วันที่ 21 พฤศจิกาย 2563 ที่ผ่านมา รอยเตอร์ รายงานว่า กระทรวงวัฒนธรรมอิตาลีแถลงผลการค้นพบร่างมนุษย์ 2 ร่าง ถูกลาวาจากภูเขาไฟระเบิดไหลกลบทั้งเป็น ช่วงสำคัญของประวัติศาสตร์เมืองปอมเปอี ประเทศอิตาลี ค.ศ.79 การที่ถูกลาวาไหลกลบทำให้ร่างคงสภาพดีมาก จนเห็นชัดว่า ร่างหนึ่งเป็นเจ้านาย ร่างหนึ่งเป็นทาส

มาสสิโม โอซานนา ผู้อำนวยการโบราณสถาน เมืองปอมเปอี กล่าวว่า คณะนักโบราณคดีพบร่างทั้งสองที่เมืองซิวิตา จูเลียนา ห่างจากศูนย์กลางเมืองโบราณปอมเปอี ไปทางตะวันตกเฉียงเหนือ 700 เมตร อยู่ตรงห้องใต้ดินของวิลลาขนาดใหญ่

ร่างแรกเป็นชายอายุราว 30-40 ปี มีรอยใส่เสื้อคลุมขนสัตว์ิ น่าจะเป็นคนที่มีฐานะดีและสถานะสูง ส่วนอีกร่าง อายุราว 18-23 ปี ใส่เสื้อคลุมรัดตัว มีร่องรอยกดทับของกระดูกสันหลัง แสดงถึงการเป็นทาสที่ใช้แรงงานหนัก กระดูกและฟันของทั้งสองร่างคงสภาพดีมาก

“เป็นไปได้ว่า ทั้งสองอาจหนีหาที่หลบภัยจากหินตะกอนภูเขาไฟ ช่วงราว 9 โมงเช้า และการเสียชีวิตน่าจะเป็นการถูกความร้อนฉับพลัน ทำให้มือกำแน่นและเท้าหงิกเกร็ง” นายโอซานนากล่าว

ด้านนายดาริโอ ฟรานเชสตินี รมว.วัฒนธรรม กล่าวว่า ปอมเปอีเป็นสถานที่เหลือเชื่อสำหรับการวิจัยและศึกษา

ปอมเปอี อยู่ห่างจากเมืองเนเปิลส์ ไปทางตะวันออกเฉียงใต้ 23 ก.ม. เป็นที่อยู่อาศัยของผู้คนราว 13,000 คน จังหวะที่ภูเขาไฟระเบิด ฝังคนไว้ใต้ขี้เถ้า ก้อนกรวด ฝุ่น และแช่แข็งไว้ผ่านกาลเวลา กระทั่งมีการขุดค้นในคริสตศตวรรษที่ 16

พ.ศ.1750 เริ่มขุดค้นอย่างเป็นระบบ ส่วนระยะหลังมานี้มุ่งขุดค้นซากต่างๆ หรือซากปรักหักพังของสิ่งปลูกสร้าง