เสาร์ 21 พ.ย.63 พลโทภราดร พัฒนถาบุตร เลขานุการคณะกรรมการกิจการพิเศษพรรคเพื่อไทยอดีตเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ(สมช.) กล่าวถึงแถลงการณ์นายกรัฐมนตรี เมื่อ19พ.ย.63 ที่ระบุว่ารัฐบาลจะเพิ่มความเข้มข้นในการบังคับใช้กฎหมายทุกมาตราที่มีอยู่ต่อผู้ชุมนุมที่ฝ่าฝืนกฎหมาย มันเป็นแถลงการณ์ที่ประชาชนผู้รักความเป็นธรรม ขอตั้งคำถามกลับไปว่าผู้นำสืบทอดอำนาจ ได้ประพฤติถูกทำนองคลองธรรมตามกฎหมายมาแล้วหรือ สถานการณ์การปะทะกันที่รัฐสภาเมื่อ17พ.ย.63 บ่งชี้ถึงการบังคับใช้กฎหมายที่ไม่เท่าเทียมกัน ไฟเขียวให้กลุ่มคนเสื้อเหลืองเข้าไปใกล้รัฐสภาได้ แต่ฉีดน้ำผสมแก๊ซน้ำตาสะกัดกั้นกลุ่มราษฎร ยกกำลังตำรวจมาเป็นโขยง แต่ปล่อยให้เกิดเหตุปะทะกัน ทั้งๆที่ใช้กำลังเพียงเล็กน้อยเป็นแค่โล่กั้นกลางและบังคับเส้นทางไม่ให้มวลชนสองฝ่ายมาเผชิญหน้ากันก็จบแล้ว

มันจึงอดคิดไม่ได้ว่าเป็นเล่ห์กลที่ต้องการให้เกิดเหตุการณ์ปะทะดังกล่าวขึ้น แต่เจ้าหน้าที่จะเคราะห์ร้ายถูกฟ้องร้องดำเนินคดีตามมาฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ปล่อยปละละเลยให้เกิดเหตุมวลชนเข้าปะทะกันจนบาดเจ็บ

ขณะเดียวกันสภาพสถานที่หากจะเกิดเหตุความรุนแรงขึ้นก็อยู่ในวิสัยที่เจ้าหน้าที่จะเข้าควบคุมพื้นที่ที่จะอพยพสมาชิกรัฐสภาทางเรือได้อย่างปลอดภัยไม่เกิดเหตุลุกลาม ในเมื่อรัฐสภาไม่อาจเป็นที่พึ่งของประชาชนได้ เพราะวุฒิสมาชิกที่ขาดความชอบธรรม แต่มาสะกัดกั้นร่างรัฐธรรมนูญฉบับไอลอว์ของประชาชนได้ มันจึงเป็นความชอบธรรมที่ประชาชนเขาต้องลงถนนมาต่อสู้เรียกร้องความเป็นธรรมให้กับตัวเอง นายกรัฐมนตรีสืบทอดอำนาจที่ประพฤติมิชอบเป็นอาจิณ แต่ย้อนแย้งมาออกแถลงการณ์จะบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มข้นกับประชาชน มันไม่มีทางสัมฤทธิ์ผลหรอก

ซึ่งสิ่งที่ตนเองพึงกระทำทันที ณ เวลานี้ ก็คือสำนึกมียางอายแล้วออกแถลงการณ์ขอลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีแทน เพียงแค่นี้การชุมนุมประท้วงใหญ่ของกลุ่มราษฎรแบบมิรู้จบ ก็จะสลายหายลงในทันที