้เกิดอะไรขึ้นบ้างในม็อบนักเรียนเลว | เผยใครอยู่เบื้องหลังม็อบ อัดรัฐยัดเยียดค่านิยมใส่หัว ไม่ทำหน้าที่ตัวเอง

‘เยาวชน’ ปราศรัย รัฐ จัดม็อบชนม็อบ หวัง รปห. ขอ ผู้ใหญ่เชื่อใจหวังดีต่อประเทศ ขอบคุณ ‘เสื้อแดง’ ทำตาสว่าง

เมื่อวันที่ 21 พฤศจิกายน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศการนัดชุมนุมของกลุ่มที่ใช้ชื่อว่า “นักเรียนเลว” ร่วมกับกลุ่ม “ม็อบเฟสต์” และภาคีนักเรียนทั่วประเทศ จัดกิจกรรม #บ๊ายบายไดโนเสาร์ โดยระบุว่า ถ้าสภาผู้แทนราษฎร รับบทไดโนเสาร์ ไม่รับ ไม่รู้ ไม่เปลี่ยนแปลง นักเรียนอย่างเราก็จะเป็นอุกกาบาต พุ่งชนความล้าหลังของผู้ใหญ่ในบ้านเมือง เมื่อเรียกร้องเรื่องการศึกษาแล้วไดโนเสาร์ไม่รับฟัง ก็จะพูดทุกเรื่องที่ไดโนเสาร์ไม่อยากฟัง เริ่มคึกคักตั้งแต่เวลา 13.30 น. ได้มีการแจ้งต่อผู้ชุมนุม เพื่อเปลี่ยนสถานที่ชุมนุมจากเดิมที่บริเวณแยกราชประสงค์เป็นบริเวณใต้สถานีรถไฟฟ้าบีทีเอสสยาม ฝั่งเซ็นเตอร์พ้อยท์ สยามสแควร์ มีมวลชนทยอยเดินทางมาร่วมชุมนุมต่อเนื่องหลังฝนได้หยุดตก โดยกลุ่มแอมเนสตี้ยังได้แจกริบบิ้นสีส้มให้กับผู้ชุมนุมที่อายุต่ำกว่า 15 ปี ส่วนสีชมพูอายุ 15-18 ปี และผ้าผูกสีแดง เป็นฝ่ายแพทย์และพยาบาล เพื่อดูแลและเฝ้าระวังหากเกิดการสลายการชุมนุม

โดยมีกลุ่มต่างๆ เข้าร่วมจำนวน 42 กลุ่ม อาทิ บอดินไม่อินเผด็จการ, บดินทร์นนท์จะไม่ทนเผด็จการ เกียมพัฒนาประชาธิปไตย, เด็กหญิงเฟม, เกี๊ยวอุดมเงยหน้าท้าเผด็จการ, สหพันธ์นักเรียนเพชรบูรณ์, กลุ่มเฟมินิสต์ปลดแอก, Voice From Friend, Yoteen, กลุ่มกางกราฟ ฯลฯ ทั้งนี้ กลุ่มนักเรียนเลวและภาคี ได้ย้ายสถานที่จัดกิจกรรมมายังใต้สถานีรถไฟฟ้าบีทีเอส สยาม ก่อนจะเตรียมความพร้อมตั้งเวที และกางเต๊นท์ทำกิจกรรม ตั้งแต่เวลาประมาณ 14.00 น. – 16.20 น.

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า 16.15 น. เยาวชนหญิงรายหนึ่ง ขึ้นปราศรัยตอนหนึ่งว่า “อันดับแรกเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นที่จะไปรวมตัวกันที่รัฐสภา ถามหน่อยไม่รู้หรือว่าเสื้อเหลืองพกอาวุธ แล้วมาอ้างว่าไม่มีหลักฐาน เป็นตำรวจได้อย่างไร หลังจากที่รู้ข่าว ก็วิ่งเข้าใส่ เพราะมีน้องเราถูกยิง แล้วที่บอกว่าม็อบพวกเรารุนแรง ย้อนกลับไปถามพวกคุณเถอะว่าใครเอาร่มมาตีพวกเรา แล้วที่บอกม็อบพวกเรารุนแรง ถามพวกคุณหรือยังว่าพวกคุณเอาเงินภาษีพวกเรามายิง มาตีพวกเรา เขาบอกเราจะล้มสถาบัน พวกเขาพูดเป็นสิบครั้งแล้ว สิ่งเดียวที่เราจะล้มเจ้าได้ คือเราป๊อกเก้า เจ้าป๊อกแปด เรื่องที่พี่น้องอาชีวะเสียสละไป บอกก่อนว่าพวกเขาต้องการจัดม็อบชนม็อบเพื่อให้เกิดรัฐประหาร แต่พวกเราไม่ได้โง่”

เยาวชนหญิงคนเดิม กล่าวอีกว่า “ตอนนี้ลืมไปแล้วว่าตนเองเป็นผู้หญิง แต่รู้สึกว่าต้องไม่มีใครมาตาย ต้องไม่มีใครมาเจ็บเพราะรัฐบาลชุดนี้อีกแล้ว และถ้าหากมีเหตุการณ์แบบนี้อีกขอให้ทุกคนมีสติ สู้กันด้วยสติ อย่าไปเดินตามเกมพวกเขา อย่าให้การต่อสู้ของเสื้อแดงที่พวกเขาเคยต่อสู้กันมาหลายสิบปีแล้วต้องมาตายฟรี ขอให้พวกเราสู้กันด้วยสันติวิธี แต่ถ้าเกิดการยั่วยุก็ให้พวกเขาเดินมาหาพวกเราเอง”

เยาวชนหญิงกล่าวต่อว่า ถ้าคุณมินเนี่ยนได้ฟังอยู่ อยากให้เชื่อใจเด็กอย่างพวกเรา ประเทศเปลี่ยนไปแล้ว รสชาติของน้ำร้อนมันก็เปลี่ยนไป พวกท่านอาจคิดว่าการรับราชการมันดี มันสบาย แต่ปัจจุบันเปลี่ยนไปแล้ว เด็กบางคนไม่จำเป็นต้องเรียนหนังสือแต่เขาก็มีเงิน ขอขอบคุณประยุทธ์ที่ทำให้เด็กอาชีวะมาจับมือกัน ขอบคุณประวิตรที่ตอบแต่ไม่รู้ ไม่รู้

“ขอขอบคุณการบริหาร 6 ปี ที่ทำให้รู้ว่า พวกเราออกมาบริหารประเทศได้เหมือนกัน ขอบคุณเรือดำน้ำที่ทำให้รู้ว่าพวกคุณเห็นแก่พวกพ้อง ไม่ได้เห็นแก่พวกประชาชนเลย ขอบคุณรถถังที่ในประเทศเราก็มีขายแต่ทำไมต้องไปซื้อต่างประเทศ เพราะเขาเป็นเครือญาติคุณประยุทธ์หรือไม่ อยากให้ทุกท่านเชื่อใจเด็กกะโปกในวันนั้นที่อยากเห็นประเทศเปลี่ยนแปลงในวันนี้ อยากขอโทษคุณลุงคุณป้าเสื้อแดง ที่ถ้าในวันนั้นพวกเขาไม่เอาชีวิตเข้าแลกก็ไม่ทำให้พวกเราตาสว่างในวันนี้ อยากขอให้ทุกคนปรบมือให้พี่น้องเสื้อแดง เพราะถ้าไม่มีพวกเขาในวันนั้นก็จะไม่มีประชาชนในวันนี้ ที่ออกมามีแค่พี่ๆ กลุ่มเล็กๆ วันที่โดนคดี พี่เขาพูดกับเราว่าพวกเขาจะเป็นไม้ต่อให้เอง” เยาวชนหญิงกล่าว

เวลา 17.10 น. มีการร้องเพลงเสื้อเหลืองน่ารัก โดยเน้นท่อน “เสื้อเหลืองใจเย็นๆ เวลาลงเล่นน่ารัก น่ารัก” ต่อด้วยเพลงโห่ โดยไดโนเสาร์ได้ร่วมเต้นด้วย

จากนั้นมวลชนตะโกนสามครั้งว่า “เผด็จการจงพินาศ ประชาราษฎรจงเจริญ” และ “เลือดทุกหยดของอาชีวะต้องไม่เสียฟรี”

ต่อมา 16.40 น. มีการแสดงโดยกลุ่มเฟมทวิตแดนซ์ ชุด นักเรียนลุยไฟ กล่าวถึงระบบการศึกษาที่ดับฝันเยาวชน และ เวลา 16.58 น. กลุ่ม B-Floor ทำการแสดง โดยตีกลองเป็นจังหวะ และร้องเพลง “เราคือเพื่อนกัน” ของวง สามัญชน ต่อด้วยเพลง Do you hear the people sing ? เวอร์ชั่นภาษาไทย โดยระบุว่า มอบเพลงนี้ให้เป็นเพลงมาร์ชของประชาชน

เมื่อเวลา 18.05 น. วันที่ 21 พ.ย. 2563 ที่สถานีรถไฟฟ้าบีทีเอส สถานีสยาม ตัวแทนกลุ่มนักเรียนเลว ขึ้นปราศรัยหัวข้อ “ใครกันแน่ที่อยู่เบื้องหลังม็อบ” โดยระบุถึงนายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รมว.ศึกษาธิการ ที่เคยออกมาพูดว่ามีผู้อยู่เบื้องหลังม็อบนักเรียน ว่า ตนก็สงสัยว่าเด็กที่ไหนจะมาตั้งเวทีปิดราชประสงค์ ปิดปทุมวันจนมาถึงสยามได้ วันนี้ตนจะมาเฉลยว่าคือ “หัวไหล่ตูด” หัวคือปัญหาที่เขาพยายามกดหัวเรา โดยระบบการศึกษาไม่ตอบโจทย์ ไม่คู่ควรกับสมองของเด็ก ขั้นแรกของเผด็จการคือการยัดอะไรก็ได้โดยที่ประชาชนไม่ต้องใช้สมอง 6 ปีที่ผ่านมาก็พยายามยัดเยียดค่านิยม 12 ประการให้พวกเรา

ตัวแทนกลุ่มนักเรียนเลว กล่าวอีกว่า ต่อมาคือไหล่หรือบ่า คือหน้าที่ที่ผู้ใหญ่คาดหวังอยากให้พวกเราสอบเข้ามหาวิทยาลัยดีๆ แต่ครูมีภาระจำนวนมาก ต้องไปทำประเมิน ทำให้เด็กเรียนไม่ครบ 8 ชั่วโมง สุดท้ายก็ต้องไปเรียนโรงเรียนกวดวิชา จากชั้นมัธยมศึกษาก็ลามไปถึงเด็กประถมที่ต้องไปเรียนกวดวิชา ลามไปถึงเด็กๆ ที่ต้องเรียนกวดวิชาเตรียมสอบเข้าประถม ใครมีฐานะก็โชคดี แต่เด็ก 65% ที่ยากจน ไม่สามารถไปเรียนได้ บางคนต้องออกจากระบบการศึกษาปีละเป็นล้านๆ คน รัฐธรรมนูญฉบับนี้ทำให้การศึกษาไม่ใช่สิทธิของเรา เด็กไม่ได้สิทธิเรียนฟรี 12 ปี ได้แค่ถึงม.3 ขณะที่นายกฯ บ่นว่าภาคแรงงานยังไม่มีฝีมือ แล้วใครทำให้เราได้เรียนแค่นี้ การศึกษาเป็นหน้าที่ของรัฐ แล้วรัฐทำหน้าที่ของตัวเองหรือไม่

ตัวแทนนักเรียนเลว กล่าวอีกว่า ส่วนตูดคือการถูกละเมิดสิทธิ เวลาที่เด็กทำอะไรไม่ถูกใจก็จะถูกตีที่ตูดหรือก้น ผู้มีอำนาจในโรงเรียนหรือในระบบการศึกษา บังคับให้เราต้องตัดผมตามที่เขาต้องการ ทำอำนาจของตัวเองให้ศักดิ์สิทธิ์ใหญ่กว่ารัฐธรรมนูญ แต่รัฐธรรมนูญกดหัวเรา ไม่เห็นเจตจำนงของประชาชน ทั้งหมดนี้คือเบื้องหลังของม็อบ ดังนั้น เราต้องแก้รัฐธรรมนูญ

“เครื่องซีรอกซ์ของไอลอว์ทำงานหนักกว่ารัฐมนตรีเสียอีก สิ่งที่ ส.ส.และ ส.ว.ทำในสภาฯ คือปัดตกร่างรัฐธรรมนูญของประชาชน ดังนั้น กติกาสูงสุดของประเทศต้องมาจากเจตจำนงของปวงประชา พวกเราจึงตั้ง kidscon แนวร่วมของเด็กและเยาวชนเพื่อการมีส่วนร่วมในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ให้รัฐธรรมนูญเป็นมิตรกับเด็ก โดย 1.สร้างพื้นที่ปลอดภัยให้กับเยาวชนที่ออกมาร่วมชุมนุม 2.ร่างรัฐธรรมนูญใหม่ 3.สร้างการมีส่วนร่วมของเยาวชนและทุกภาคส่วน ดังนั้นเราจะต้องแก้รัฐธรรมนูญให้เป็นของประชาชนอย่างแท้จริงให้ได้” ตัวแทนนักเรียนเลว ระบุ