั่งฟ้องตามกฎหมายต่อไป