วันที่ 22 พฤศจิกายน 2563 นายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร ส.ส.มหาสารคาม และรองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เร่งรีบ รวบรัด ที่จะต่อสัมปทานฯ รถไฟฟ้าสายสีเขียว ออกไปอีก 40 ปี, โดยใช้ คำสั่ง คสช.ที่ 3/2562 เพื่อหลีกหนีการแข่งขัน ให้กับบริษัท BTS เพียงเจ้าเดียว ว่า จะสรุป เรื่อง ความไม่โปร่งใส ของสายสีเขียว ออกมาเป็น ตอนๆ วันนี้ จะเริ่ม ตอนที่-1 คือ จัดฉากสร้างหนี้ เพื่อแลกกับสัมปทานสายสีเขียว 40 ปี

โดยเมื่อวันที่ 26 พ.ย.61 ครม.มีมติฯ ให้ กทม. รับโอนโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียวส่วนต่อขยายช่วงแบริ่ง-สมุทรปราการ (เขียวใต้) และ ช่วงหมอชิต-สะพานใหม่-คูคต (เขียวเหนือ) มาจาก การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) , โดย พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าฯ กทม. ก็ไม่เคยบอกกับ ครม. มาก่อนเลย ว่า กทม. ไม่สามารถแบกรับหนี้ จำนวน : 44,429 ล้านบาทได้ และ ไปรับโอนหนี้ก้อนนี้ มาจาก รฟม.

สุดท้าย กทม. ก็มาบอกว่า ไม่มีปัญญาฯ ที่จะจ่ายหนี้ จำนวน 44,429 ล้านบาท จึงต้องมายกสัมปทานให้กับ BTS ออกไปอีก 40 ปี เพื่อแลกกับหนี้ ก้อนนี้ และทำไม? กทม.ไม่บอก กับ ครม. ก่อนว่า จะต้องมายกหนี้ก้อนนี้ เพื่อมาแลกกับการต่อขยายสัมปทานฯ ให้กับ บ.BTS

ยังมีหนี้อีกก้อน จำนวน 8,000 ล้านบาท ที่ กทม. ไปจ้าง BTS วิ่งรถฯ ส่วนต่อขยายเขียวเหนือ-ใต้ ตั้งแต่ ปี พ.ศ.2561 ถ้า กทม. รู้ว่าตัวเองไม่มีเงินจะจ่ายค่าจ้างวิ่งรถฯ แล้ว ไปรับโอนส่วนต่อขยายเขียวเหนือ-ใต้ มาจาก รฟม. ทำไม

ทั้งๆ ที่ ตอนที่ ก่อสร้างส่วนต่อขยายเขียวเหนือ-ใต้ รัฐบาลสมัยยิ่งลักษณ์ ถึงได้ให้ รฟม. เป็นคนดำเนินการฯ และรถไฟฟ้าสายสีเขียวส่วนต่อขยายฯ บางส่วนก็อยู่นอกพื้นที่ กทม. คือ อยู่ ใน จ.สมุทรปราการ และ จ.ปทุมธานี

สรุป คือ กทม. บอกว่า เป็นหนี้ ค่างานโยธาส่วนต่อขยายเขียวเหนือ-ใต้ อยู่ประมาณ 45,000 ล้านบาท และ หนี้ค่าจ้างวิ่งรถฯ อีก 8,000 ล้านบาท กทม. จัดฉากว่า เป็นหนี้ แล้วไม่เงินจ่ายหนี้ จึงต้องต่อสัมปทานรถไฟฟ้าสายสีเขียวออกไปอีก 40 ปี เพื่อให้ BTS มารับหนี้แทน กทม.

“ผมขอเรียก ว่า เป็น “การจัดฉากสร้างหนี้” และ บ.BTS มาบอกว่า จะลดค่าโดยสารให้ เหลือ 65 บาท ตลอดสาย ซึ่งถือว่า แพงมาก เพราะค่าโดยสารรถไฟฟ้าของ รฟม. (ตลอดสาย) เพียง 42 บาท , ถูกกว่า BTS ถึง 23 บาท”